SET ฟื้นตัวรับเฟดส่งสัญญาณขึ้นดบ.ปีนี้ชง 21 บจ.ดัง เก็บหุ้นอสังหาฯ-ก่อสร้างต่อ

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสที่จะฟื้นตัวได้ในหลังพยุงตัวยืนเหนือแนวรับ 1,370 จุด ต่อเนื่อง 2 วัน ขณะที่เฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยภายในปีนี้ การลงทุนยังเน้นไปที่กลุ่มได้รับผลดีจากการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศเช่น รับเหมา, อสังหาฯ


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.15 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 36.24 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่ ขานรับนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ที่ส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสที่จะฟื้นตัวได้ในหลังพยุงตัวยืนเหนือแนวรับ 1,370 จุด ต่อเนื่อง 2 วัน ขณะที่เฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยภายในปีนี้ การลงทุนยังเน้นไปที่กลุ่มได้รับผลดีจากการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศเช่น รับเหมา, อสังหาฯ หุ้นเด่นเลือก SCC-SEAFCO-IRPC-PTTGC-TOP-BCP-ITD-STEC-TRC-UNIQ-AAV-BA-ADVANC-LPN-SAMTEL-CENTEL-CHOW-RML-CK-NUSA และ CHOW

 

บล.ไอร่า ระบุในบทวิเคราะห์ (25 ก.ย.) ว่า ภายใต้ประเด็นในประเทศที่แม้ไม่มีปัจจัยชี้นำใหม่ๆ แต่คาดยังถูกกดดันจาก Fund Flow หลังต่างชาติยังขายสุทธิต่อเนื่อง และทำให้ยอดรวมตั้งแต่ต้นปีสูงกว่า 98,000 ล้านบาท ขณะที่ค่าเงินบาทยังมีทิศทางอ่อนค่า คาดน่าจะส่งผลต่อการไหลกลับเข้ามาของ Fund Flow

อย่างไรก็ตามคาดยังได้รับปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐที่มีต่อเนื่อง โดยเฉพาะมาตรการช่วยเหลือภาคอสังหาริมทรัพย์ ที่คาดมีความชัดเจน 2 สัปดาห์ข้างหน้า คาดเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และการเร่งรัดเปิดประมูลโครงการต่างๆ ของภาครัฐ คาดยังส่งผลดีต่อกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งล่าสุดกำหนดยื่นซองประมูลโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่คลอง 19-แก่งคอย สัญญา ที่ 1 และสัญญาที่ 2 มูลค่าประมาณ 9,277 ล้านบาท และ 559 ล้านบาท ตามลำดับ ในวันที่ 30/9/58 และคาดทราบผลในวันที่ 5/11/58

เช่นเดียวกับประเด็นต่างประเทศ ที่ไม่มีปัจจัยชี้นำใหม่ๆ แต่คาดยังได้รับปัจจัยกดดันจากความไม่แน่นอนทั้งระยะเวลา และการขึ้น/ไม่ขึ้นดอกเบี้ยของเฟด (เหลือการประชุมของเฟดอีก 2 ครั้งในปีนี้: 27-28/10/58 และ 15-16/12/58) ส่วนหนึ่งจากการส่งสัญญาณในทิศทางที่แตกต่างกันของเจ้าหน้าที่เฟดในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่สุนทรพจน์ล่าสุดของประธานเฟด คาดว่าเฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงต่อไปของปีนี้ภายใต้อัตราเงินเฟ้อที่ทรงตัว และเศรษฐกิจสหรัฐฯแข็งแกร่งเพียงพอต่อการกระตุ้นการจ้างงาน

นอกจากนี้คาดยังคงมีความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะจีน อย่างไรก็ตามยังแนะติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของจีนที่คาดอาจเป็นปัจจัยบวกต่อภาพรวมตลาดหลังจากนี้ไป จากก่อนหน้าที่มีความพยายามฟื้นฟูความเชื่อมั่น เพิ่มสภาพคล่อง รวมถึงกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยใช้มาตรการผ่อนคลาย ทั้งการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ลดสัดส่วนการกันสารองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) และอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ

ยังแนะติดตาม 1) หุ้นกลุ่มโรงกลั่น เช่น (IRPC, PTTGC, TOP และ BCP) จะได้รับผลกระทบจากการขาดทุนจากสต็อกน้ำมันในช่วงไตรมาส 3/58 แต่มองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมหุ้นในช่วงที่ราคาอ่อนตัวสำหรับการลงทุนในระยะยาวกลาง-ยาว ขณะที่ล่าสุดค่าการกลั่นอยู่ที่ US$8.8 ปรับขึ้นต่อเนื่องหลังลงไประดับต่าสุด US$4 เมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา 2) กลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่คาดยังคงได้รับประโยชน์จากโครงการภาครัฐ (ITD, STEC, TRC และ UNIQ)

3) ค่าเงินบาท ล่าสุดเคลื่อนไหวบริเวณ 36.24-36.26 และมีทิศทางอ่อนค่าลง 4) กลุ่มวัสดุก่อสร้างที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากโครงการก่อสร้างของภาครัฐ (TASCO และ VNG)5) กลุ่มโรงแรม (CENTEL) และหุ้นกลุ่มสายการบิน (เช่น AAV, BA) หลังสถานการณ์การท่องเที่ยวมีแนวโน้มทรงตัว และคาดดีขึ้น โดยเฉพาะช่วง High season ในไตรมาส 4/58 (6) กลุ่มสื่อสาร (ADVANC)

หุ้นแนะนำ: CENTEL

 

บล.เคเคเทรด ระบุในบทวิเคราะห์ (25 ก.ย.) ว่า การที่ SET พยุงตัวยืนเหนือแนวรับ 1,370 จุด (เส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน) ต่อเนื่อง 2 วัน ทำให้ SET มีโอกาสที่จะฟื้นตัวได้ในวันนี้ โดยมีแนวต้าน 1,380 จุด กลยุทธ์การลงทุน: แนะนำเก็งกำไรระยะสั้น

Top Daily Pick: LPN (มูลค่าเหมาะสม 20.50 บาท), SAMTEL (มูลค่าเหมาะสม 23 บาท)

Technical Pick: CENTEL, CHOW, RML 

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (25 ก.ย.) ว่า ถ้อยแถลงประธาน Fed บ่งชี้ถึงโอกาสที่จะขึ้นดอกเบี้ยภายในปีนี้ต่อไป ขณะที่แรงขาย SCC, SCB, KTB ที่ชะลอตัว และการฟื้นตัวของราคาน้ำมันมีแนวโน้มหนุน SET ฟื้นตัววันนี้แนวต้าน 1,380 +/- จุด

1. “ซื้อ” SCC: แรงกดดันจากความกังล SCB ขายหุ้นออกมาลดลง หลังทำ Big Lot ขายให้กับสำนักงานทรัพย์สินทั้งหมด (SCB ยืนยันว่าจะขายแค่ SCC เท่านั้น) ซึ่งเป็นโอกาส “ซื้อ” เป้าหมายพื้นฐาน 610 บาท จาก Spread HDPE-Naphtha และ HDPE-Ethylene สูงขึ้น ขณะที่ธุรกิจวัสดุก่อสร้างได้รับผลบวกจากโครงการภาครัฐฯ 4Q15 นี้

2. “ซื้อ” รับเหมาฯ รัฐบาลเร่งเปิดประมูลโครงสร้างพื้นฐานตั้งแต่ไตรมาส 4/15 เป็นต้นไป: CK STEC SEAFCO UNIQ

3. “ซื้อ” กลุ่มท่องเที่ยว: กำลังเข้าสู่ช่วง High Season ปลายปีนี้ แนะนำ “ซื้อ” AOT และ CENTEL

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (25 ก.ย.) ว่า ประเด็นสำคัญวันนี้ติดตาม ธปท.จะปรับคาดการณ์ GDP ปีนี้ลงจากเดิมที่คาดไว้ที่ระดับ 3% กลยุทธ์การลงทุน ยังวางแนวรับสำคัญบริเวณ 1,365-1,370 จุด หากยืนไม่ได้ยังแนะนำลดพอร์ต ระยะสั้นแนะนำเก็งกำไร CK, STEC (+โครงการลงทุนวงเงิน 2 แสนล้านบาท)

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (25 ก.ย.) คาดการณ์มุมมองทางเทคนิค SET เมื่อวันก่อนปรับลงแต่ยังทรงตัวบนเส้นค่าเฉลี่ย MA25 (อยู่ที่ 1,370) โดยMACD ลดลงอยู่ที่ -0.86 ใต้ signal line ภาพระยะสั้นยังแสดงภาพขาขึ้น แต่จะแกว่งตัวในกรอบ 1370-1400 นานขึ้น จะทำให้ตลาดแกว่งตัวในกรอบ 1,370-1,400 อาจเกินกว่า 1 สัปดาห์ไร้ทิศทาง

แนวโน้มของตลาดจะเคลื่อนไหวที่กรอบ 1,370-1,400

หุ้นที่เลือกวันนี้มีโอกาสปรับขึ้น แนะนำซื้อเก็งกำไร NUSA และ CHOW

Back to top button