แนะซื้อ 14 หุ้น SET บ่ายทรงตัว หลังจบข่าวเฟด
SET เช้านี้เคลื่อนไหวคล้ายตลาดภูมิภาคที่แกว่งแคบแต่อิงในแดนบวกเป็นหลัก อาจเป็นเพราะเจอ Sell on Fact หลังรู้ผลประชุมเฟดให้คงดอกเบี้ย และรอปัจจัยใหม่เข้ามา ส่วนบ้านเราเจอแรงขายทำกำไรหลังหมดข่าว คาดบ่ายแกว่งคล้ายช่วยเช้า พร้อมให้จุดฟิวเตอร์และแนวรับไว้ที่ 1,385 แนวต้าน 1,400 จุด
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ช่วงเช้า (18 ก.ย.) แกว่งแคบแต่อิงในแดนบวกเป็นหลักคล้ายตลาดภูมิภาคหลังรู้ผลประชุมเฟดให้คงดอกเบี้ย และรอปัจจัยใหม่เข้ามาด้วย ส่วนบ้านเรามีแรงขายทำกำไรออกมาหลังหมดข่าว โดยเฉพาะ 3 แบงก์ที่เกี่ยวข้องกับ SSI หวั่นแบงก์อาจจะต้องตั้งสำรองเพิ่มในไตรมาส 3/58 (TISCO, KTB, SCB)
นักวิเคราะห์คาดช่วงบ่าย ตลาดคงแกว่งคล้ายช่วยเช้า พร้อมให้จุดฟิวเตอร์และแนวรับไว้ที่ 1,385 แนวต้าน 1,400 จุด ขณะที่ แนะนำซื้อ QH-PS-SIRI-STEC-CK-AMATA–TMB-KTC-PTTGC-BCP-TOP-IRPC-AOT และ CENTEL
น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวในกรอบแคบคล้ายตลาดหุ้นในภูมิภาคที่อิงไปในแดนบวกเป็นหลัก ทั้งนี้อาจเป็นเพราะได้มีการเล่นเก็งดักล่วงหน้าไปแล้วว่าธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะคงอัตราดอกเบี้ย ดังนั้นจึงมี Sell on Fact ในวันนี้บ้าง เพื่อรอปัจจัยใหม่เข้ามา ทั้งนี้ มุมองของเฟดในปี 59 มีความกังวลเศรษฐกิจโลกซบเซา และค่าเงินที่ปั่นป่วน อาจจะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเติบโตได้น้อยกว่าที่คาดไว้
ส่วนตลาดบ้านเราได้รับแรงขายทำกำไรออกมาบ้างหลังจากหมดข่าว โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มแบงก์ เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับคุณภาพสินทรัพย์ของแบงก์ ทำให้มีแรงขายออกมา โดยเฉพาะ 3 แบงก์ที่มีความเกี่ยวข้องกับกรณีของ SSI ทั้ง TISCO, KTB, SCB ที่อาจจะต้องมีการตั้งสำรองเพิ่มในไตรมาส 3/58
หลังจากที่ SSI มีปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน ซึ่ง ณ สิ้น 30 มิ.ย.58 ส่วนของผู้ถือหุ้นได้ติดลบไปแล้ว ทำให้คนต้องระวังแบงก์อื่นด้วย โดยมองไปที่ตัวเลข NPL ของแบงก์ที่วิตกว่าจะมีเพิ่มขึ้นได้
อย่างไรก็ดี ตลาดยังมีลุ้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง และยังมีคนที่คาดหวังว่าจะมีมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ออกมา ทำให้ช่วยพยุงตลาดไว้ได้เหมือนกัน ทั้งนี้ยังมองว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมาจะช่วยหนุนเศรษฐกิจปี 2559 ให้เติบโตได้มากกว่าปีนี้ (2558)
แนวโน้มการลงทุนบ่ายนี้ คาดตลาดแกว่งคล้ายกับช่วงเช้า พร้อมให้จุดฟิวเตอร์และแนวรับไว้ที่ 1,385 จุด ส่วนแนวต้าน 1,400 จุด
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (18 ก.ย.) SET เช้านี้ปรับตัวขึ้นตั้งแต่เปิดตลาดหลัง Fed คงดอกเบี้ย พร้อมมุมมองต่อดอกเบี้ยที่ Dovish มากขึ้น เมื่อเทียบกับการประชุมก่อนหน้านี้ ขณะที่ปัจจัยในประเทศติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของรัฐบาลในการประชุม ครม.ช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า แนะนำ “ซื้อ”
1. กลุ่มหุ้นที่ได้รับผลดีจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม: กลุ่มบ้านและที่ดิน กลุ่มรับเหมาฯ กลุ่มนิคมฯ และการบริโภคฟื้นตัว อย่าง: QH-PS-SIRI-STEC-CK-AMATA และ TMB (ทำรูปแบบ Inverse Head & Shoulder เป้าหมายระยะสัปดาห์ 2.8-2.9 บาท) KTC (PE ต่ำกว่า 10 เท่า ขณะที่ให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลประมาณ 4% เป้าหมายพื้นฐาน 115 บาท)
2. กลุ่มหุ้นที่ได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของราคาสินค้าโภคภัณฑ์: PTTGC (ค่าการกลั่น และราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรฯ สูง) BCP-TOP และ IRPC
3. กลุ่มท่องเที่ยว ที่กำลังเข้าสู่ช่วง High Season รับผลกระทบจากเหตุระเบิดจำกัด: AOT (จำนวนนักลงทุนเติบโตดีต่อเนื่อง ขณะที่ราคาหุ้นตอบรับกับปัจจัยลบเหตุระเบิดไปแล้ว เป้าหมายระยะสั้น 284-285 บาท) CENTEL
นอกจากนี้ แม้ธนาคารเจ้าหนี้ SSI มีการตั้งสำรองหนี้ไปแล้วกว่า 50% ของมูลหนี้ทั้งหมด แต่อาจมีความเสี่ยงต้องตั้งสำรองเพิ่มอีกในไตรมาส 3/15 นี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันธนาคารเจ้าหนี้อย่าง TISCO, KTB, และ SCB
สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า
ITD มูลค่าการซื้อขาย 859.16 ล้านบาท ปิดที่ 8.45 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท
TPIPL มูลค่าการซื้อขาย 637.49 ล้านบาท ปิดที่ 2.64 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 523.25 ล้านบาท ปิดที่ 235.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 509.54 ล้านบาท ปิดที่ 18.10 บาท ลดลง 0.20 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 498.78 ล้านบาท ปิดที่ 183.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์