ดัชนีเชื่อมั่นภาคอุตฯ ก.พ.เริ่มฟื้น หลังรัฐคลายล็อกเพิ่ม-กระตุ้นใช้จ่ายต่อเนื่อง
ดัชนีเชื่อมั่นภาคอุตฯ ก.พ.เริ่มฟื้น หลังรัฐคลายล็อกเพิ่ม-กระตุ้นใช้จ่ายต่อเนื่อง
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือน ก.พ.64 อยู่ที่ระดับ 85.1 เพิ่มขึ้นจากระดับ 83.5 ในเดือนม.ค.64
โดยค่าดัชนีฯ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า เนื่องจากภาคการผลิตกลับมาขยายตัวตามอุปสงค์ในประเทศและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น
โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 ของภาครัฐ อาทิ การอนุญาตให้สถานศึกษาเปิดเรียนตามปกติ การขยายเวลานั่งรับประทานอาหารในร้านถึง 23.00 น. รวมทั้งอนุญาตให้กิจการบางประเภทเปิดดำเนินการได้ ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ มาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ผ่านโครงการต่างๆ เช่น โครงการคนละครึ่ง, เราชนะ รวมทั้งการเพิ่มเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ช่วยกระตุ้นการบริโภคในประเทศอย่างต่อเนื่อง ในด้านการส่งออกมีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า รวมทั้งความคืบหน้าในการกระจายวัคซีนโควิด-19 ในประเทศต่างๆ ทำให้เศรษฐกิจการค้าโลกมีทิศทางที่ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการส่งออกยังคงประสบปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งเป็นปัญหาต่อเนื่อง รวมทั้งอัตราค่าระวางเรือที่อยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ต้นทุนค่าขนส่งเพิ่มขึ้น ขณะที่การแข็งค่าของเงินบาทมากกว่าประเทศอื่นในภูมิภาค บั่นทอนความสามารถในการแข่งขันด้านราคาของผู้ส่งออก
สำหรับดัชนีฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า ปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 92.0 จากระดับ 91.1 ในเดือนม.ค.64 เนื่องจากผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ รวมทั้งความคืบหน้าในการจัดหาและกระจายวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชาชนในประเทศ ขณะที่เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวจากการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในหลายประเทศ ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและภาคการผลิตขยายตัว รวมทั้งประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ อาทิ สหรัฐฯ และจีน มีการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
ประธาน ส.อ.ท. ยังมีข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ ดังนี้
1.เร่งรัดการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้เป็นไปตามแผน โดยเฉพาะกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง
2.อนุญาตให้เอกชนนำเข้าวัคซีนโควิด-19 ที่ได้ขึ้นทะเบียนกับ อย.แล้ว เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระภาครัฐ และช่วยให้การฉีดวัคซีนเร็วขึ้น
3.ภาครัฐควรดำเนินมาตรการฟื้นฟูผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง หลังจากมีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ตามแผนให้แก่ประชาชนแล้ว
4.เร่งแก้ไขปัญหาการเข้าถึงแหล่งเงินกู้ของผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม
5.เร่งแก้ไขการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ที่ยังเป็นปัญหาต่อเนื่อง เพื่อช่วยเหลือผู้ส่งออก