ปรับแผนเล่นสั้น SET เสี่ยงปรับฐานเก็งกำไรหุ้นมีสัญญาณบวกทางเทคนิค

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย ยังมีปัจจัยลบกดดันรอบด้าน ดัชนียังคง Sideway และมีความเสี่ยงที่จะปรับตัวลงฐานลงสู่ระดับ 1,320 จุด ระยะสั้นจึงแนะนำเก็งกำไรหุ้นที่มีสัญญาณบวกทางเทคนิค หรือสะสมหุ้นปันผลสูง


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.21 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 36.56 บาทต่อเหรียญ ด้านตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลง ขณะที่นักลงทุนจับตาดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย. ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง เทียบกับระดับ 173,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. และคาดว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 5.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 7 ปี

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทย ยังมีปัจจัยลบกดดันรอบด้าน ดัชนียังคง Sideway และมีความเสี่ยงที่จะปรับตัวลงฐานลงสู่ระดับ 1,320 จุด ระยะสั้นจึงแนะนำเก็งกำไรหุ้นที่มีสัญญาณบวกทางเทคนิค หรือสะสมหุ้นปันผลสูง

หุ้นเด่นเลือก CK-STEC-UNIQ-SCC-PS-AOT-CENTEL-COM7-TVT-BDMS-AP-TMT-KOOL-WORK-ANAN-CPN-TOP-DCC-BIGC-XO-VIBHA-MCS-SIM-KOOL และ DCC

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (2 ต.ค.) คาด SET เคลื่อนไหวแบบไร้ทิศทางต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ในกรอบ 1,340-1,360 จุด ขณะที่ระยะสัปดาห์มอง Downside Risk จำกัด และคงเป้าหมายการปรับสูงขึ้นระยะสัปดาห์ที่ 1,408 จุด เหมือนเดิมจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เริ่มส่งผลบวกใน 4Q15, นักท่องเที่ยวเริ่มกลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติ หลังเหตุระเบิด และการเร่งเปิดประมูลโครงสร้างพื้นฐาน

แนะนำ “เก็งกำไร” หุ้นเด่นในรายงาน Trade CODE อย่าง WORK ขณะที่ “ซื้อ” รับเหมาฯ อสังหาฯ ท่องเที่ยว เพื่อคาดหวังผลตอบแทนระยะสัปดาห์

1) กลุ่มรับเหมาฯ และวัสดุก่อสร้าง “ซื้อ” CK, STEC, UNIQ และ SCC
2) อสังหาฯ คาดมาตรการกระตุ้นเพิ่ม: “ซื้อ” PS ได้รับผลดีมากที่สุด
3) กลุ่มท่องเที่ยว ที่กำลังเข้าสู่ช่วง High Season ผลกระทบจากเหตุระเบิดกลางเดือน ส.ค.จำกัด แนะนำ “ซื้อ” AOT และ CENTEL 

 

บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (2 ต.ค.) ว่า วานนี้เห็นได้ชัดว่านักลงทุนเข้าลงทุนในลักษณะเก็งกำไรช่วงสั้นๆ หุ้นที่ปรับตัวสูงขึ้นจะเป็นหุ้นที่ได้ปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและหุ้นทีมีข่าวเฉพาะตัว ขณะที่หุ้นที่มีความกังวลเรื่องผลประกอบการไตรมาส 3 จะยังคงชะลอตัว การลงทุนในวันนี้ภายใต้กรอบการเคลื่อนไหวแบบแคบๆของตลาด จึงต้องเน้นเล่นสั้นๆไว้ก่อน

หุ้นที่คาดว่า นักลงทุนจะให้ความสนใจ ในลักษณะของการเก็งกำไรในวันนี้ อาทิ AOT, CENTEL, COM7, TVT ส่วนหุ้นที่อยู่ในกลุ่มที่มีผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง จะเป็น AP, TMT

Stock in Focus: BDMS (ราคาปิด 18.70 บาท ราคาที่เหมาะสม 22.20 บาท)

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (2 ต.ค.) ว่า ปัจจัยลบที่ยังกดดันตลาดอยู่ คือ ปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัวและธนาคารพาณิชย์ยังต้องสำรองหนี้ NPL ขณะที่ IMF ได้ให้ความเห็นต่อภาวะเศรษฐกิจโลกยังมีปัจจัยเสี่ยงจากปัญหาผู้อพยพในยุโรป, เศรษฐกิจจีนชะลอตัว และสหรัฐเริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ย

กลยุทธ์การลงทุน ประเมินดัชนี SET ยังคง Sideway ในกรอบ 1,340-1,360 จุด โดยยังมีความเสี่ยงที่จะปรับฐานลงสู่ระดับ 1,320 จุด ระยะสั้นจึงแนะนำเก็งกำไรในหุ้นที่ยังมีโมเมนตัมบวกทางเทคนิค เช่น DCC, KOOL และ WORK

 

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (2 ต.ค.) ว่า ภาพตลาดเป็นลบ และมีโอกาสแกว่งลง สำหรับการรีบาวด์จะมีแนวต้านระยะสั้น 1350-1360, 1370 จุด การซื้อใหม่เน้นตามด้วยค่าบวก ค่าลบดูไม่ดี อาจหมายถึงการร่วงต่อแบบมีระยะทาง สำหรับหุ้นที่มีสัญญาณทางเทคนิคดี สามารถเลือกซื้อเก็งกำไรระยะสั้น (แต่ไม่บวกไม่เล่น) ได้แก่ ANAN, CPN, TOP, CENTEL, DCC, WORK, BIGC, XO, VIBHA, MCS และ SIM 

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (2 ต.ค.)คาดการณ์มุมมองทางเทคนิคSET เมื่อวันก่อนยังเคลื่อนไหวใต้ MA25 (อยู่ที่ 1,374) เป็นวันที่สี่ซึ่งยังแสดงสัญญาณเชิงลบที่สำคัญของ indicator รอบนี้ ในขณะที่ MACD ลดลงต่อเนื่องที่ -8.52 ใต้ signal line ทำให้ภาพระยะสั้นจะแกว่งตัวลงที่ 1,330 จุดการเคลื่อนไหวของตลาดที่ผ่านมา 4 วันทำการกำลังแสดงสัญญาณ breakdown ทำให้แนวโน้มในรอบนี้แสดงภาพขาลงทดสอบแนวรับต่างๆต่อไป

แนวโน้มของตลาดจะเคลื่อนไหวที่กรอบ 1,330-1,356

หุ้นที่เลือกวันนี้มีโอกาสปรับขึ้น แนะนำซื้อเก็งกำไร KOOL ราคาหุ้นมีโอกาสปรับขึ้นในระยะสั้น แนะนำซื้อ-ขายที่กรอบแนวต้าน (2.32) และแนวรับ (2.14) จุด stop loss หากต่ำกว่า 2.10 บาท และ DCC ราคาหุ้นมีโอกาสรับขึ้นในระยะสั้น แนะนำซื้อ-ขายที่กรอบแนวต้าน (3.90) และแนวรับ (3.76) จุด stop loss หากต่ำกว่า 3.74 บาท

Back to top button