SET สถานีถัดไป 1,450 จุดชง 20 หุ้นเด่นเน้นเก็งกำไรสั้น

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นในกรอบจำกัด เนื่องจากตลาดยังมีผลดีจากที่จีนได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้-เงินฝากลง 0.25% และการประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB) ก็มีการส่งสัญญาณออกมาว่าอาจจะมีการซื้อสินทรัพย์เพิ่ม ดังนั้นเมื่อมีทิศทางที่จะเพิ่มสภาพคล่องในระบบมากขึ้น จึงทำให้ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียดีดตัวขึ้นแรง อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นไทยอาจมีปัจจัยถ่วงจากการประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ที่อาจออกมาไม่ดีมากนัก


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” รายงานเช้านี้ ณ เวลา 9.16 น. ค่าเงินบาทล่าสุดอยู่ที่ 35.56 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ หลังแบงก์ชาติจีนประกาศลดดอกเบี้ยและ RRR เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัว

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นในกรอบจำกัด เนื่องจากตลาดยังมีผลดีจากที่จีนได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้-เงินฝากลง 0.25%  และการประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB) ก็มีการส่งสัญญาณออกมาว่าอาจจะมีการซื้อสินทรัพย์เพิ่ม อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นไทยอาจมีปัจจัยถ่วงจากการประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ที่อาจออกมาไม่ดีมากนัก ขณะที่มองระยะสัปดาห์ดัชนีมีโอกาสแตะ 1,450 จุด

สำหรับหุ้นเด่นวันนี้ ได้แก่  ICHI, PTTEP, SMPC,SMT,IFEC, MCS, ASEFA, KCE, KBANK, TMB, AOT, ITD, CENTEL, MINT, STEC, CK, UNIQ, SEAFCO, SCC และ INTUCH

 

นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี โอเอสเค(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้นในกรอบที่แกว่งตัว เนื่องจากมี Sentiment บวกจากต่างประเทศ หลังจากที่จีนได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้-เงินฝากลง 0.25%  และการประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB) ก็มีการส่งสัญญาณออกมาว่าอาจจะมีการซื้อสินทรัพย์เพิ่ม หรือเพิ่มระยะเวลาในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อที่จะทำให้เศรษฐกิจในยุโรปฟื้นตัวขึ้นให้ได้ หลังจากที่ตัวเลขเงินเฟ้อออกมาไม่ค่อยดีนัก

ดังนั้น เมื่อมีทิศทางที่จะเพิ่มสภาพคล่องในระบบมากขึ้น จึงทำให้ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียดีดตัวขึ้นแรงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งตลาดหุ้นไทยปิดทำการ และเช้านี้ตลาดภูมิภาคก็ยังคงอยู่ในแดนบวกโดยรวม

อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นไทยอาจมีปัจจัยถ่วงจากการประกาศผลประกอบการของกลุ่มพลังงาน อย่างบมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม(PTTEP) ที่มีผลประกอบการไตรมาส 3/58 ขาดทุนมาก และ outlook ราคาน้ำมันยังมีทิศทางที่ลดลง

สำหรับการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ในสัปดาห์นี้ก็ยังมีทิศทางที่เฟดจะยังไม่รีบขึ้นอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ดีจะต้องติดตามดูการประชุมด้วย

พร้อมให้แนวรับ 1,400 จุด ส่วนแนวต้าน 1,430 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (26 ต.ค.)  SET ได้รับปัจจัยหนุนจากการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลกช่วงปลายสัปดาห์ก่อน จาก 1) ECB ส่งสัญญาณเพิ่ม QE การประชุมครั้งถัดไป และ 2) การปรับลดดอกเบี้ยทั้งเงินฝาก และกู้ของธนาคารกลางจีน (PBOC) ลง 0.25% อย่างไรก็ดีผลการดำเนินงาน 3Q15 ของ PTTEP ที่ออกมาต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้มาก (ดูเพิ่มในรายงานกำไร PTTEP วันนี้) จะเป็นปัจจัยกดดัน PTTEP และ PTT ส่งผลให้การปรับสูงขึ้นจำกัดวันนี้ ขณะที่คงมุมมองบวกระยะสัปดาห์ เป้าหมาย 1,450 และปลายปี 1,500 จุด ต่อไป

มองการ “พักฐาน” ของ SET เป็นโอกาส “ซื้อ” เพื่อหวังผลระยะ 1-2 เดือนข้างหน้า เป้าหมาย 1,500 จุด โดยเฉพาะ:-

          1. กลุ่มท่องเที่ยว เข้าสู่ช่วง High Season “ซื้อ” AOT (FAA เข้าตรวจสอบมาตรฐาน 26-28 ต.ค.นี้) CENTEL MINT

          2. ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน “ซื้อ” STEC CK UNIQ SEAFCO SCC

          3. กลุ่มสื่อสาร : ประมูล 4G เดือน พ.ย.นี้ “ซื้อ” INTUCH

 

บล.ยูโอบี เคย์เฮียน ระบุในบทวิเคราะห์ (26 ต.ค.)  คาดตลาดไทยวันนี้จะปรับสูงขึ้น โดยมีปัจจัยหนุนจากต่างประเทศเป็นหลักโดยเฉพาะการที่จีนประกาศปรับลดดอกเบี้ยลงอีกครั้งเพื่อเพิ่มสภาพคล่องและกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่ทาง ECB ก็พร้อมที่จะออกมาตรการหนุนเศรษฐกิจเช่นกัน ทางด้านเฟดยังไม่มีวี่แววที่จะขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ ดังนั้น โดยรวม sentiment เป็นบวก และตลาดไทยมีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1430 จุดอีกครั้ง แนวรับ/แนวต้าน : 1400/1430 สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%

กลยุทธ์ : เน้นเล่นสั้นในช่วงนี้ ทยอยขายทำกำไรหากดัชนีเข้าใกล้ 1430 จุด เริ่มสะสมหุ้นเมื่อดัชนีย่อลงแรง เน้นพื้นฐานดี ปันผลสูง และได้ประโยชน์จากโครงการรัฐ

นักลงทุนระยะสั้น : MCS (15), ASEFA (5.5)

นักลงทุนระยะยาว : KCE (69), CK (32)

 

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (26 ต.ค.)  เลือกตัวเก็งกำไร คาดตลาดวันนี้มีแนวโน้มจิตวิทยาเชิงบวก หลังจากตลาดต่างประเทศมีการดีดกลับขึ้น คาดหวังว่าจิตวิทยาเชิงบวกนี้จะส่งผลให้ดัชนีสะท้อนเชิงบวกเช่นกันในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ตลาดอยู่ในช่วงการประกาศผลกำไรไตรมาส 3 ซึ่งคาดว่าจะไม่ดีมากนัก เช่นนี้แนะนำเก็งกำไรหุ้นที่มีเม็ดเงินไหลเข้าเป็นสำคัญ

หุ้นเด่นเก็งกำไร SMPC,SMT/สะสม IFEC

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (26 ต.ค.)  ประเมิน SET น่าจะได้รับแรงหนุนจากประเด็นข่าวการลดอัตราดอกเบี้ยของจีน , ECB อาจจะขยาย QE ในการประชุม ธ.ค. นี้ ส่วน BOJ คาดจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุม 30 ต.ค. นี้  ประเมินทิศทางตลาดมีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,430 – 1,440 จุด แนวรับ 1,410 จุด แนะนำซื้อลงทุน  KBANK , TMB , AOT , ITD  ( + หุ้น Market Cap. ใหญ่ที่คาดจะได้รับประโยชน์จากการขยาย QE ของยุโรป , ญี่ปุ่น และจีนลดอัตราดอกเบี้ย )

 

บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (26 ต.ค.)  สัปดาห์นี้มองว่าทิศทางดัชนี SET จะคึกคักในช่วงต้นและค่อยๆเข้าสู่ภาวะซึมตัวในช่วงปลาย โดยมองกรอบดัชนีสูงสุดที่ 1430-1440 จุด โดยมีแรงหนุนจากแนวโน้ม ECB จะซื้อพันธบัตรเพิ่ม การลดดอกเบี้ยของจีนและผลดำเนินงานหุ้นเทคโนโลยีของสหรัฐออกมาดี กลุยทธ์การลงทุนยังคงเน้นขายที่กรอบ 1430-1435 จุด

โดยวันนี้คาดดัชนี SET จะปรับตัวขึ้นแรงตามแรงหนุนของดัชนีในภูมิภาค โดยมีแนวต้านที่ 1432-1438 จุด แนวรับที่1416-1412 จุด

Fundamental Stock :

ICHI : COMPANY NOTE – รอฟื้นตัวจากอินโดนีเซีย (คำแนะนำ : ซื้อ ราคาเป้าหมาย 21 บาท)

PTTEP : COMPANY NOTE – เริ่มต้นใหม่ (คำแนะนำ : ซื้อ ราคาเป้าหมาย 81 บาท)

 

Back to top button