โบรกฯแนะเก็บ 8 หุ้นเด็ด SET บ่ายซึมตัว
SET เช้านี้ทรงตัวแถว 1,400 จุด เหตุไม่ค่อยมีประเด็นใหม่ ด้านตลาดภูมิภาคอยู่ในแดนลบ โดยนักลงทุนให้ความสนใจเศรษฐกิจจีน และราคาน้ำมัน บ่ายนี้คาดตลาดซึมตัว โดยให้ติดตามตลาดหุ้นในยุโรปที่จะเป็นตัวชี้นำบรรยากาศการลงทุน ซึ่งคาดตลาดหุ้นในยุโรปน่าจะปรับตัวลงเหตุภาพเศรษฐกิจยังชะลอตัวอยู่ พร้อมให้แนวรับ 1,395 แนวต้าน 1,417 จุด
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ช่วงเช้า (14 ต.ค.) เช้านี้ทรงตัวแถว 1,400 จุด เหตุไม่ค่อยมีประเด็นเพิ่มมาก ด้านตลาดภูมิภาคเช้านี้ต่างอยู่ในแดนลบ โดยนักลงทุนให้ความสนใจเศรษฐกิจจีน และราคาน้ำมัน
นักวิเคราะห์คาดช่วงบ่าย ตลาดฯคงซึม โดยให้ติดตามตลาดหุ้นในยุโรปที่จะเป็นตัวชี้นำบรรยากาศการลงทุน ซึ่งคาดตลาดหุ้นในยุโรปน่าจะปรับตัวลงเหตุภาพเศรษฐกิจยังชะลอตัวอยู่ พร้อมให้แนวรับ 1,395 แนวต้าน 1,417 จุด ขณะที่ แนะนำซื้อ CK-STEC-SEAFCO-UNIQ-BTS-GIF-DIF และ JASIF
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง (BLS) เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซต์เวย์มาแถวบริเวณ 1,400 จุด เนื่องจากตลาดฯไม่ค่อยมีประเด็นเพิ่มมาก ขณะที่ดัชนีฯได้สะท้อนตัวเลขเศรษฐกิจของจีนเมื่อวานนี้ไปแล้ว ส่วนตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนในวันนี้คงไม่ค่อยน่าสนใจมากนัก
ด้านตลาดภูมิภาคอยู่ในแดนลบ โดยตอนนี้นักลงทุนจะให้ความสนใจเศรษฐกิจของจีน และราคาน้ำมัน ซึ่งต่างก็รอดูว่าจีนจะมีการออกนโยบายใหม่หรือไม่ เพราะภาพใหญ่ยัง slow
ส่วนแนวโน้มการลงทุนบ่ายนี้ คาดตลาดซึมตัว โดยให้จับตาที่ตลาดในยุโรป เพราะจะเป็นตัวชี้นำในบรรยากาศการลงทุน ซึ่งคาดว่าตลาดในยุโรปน่าจะปรับตัวลงเนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจไม่ดี ทำให้ตลาดลังเลนโยบายของ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ว่าจะมีการทำ QE เพิ่มหรือไม่ เพราะแม้ว่าอัตราดอกเบี้ยจะต่ำ และสภาพคล่องสูง แต่ก็ไม่ค่อยมีผลต่อตัวเลขเศรษฐกิจ เพราะเศรษฐกิจยุโรปยังชะลอตัวอยู่ พร้อมให้แนวรับ 1,395 จุด ส่วนแนวต้าน 1,417 จุด
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (14 ต.ค.) ว่า Sector Rotation มายังกลุ่มหุ้นขนาดกลางทำให้ SET พักฐานเป็นไปอย่างจำกัดกว่าที่คาดการณ์ไว้ในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา ขณะที่คงเป้าหมายสิ้นปีที่ 1,500 จุด ต่อไป
ทั้งนี้ แนะนำ “ซื้อ” กลุ่มรับเหมาฯ ก่อสร้างต่อเนื่อง โดยเป็นหุ้นที่ Laggard ตลาดในช่วงสัปดาห์ก่อน และเป็นเป้าหมายที่ถูก Rotation ระยะสั้น ขณะที่การประมูลโครงสร้างพื้นฐานมีความคืบหน้าต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นนรถไฟรางคู่ และมอเตอร์เวย์ โดยให้ CK เป็น Top Picks และคงแนะนำ “ซื้อ” STEC SEAFCO และ UNIQ
นอกจากนี้ยังแนะนำ “ซื้อ” EPG (ดูเพิ่มในรายงาน Pathumwan Corner วันที่ 13 ต.ค. – เป้าหมาย Consensus 12 บาท) จากแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 58 (ก.ค.-ก.ย.15) เติบโตแข็งแกร่ง 136% จาดช่วงเดียวกันปีก่อน และ 16% จากไตรมาสก่อนหน้าที่ 335 ล้านบาท และทั้งปีกำไรเติบโตแกร่ง 96% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 1,381 ล้านบาท ล่าสุดราคาหุ้นปรับสูงขึ้นยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 3 เดือน มีเป้าหมายปรับขึ้นระยะสั้นที่ 9.65-9.70 บาท
อย่างไรก็ตาม การ Switching ไปยังกลุ่มหุ้น High Beta เป็นปัจจัยกดดัน Yield Plays อย่าง BTSGIF, DIF และ JASIF ในช่วงที่ผ่านมา แต่มองเป็น “โอกาส” ซื้อสำหรับนักลงทุนที่ 1) ต้องการเงินปันผลสูง 6.1-7.4% ต่อปี 2) จ่ายปันผลเป็นรายไตรมาส 3) ผลการดำเนินงานมีความผันผวนต่ำ อย่าง JASIF และ DIF คาดราคาหุ้นค่อยๆ ฟื้นตัวตั้งแต่กลางเดือนนี้ เพื่อรับปันผล 1.8% ในช่วง 1 เดือนข้างหน้า (จ่ายทุกไตรมาส)
สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า
JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,152.71 ล้านบาท ปิดที่ 5.45 บาท ลดลง 0.10 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 754.20 ล้านบาท ปิดที่ 262.00 บาท ลดลง 3.00 บาท
SCI มูลค่าการซื้อขาย 644.87 ล้านบาท ปิดที่ 7.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท
ORI มูลค่าการซื้อขาย 556.05 ล้านบาท ปิดที่ 11.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 518.25 ล้านบาท ปิดที่ 10.50 บาท ลดลง 0.10 บาท
ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์