เก็บ 10 หุ้น ช่วงฝรั่ง Come BackSET บ่ายยังทรงตัวแดนบวกต่อ

SET เช้านี้ปรับตัวขึ้นแรงกว่าตลาดหุ้นอื่นที่ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก โดยเฉพาะไทย-อินโดฯปรับตัวขึ้นแรงขานรับสหรัฐเลื่อนขึ้นดอกเบี้ยไปเป็นปีหน้า ส่วนบ้านเรามีแรงถ่วงจากงบ Q3/58 ของกลุ่มใหญ่อย่าง ICT และแบงก์ ที่มองว่าจะไม่น่าประทับใจ ตลาดฯจึงเป็นลักษณะเก็งกำไร บ่ายคาดดัชนีน่าจะยืนในแดนบวกแต่คงไม่ขึ้นแรงกว่านี้ พร้อมให้แนวรับ 1,400 แนวต้าน 1,420 จุด


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ช่วงเช้า (9 ต.ค.) ปรับตัวขึ้นแรงกว่าตลาดหุ้นภูมิภาคที่ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก โดยเฉพาะไทยและอินโดนิเซียปรับขึ้นแรง รับผลบวกจากสหรัฐที่มองว่าเฟดอาจะเลื่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปปีหน้า ขณะที่มองว่าช่วงนี้ตลาดหุ้นไทยยังไม่มีปจจัยหนุนที่แน่นอน ดังนั้นจึงมองว่าตลาดยังเป็นลักษณะของการเก็งกำไรเท่านั้น

นักวิเคราะห์คาดช่วงบ่าย ดัชนีฯน่าจะสามารถยืนในแดนบวกได้แต่คงปรับขึ้นแรงกว่านี้ได้ไม่มาก พร้อมให้แนวรับ 1,400 จุด ส่วนแนวต้าน 1,420 จุด ขณะที่ แนะนำหุ้น SCC-CK-STECUNIQ-PS-CPALL-KTC-KBANK-ADVANC และ PTT

 

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นแรงกว่าตลาดหุ้นภูมิภาคที่ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก โดยเฉพาะตลาดหุ้นไทย และตลาดหุ้นอินโดนีเซียปรับตัวขึ้นแรง เนื่องจากรับผลบวกจากสหรัฐที่มองว่าธนาคารกลางสหรัฐ (FED) อาจเลื่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปเป็นปีหน้า (2559) แต่มองว่าตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศหลักอย่าง จีน และ สหรัฐอาจจะยังผันผวน

ส่วนตลาดหุ้นไทยรอผลประกอบการงวดไตรมาส 3/58 ในหลายๆ Sector โดยเฉพาะกลุ่มใหญ่อย่าง ICT และแบงก์ มองว่าไม่น่าประทับใจ ดังนั้นจึงมองว่าตลาดยังเป็นลักษณะของการเก็งกำไร ซึ่งมองว่าเมื่อหุ้นปรับตัวขึ้นก็ควรที่จะขายทำกำไรออกมาก่อน

แนวโน้มการลงทุนบ่ายนี้ คาดดัชนีน่าจะยืนในแดนบวกได้แต่คงจะไม่ขึ้นไปแรงกว่านี้เท่าไร พร้อมให้แนวรับ 1,400 จุด ส่วนแนวต้าน 1,420 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (9 ต.ค.) SET เช้านี้มีสัญญาณกลับตัวขึ้นที่ชัดเจนยิ่งขึ้น หลังทะลุ 1,404 จุดขึ้นมา โดยจากรายงาน TradeCode จะเห็นว่าหุ้นที่เคยอยู่ในสถานะ “ลดพอร์ต” และ “พักฐาน” ในช่วงปลายสัปดาห์ก่อน เคลื่อนย้ายมาที่ตำแหน่ง “ซื้อเพิ่ม” และ “เริ่มสะสม” เสียส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นสัญญาณ “บวก” ต่อการปรับสูงขึ้นระยะสัปดาห์

ขณะที่ถ้าพิจารณาเป็นรายตัวจะเห็นว่าหุ้นใหญ่ๆ ในกลุ่มพลังงาน ธนาคาร และสื่อสาร ได้เคลื่อนมาที่ตำแหน่ง “เริ่มสะสม” แล้วเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ถ้าพิจารณาถึงแนวโน้มค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น และรายงานการประชุม Fed ที่บ่งชี้ถึงความกังวลต่อเศรษฐกิจโลก ทำให้มีโอกาสเห็นกระแสเงินทุนไหลกลับระยะสั้นอย่างต่อเนื่อง

กลุ่มหุ้นที่ดูน่าสนใจและคาดว่าจะมีแนวโน้มแข็งแกร่งกว่าตลาดยังคงเป็นหุ้นที่ได้ผลบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างกลุ่มรับเหมา และวัสดุก่อสร้าง SCC-CK-STEC และ UNIQ และกลุ่มอสังหา PS กลุ่มหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคในประเทศอย่าง CPALL-KTC รวมไปถึง หุ้นที่ปรับตัวลงมาแรง และเป็นตัวเลือกแรกๆของต่างชาติ หากการกลับมาของต่างชาติมีความต่อเนื่อง เช่น KBANK-ADVANC และ PTT

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

JAS มูลค่าการซื้อขาย 2,965.05 ล้านบาท ปิดที่ 5.60 บาท ลดลง 0.05 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,509.59 ล้านบาท ปิดที่ 274.00 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,371.87 ล้านบาท ปิดที่ 183.50 บาท เพิ่มขึ้น 5.00 บาท

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,150.31 ล้านบาท ปิดที่ 77.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.75 บาท

SCB มูลค่าการซื้อขาย 906.98 ล้านบาท ปิดที่ 146.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท

 

ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์

Back to top button