SET ร่วงต่อ กังวลศก.จีนกดดันต่างชาติขายปรับกลยุทธ์เล่นสั้น หุ้นมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยเสี่ยงปรับลงตามตลาดต่างประเทศ ขณะที่คาดว่านักลงทุนต่างชาติจะขายต่อเนื่องจากความกังวลเศรษฐกิจจีนจะชะลอตัว รวมถึงคาดการณ์เฟดขึ้นดอกเบี้ยภายในปีนี้ การลงทุนรอซื้อเมื่อดัชนีอ่อนตัว หรือเก็งกำไรหุ้นที่มีประเด็นบวกเฉพาะตัว, ได้รับผลดีจากการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.18 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 36.25 บาทต่อเหรียญ อ่อนค่าต่อเนื่อง ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลง เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยว่า ผลกำไรของบริษัทอุตสาหกรรมรายใหญ่ของจีน ร่วงลงอย่างหนักในเดือนส.ค.

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยเสี่ยงปรับลงตามตลาดต่างประเทศ ขณะที่คาดว่านักลงทุนต่างชาติจะขายต่อเนื่องจากความกังวลเศรษฐกิจจีนจะชะลอตัว รวมถึงคาดการณ์เฟดขึ้นดอกเบี้ยภายในปีนี้ การลงทุนรอซื้อเมื่อดัชนีอ่อนตัว หรือเก็งกำไรหุ้นที่มีประเด็นบวกเฉพาะตัว, ได้รับผลดีจากการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ

หุ้นเด่นเลือก MEGA, BJC, ECF, INTUCH, DCC, KTC, CK, CSS และ BROCK

 

นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์การลงทุน บล.โกลเบล็ก เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (29 ก.ย.) คาดว่าจะปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ปรับตัวลงค่อนข้างแรงกว่า 1% เนื่องจากมีความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (FED) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังประธานเฟดสาขานิวยอร์คออกมาระบุว่า อัตราดอกเบี้ยใกล้ถึงจุดต่ำสุดแล้ว

อีกทั้งตัวเลขเศรษฐกิจของจีนยังไม่ดี โดยกำไรบริษัทอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของจีนได้ติดลบ 8.8% นอกจากนี้ ตัวเลขส่งออกของไทยในเดือนส.ค.ออกมาติดลบ 6.7% ลดลงอย่างต่อเนื่องด้วย รวมทั้งเงินบาทก็อ่อนค่า ทำให้นักลงทุนต่างชาติน่าจะขายหุ้นออกอย่างต่อเนื่อง

พร้อมให้แนวรับ 1,335-1,325 จุด ส่วนแนวต้าน 1,360 จุด

 

บล.เคทีบี (ประเทศไทย)  ระบุในบทวิเคราะห์ (29 ก.ย.) ว่า การปรับตัวลดลงของกำไรในภาคอุตสาหกรรมของจีน บวกกับนักลงทุนต่างประเทศที่ขายหุ้นในภูมิภาคนี้อีกครั้ง และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลดลง กลับมาเป็นปัจจัยลบต่อตลาดหุ้นอีกครั้ง ขณะที่ปัจจัยในประเทศ GDP ที่อิงกับการขยายตัวของภาคส่งออก ถ้าเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงต่อเนื่องจะเป็นลบมาถึงเศรษกิจไทย ด้วยปัจจัยลบที่ต่อเนื่องมาจากวันก่อน คาดจะทำให้ดัชนีฯมีโอกาสที่จะลดลงต่อในวันนี้

กลยุทธ์การลงทุน ด้วยหุ้นขนาดใหญ่ หรือแม้กระทั่งหุ้นเล็กยังมีโอกาสที่จะถูกขายจากนักลงทุนที่ลดความเสี่ยงในตลาด ในภาพรวมเราแนะนำให้ชะลอการลงทุน และรอดูผลการประชุม ครม. หากมีวาระหรือมติที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ จะเป็นบวกต่อตลาดด้วย

หุ้นที่คาดว่า นักลงทุนจะให้ความสนใจ ในลักษณะของการเก็งกำไรช่วงสั้นๆ ในวันนี้ อาทิ MEGA , BJC , ECF , INTUCH

Stock in Focus: DCC (ราคาเหมาะสม 3.80 บาท)

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (29 ก.ย.) ว่า SET อ่อนแอกว่าที่คาดหลุดแนวรับ 1,360 จุด มีจังหวะปรับลดลงต่อ โดยถ้าอิงรายงาน Trade CODE จะเห็นว่าหุ้นส่วนใหญ่ที่เคยอยู่ในโซน “ซื้อเพิ่ม”/“เริ่มฟื้นตัว” ในสัปดาห์ก่อนเคลื่อนมาสู่โซน “ลดพอร์ต” หรือ “พักฐาน”

แนะนำ “Wait & See” มอง Downside จำกัด แต่การพักฐานใช้เวลากว่าที่คาด ระยะสั้นเน้น “เก็งกำไร” รายตัว KTC

 

บล.ไอร่า ระบุในบทวิเคราะห์ (29 ก.ย.) คาด SET มีโอกาสปรับลงอีก แต่คาดเป็นไปอย่างจำกัดหลังวานนี้ลดลงไปเกือบ 25 จุด ภายใต้ปัจจัยกดดันจาก ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเฟดที่คาดยังมีผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะจีนที่อาจส่งผลกระทบต่อประเทศคู่ค้า

อย่างไรก็ตามยังแนะติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของจีน จากก่อนหน้าที่มีความพยายามฟื้นฟูความเชื่อมั่น เพิ่มสภาพคล่อง รวมถึงกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยใช้มาตรการผ่อนคลาย ทั้งการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) และอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ

หุ้นแนะนำ: CK

 

บล.ยูโอบี เคย์เฮียน ระบุในบทวิเคราะห์ (29 ก.ย.) คาดตลาดไทยวันนี้มีแนวโน้มซึมลงต่อ โดยปัจจัยลบหลักมาจากตัวเลขส่งออกที่ปรับลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8 และปรับลงมากกว่าที่ตลาดคาดไว้ บวกกับกลุ่มแบงก์มีความเสี่ยงถูกปรับลดประมาณกำไรลงจากประเด็นหนี้ SSI นอกจากนี้ภายนอกประเทศบรรยากาศยังไม่ดีนักจากความกังวลเรื่องเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยก่อนสิ้นปีและการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ซึ่งก็มีส่วนส่งผลให้ราคาน้ำมันอ่อนค่าลงต่อและตลาดภายในเอเชียโดยรวมยังมี sentiment เป็นลบในวันนี้

แนวรับ/แนวต้าน: 1,330/1,370 สัดส่วนการลงทุน: เงินสด 60%: พอร์ตหุ้น 40%

กลยุทธ์: เริ่มสะสมหุ้นเมื่อดัชนีย่อลง เน้นพื้นฐานดี ปันผลสูง และได้ประโยชน์จากโครงการรัฐและ window dressing ทยอยขายบ้างเมื่อเข้าใกล้ 1,400 จุด

นักลงทุนระยะสั้นแนะนำ: CSS (6.20), BROCK (3.20)

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (29 ก.ย.)แนะนำกลยุทธ์การลงทุน ดัชนีหลุด Filter สำคัญที่ระดับ 1,365 จุด ซึ่งฝ่ายวิจัยได้แนะนำลดพอร์ตในกรณีดังกล่าว โดยคาดการณ์ดัชนียังเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway down โดยมีแนวรับที่ระดับ 1,320-1,340 จุด แนะนำ Wait & See เพื่อรอซื้อกลับอีกครั้ง

Back to top button