SET ขึ้นต่อ-สถานีถัดไป 1,408 จุดธีมหุ้นเด่นวันนี้เน้นกลุ่มพลังงานปิโตรฯ
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ปรับขึ้นต่อเนื่องจากราคาน้ำมันดิบมีการปรับตัวขึ้นแรงซึ่งจะส่งผลให้มีแรงซื้อกลับมาในหุ้นกลุ่มพลังงานที่จะช่วยหนุนดัชนี รวมทั้งเริ่มมีกระแสเงินทุนเริ่มไหลกลับเข้ามา ด้านปัจจัยภายใน กำลังติดตามดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (CCI) ก.ย.ที่จะออกวันพรุ่งนี้ หากมีสัญญาณฟื้นตัว/สร้างฐานได้ จะส่งผลดีเพิ่มขึ้นต่อธีมความเชื่อมั่นในประเทศ
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” รายงานเช้านี้ ณ เวลา 9.16 น. ค่าเงินบาทล่าสุดอยู่ที่ 36.22 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่นักลงทุนกำลังจับตาดูธนาคารกลางญี่ปุ่นเปิดเผยมติการประชุมนโยบายการเงินเดือนต.ค. ในวันนี้
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ปรับขึ้นต่อเนื่องจากราคาน้ำมันดิบมีการปรับตัวขึ้นแรงซึ่งจะส่งผลให้มีแรงซื้อกลับมาในหุ้นกลุ่มพลังงานที่จะช่วยหนุนดัชนี รวมทั้งเริ่มมีกระแสเงินทุนเริ่มไหลกลับเข้ามา ด้านปัจจัยภายใน กำลังติดตามดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (CCI) ก.ย.ที่จะออกวันพรุ่งนี้ หากมีสัญญาณฟื้นตัว/สร้างฐานได้ จะส่งผลดีเพิ่มขึ้นต่อธีมความเชื่อมั่นในประเทศ
สำหรับหุ้นเด่นวันนี้ ได้แก่ PTT, PTTEP, TOP, PTTGC, IVL, BANPU, IRPC, BCP, IRPC, KCE,EPG,SAMART และ IFEC
นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้น เนื่องจากราคาน้ำมันได้กระโดดขึ้นมา 2 เหรียญฯกว่า น่าจะช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงานได้ อีกทั้งราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานก็มี valuation ที่น่าสนใจแล้วหลังจากที่ได้ปรับตัวลงไปค่อนข้างมาก โดยเฉพาะหุ้น PTT
นอกจากนี้ จะเห็นได้ว่ามีกระแสเงินทุนเริ่มไหลกลับเข้ามาบ้างแล้ว โดยเฉพาะตลาดในกลุ่ม TIP ที่มีการซื้อโดยรวมถึง 100 ล้านเหรียญฯ ทั้งนี้ Flow ที่ไหลเข้ามาก็เชื่อว่าน่าจะเข้ามาที่หุ้นบิ๊กแคป โดยเฉพาะหุ้นที่ได้ปรับตัวลงไปมากแล้ว อย่างหุ้นในกลุ่มแบงก์ และกลุ่มพลังงาน รวมทั้งได้เห็นสัญญาณซื้อสุทธิในตลาดฟิวเจอร์ด้วย
ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อย โดยวันนี้ให้ติดตามการประชุม BOJ และในวันพรุ่งนี้ก็ให้ติดตามการประชุม ECB พร้อมให้แนวรับ 1,368-1,367 จุด ส่วนแนวต้าน 1,380 จุด
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (7 ต.ค.) คาดดัชนีวันนี้บวกต่อหนุนโดยยอดซื้อสุทธิของต่างชาติเมื่อวานหนุนจิตวิทยา และหุุ้นพลังงานมีแนวโน้มฟื้นตัวหลังราคาน้ำมันพุ่งเกือบ 5% รับข่าวสหรัฐ ประเมินการผลิตน้ำมันในสหรัฐลดลงในปีหน้า และแนวโน้มการเจรจาระหว่างรัสเซียและกลุ่มโอเปกเพื่อประคองราคาน้ำมัน ในส่วนของ IMF เมื่อวานออกรายงานลด GDP โลกปี 58 และ 59 เหลือ 3.1% และ 3.6% ตามลำดับ ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีและไม่น่าส่งผลต่อตลาดหุ้นโลก ทั้งนี้ IMF มอง GDP จีนปี 58-59 ที่ 6.8%/6.3% ตามลำดับ ด้านปัจจัยภายใน กำลังติดตามดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (CCI) ก.ย.ที่จะออกวันพรุ่งนี้ หากมีสัญญาณฟื้นตัว/สร้างฐานได้ จะส่งผลดีเพิ่มขึ้นต่อธีมความเชื่อมั่นในประเทศ
หุ้นเด่นวันนี้ เก็งกำไร EPG/สะสม SAMART/IFEC
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (7 ต.ค.) SET มีแนวโน้มปรับขึ้นต่อ เป้าหมายระยะสั้น 1,388 แลถัดไปที่ 1,408 จุด โดยการปรับสูงขึ้นของราคาน้ำมันดิบ Brent US$2.67/bbl เมื่อคืนนี้จากคาดการณ์ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐฯ จะค่อยๆ ลดลงไปจนถึงกลางปี 2016 จะเป็นปจจัยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน ต่อ และแนะนำ “ซื้อ” PTT
บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (7 ต.ค.) วางกรอบแนวรับ 1,360 และแนวต้าน 1,380 จุด แนะนำเทรดดิ้งระยะสั้น เนื่องจากประเมิน Upside ดัชนียังค่อนข้างจำกัด โดย Valuation ตลาดที่ระดับ 1,380 จุดคิดเป็น Forward P/E ที่ 14.87 เท่า ระยะสั้นแนะนำเก็งกำไร BCP , IRPC , KCE
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (7 ต.ค.) แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้คาด SET Index ขึ้นต่อ มีโอกาสทดสอบดัชนีเป้าหมายของเราในสิ้นปีนี้ที่ 1,380 จุด โดยมีแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงานที่คาดว่าจะปรับตัวขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันดิบที่กลับมาพุ่งแรงเป็นบวกต่อ PTT PTTEP กลุ่มปิโตรฯ และโรงกลั่น หุ้นในกลุ่มสื่อสารมีโอกาสขึ้นต่อ เนื่องจากในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาราคาหุ้นยัง Laggard ตลาดมากที่สุด
กลยุทธ์วันนี้ : Selective Buy เน้นหุ้นในกลุ่มพลังงานที่ได้ผลบวกจากราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นแรง
Trading วันนี้: IVL ราคาหุ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมายัง Laggard หุ้นในกลุ่มพลังงานและปิโตรฯตัวอื่นๆ (PTT
PTTEP TOP PTTGC BANPU IRPC BCP)
บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (7 ต.ค.) กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ แม้จะมีปัจจัยลบจากการที่ IMF ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกลง แต่คาดว่าตลาดหุ้นไทยจะยังคงปรับตัวขึ้นได้นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีจากการที่ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นแรงเมื่อคืนนี้
นอกจากนั้นการกลับเข้ามาซื้อของนักลงทุนต่างประเทศก็คาดว่าจะช่วยหนุนราคาหุ้นขนาดใหญ่พยุงดัชนีไว้ได้ วันนี้ยังแนะนำให้ซื้อเก็งกำไรในกลุ่มพลังงาน (TOP PTTGC) ที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น, ธนาคาร (KBANK KTB) ที่ราคาปรับลดลงมาแรงนับจากต้นปีและสะท้อนแนวโน้มผลกำไรที่จะลดลงในไตรมาส 3/58 แล้ว, โรงแรมและการท่องเที่ยว (AOT CENTEL CPN MINT)ที่ได้อานิสงค์จากการที่รัฐบาลประกาศเพิ่มวันหยุดในปีหน้าเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวและงบไตรมาส 3/58 จะออกมาดีตามการฟื้นตัวของธุรกิจท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามการเก็งกำไร
ในช่วงนี้ควรพิจารณาค่าเงินบาทประกอบไปด้วย หากค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าลงทะลุ 36.50บาท/ดอลลาร์ ต้องระมัดระวังแรงขายของนักลงทุนต่างประเทศที่อาจกดให้ตลาดกลับมาปรับลดลงได้ วันนี้ให้แนวรับที่ 1360-1363 และแนวต้านที่ 1375-1380 จุด