ตลาดคาดเฟดยังไม่รีบขึ้นดอกเบี้ยSET บ่ายไปต่อ แนวต้าน 1,370

SET เช้านี้ปรับตัวตามตลาดต่างประเทศหลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐต่ำกว่าคาด เล็งเฟดไม่รีบขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งต้องรอผลประกอบการ Q3/58 คาดออกมาไม่ดี ส่วน Q4/58 กลุ่มท่องเที่ยวหนุน ด้านมาตรการภาครัฐคงเห็นผลต้นปีหน้า วอลุ่มเทรดลดน้อยลงเรื่อยๆ เหตุนักลงทุนยังไม่มั่นใจ บ่ายคาดตลาดเทรดใกล้เคียงช่วงเช้า โดยมีแนวต้านที่ 1,370 จุด ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 1,351 จุด


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ช่วงเช้า (5 ต.ค.) ปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นต่างประเทศหลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐต่ำกว่าคาด ซึ่งมองว่าเฟดคงยังไม่รีบขึ้นดอกเบี้ยในช่วงต.ค.นี้ ขณะที่ตลาดหุ้นไทยต้องรอดูผลประกอบการของไตรมาส 3/58 คาดจะออกมาไม่ดีเท่าที่ควร ขณะที่ มาตรการภาครัฐคงเห็นผลช่วงต้นปีหน้า ส่งผลให้วอลุ่มเทรดน้อยลงเรื่อยๆ เหตุนักลุงทุนยังเกิดความกังวลต่อเศรษฐกิจไทย

นักวิเคราะห์คาดช่วงบ่าย ตลาดหุ้นไทยเทรดใกล้เคียงช่วงเช้า โดยมีแนวต้านที่ 1,370 จุด ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 1,351 จุด

 

นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง หรือ BLS เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก หลังจากที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐออกมาน้อยกว่าคาด ทำให้มองว่าการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ในเดือนต.ค.นี้อาจยังไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เปิดทางให้มีการเล่นเก็งกำไร

ทั้งนี้ ต้องรอดูผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในงวดไตรมาส 3-4 ปีนี้ ซึ่งคาดว่ากำไรไตรมาส 3/58 อาจจะออกมาไม่ดีนัก และน่าจะสร้างความผิดหวัง เพราะคาดว่ามาตรการของภาครัฐจะไปเห็นผลในไตรมาส 1/59 เป็นอย่างเร็ว ส่วนไตรมาส 4/58 อาจมีแรงหนุนจากกลุ่มท่องเที่ยวหลังจากเข้าช่วง High Season

อย่างไรก็ตาม เห็นได้ว่าวอลุ่มเทรดของตลาดลดลงเรื่อยๆ เนื่องจากนักลงทุนยังไม่มั่นใจและต้องการรอดูตัวเลขต่างๆ ก่อน ดังนั้น การเทรดของตลาดช่วงนี้จึงเป็นเพียงแค่การเทรดดิ้งสั้นๆ

แนวโน้มการลงทุนบ่ายนี้ คาดตลาดหุ้นไทยคงเทรดบริเวณใกล้เคียงกับช่วงเช้า โดยมีแนวต้านที่ 1,370 จุด ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 1,351 จุด

 

บล.เอเอสแอล ระบุในบทวิเคราะห์ (5 ต.ค.) SET ช่วงเช้าปิดบวกตามตลาดภูมิภาคที่ปรับตัวขึ้น เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่า ทางการจีนจะใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อเร่งการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศ รวมทั้งกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม หลังจากมีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่เพิ่มขึ้นต่ำกว่าคาดในเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 142,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 5.1% จากคาดการณ์ว่าการจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย.

สำหรับปัจจัยในประเทศ ธนาคารโลกมีการประเมินเศรษฐกิจไทย ปี 58 ว่าจะขยายตัวได้ราว 2.5% จากการใช้จ่ายภาครัฐ และรายรับจากการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะขยายตัวอย่างเข้มแข็ง หากเสถียรภาพทางการเมืองปรับตัวดีขึ้น

ขณะที่ปี 59 คาดการณ์ GDP ไทยขยายตัว 2% และในปี 60 ขยายตัวได้ 2.4% เป็นผลจากเศรษฐกิจจีนยังคงซบเซา และเศรษฐกิจประเทศเกิดใหม่ยังชะลอตัว ส่วนการดำเนินโครงการของภาครัฐ ในด้านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจะมีส่วนสำคัญที่ช่วยส่งเสริมให้ทิศทางเศรษฐกิจข้างหน้าสดใสมากขึ้น

แนวโน้มภาคบ่าย หากดัชนีสามารถยกจุดต่ำสุดขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมกับสามารถกลับมายืนเหนือ เส้น EMA 45 Hrs. ได้อีกครั้ง เป็นสัญญาณที่ดีหากยืน 1,360 ได้ มีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบ1,368 จุด

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,400.23 ล้านบาท ปิดที่ 221.00 บาท ลดลง 5 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 906.09 ล้านบาท ปิดที่ 252.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 722.70 ล้านบาท ปิดที่ 171.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท

INTUCH มูลค่าการซื้อขาย 662.38 ล้านบาท ปิดที่ 71.75 บาท ลดลง 1.00 บาท

TWPC มูลค่าการซื้อขาย 631.88 ล้านบาท ปิดที่ 6.50 บาท

 

ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์

Back to top button