เก็บ 11 หุ้นมีปัจจัยหนุน SET บ่ายแกว่งแคบ

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ช่วงเช้า (8 ต.ค.) เช้านี้เจอแรงขายทำกำไร แต่ยังมี Flow ไหลเข้ากลุ่มสื่อสารช่วยพยุงดัชนี และบาทแข็งหนุน Flow ต่างชาติไหลเข้า คาดเป็นช่วงระยะสั้นเท่านั้น คงต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐต่อเนื่องก่อนถึงการประชุมเฟดอีกครั้ง ด้านนตลาดภูมิภาคเช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในบวกหลังตลาดหุ้นจีนกลับมาเปิด

นักวิเคราะห์คาดช่วงบ่าย ดัชนีแกว่งตัวในกรอบแนวรับ 1,385 แนวต้าน 1,400 จุด ขณะที่ แนะนำ CK-STEC-UNIQ-ITD-SCC-AOT-CENTEL-MINT-KBANK-TMB และ INTUCH

 

นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีแรงขายทำกำไรออกมา แต่ยังมี Flow ไหลเข้าไปที่หุ้นกลุ่มสื่อสาร ทำให้การอ่อนตัวของดัชนีฯไม่มาก และเริ่มเห็นได้ว่าเงินบาทเริ่มแข็งค่าขึ้นตั้งแต่เมื่อวานนี้ สนับสนุน Flow ต่างชาติไหลเข้ามา

สำหรับตลาดหุ้นเอเชียที่ได้รับผลดีจากคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ( FED) จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนต.ค.นี้ แต่ Flow ที่เข้ามาคงจะไม่มากและมองว่าเป็น Flow ระยะสั้น เนื่องจากเฟดจะมีการประชุมอีกรอบในเดือนธ.ค.อาจจะมีประเด็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยกลับเข้ามาอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐอย่างต่อเนื่องไปอีก 2 เดือนก่อนถึงการประชุมเฟดในเดือนธ.ค.นี้ ด้านตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก หลังจากตลาดหุ้นจีนกลับมาทำการปกติ

แนวโน้มการลงทุนบ่ายนี้ คาดดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแนวรับ 1,385 จุด ส่วนแนวต้าน 1,400 จุด พร้อมแนะนำให้ซื้อเมื่อราคาหุ้นปรับตัวลงมา

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (8 ต.ค.) SET เคลื่อนไหวอย่างจำกัดกว่าที่คาดการณ์ไว้ ในช่วงเช้าที่ผ่านมา เนื่องจากแม้มีรายขายหุ้นที่ปรับสูงขึ้นแรงเมื่อวานนี้ อย่างกลุ่มพลังงานเข้ามาบ้าง แต่ 1) แรงขายหุ้นกลุ่มพลังงาน และวัสดุก่อสร้างเป็นไปอย่างจำกัด 2) แรงซื้อกลุ่มหุ้น Laggard Plays อย่างกลุ่มสื่อสาร และกลุ่มรับเหมาฯ ก่อสร้างที่ยังขึ้นมาไม่มากนัก ทั้งนี้มองการ “พักฐาน” ของ SET เป็นโอกาสในการ “ซื้อ” ด้วยเป้าหมายการปรับสูงขึ้นระยะสัปดาห์ที่ 1,408-1,420 จุด และเป้าหมายสิ้นปีที่ 1,500 จุด

ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยคาดว่าจะเห็น Sector Rotation หรือการ “เปลี่ยนกลุ่ม” ลงทุนเข้ามามากขึ้น หลังจากหุ้นกลุ่มพลังงานเป็น “ตัวนำ” ตลาดตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเราคาดว่ากลุ่มหุ้นที่ยัง Laggard ตลาดอยู่ อย่างกลุ่มสื่อสาร และรับเหมาฯ ที่มีการประมูล 4G รออยู่ในเดือน พ.ย.นี้ และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่เริ่มขายซองประมูลแล้วตั้งแต่ต้นปี และยื่นซองในเดือน พ.ย.นี้

แนะนำหุ้นกลุ่มดังนี้

1. กลุ่มรับเหมา และวัสดุก่อสร้าง “ซื้อ” CK-STEC-UNIQ และ ITD (Trading โดยเฉพาะถ้าทะลุ 8.50 ไปได้ คาดว่าจะปรับสูงขึ้นต่อไปที่ 9.20 บาท) และ SCC

2. กลุ่มท่องเที่ยว เข้าสู่ช่วง High Season “ซื้อ” AOT-CENTEL-MINT (รอจังหวะ “พักฐาน” ของ CENTEL MINT)

3. ธนาคาร Valuation ต่ำ ต่างชาติชะลอขายหุ้น “ซื้อ” KBANK-TMB (กำลังทดสอบแนวต้าน 2.58 บาท และทำรูปแบบ Inverse Head & Shoulder เป้าหมาย 2.7/2.88 บาท)

4. Laggard Plays อย่างกลุ่มสื่อสารที่ Underperform ตลาดไป 7.5% ในช่วง 1 เดือน แนะนำ “ซื้อ” INTUCH ปันผลสูง 6.3-7.1%

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

TRUE มูลค่าการซื้อขาย 2,172.86 ล้านบาท ปิดที่ 10.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท

JAS มูลค่าการซื้อขาย 2,024.40 ล้านบาท ปิดที่ 5.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,640.36 ล้านบาท ปิดที่ 234.00 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,433.68 ล้านบาท ปิดที่ 268.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง

TFG มูลค่าการซื้อขาย 1,331.96 ล้านบาท ปิดที่ 1.90 บาท ลดลง 0.05 บาท

 

ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์