SET ทรงตัวระหว่างรอความชัดเจนเฟดทยอยเก็บ 13 หุ้น พื้นฐานดี-ปันผลสูง

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสย่อลงชั่วคราว หลังไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,430 จุด คาดมูลค่าการซื้อขายเบาบาง ขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่รอผลการประชุมเฟดและการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น การลงทุนแนะนำสะสมหุ้นเมื่อดัชนีย่อลงแรง เน้นพื้นฐานดี ปันผลสูง และได้ประโยชน์จากโครงการรัฐ


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.25 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.48 บาทต่อเหรียญ ด้านตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลง ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ที่จะเสร็จสิ้นในวันพุธนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยคาดว่าจะมีการส่งสัญญาณถึงช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ขณะเดียวกันตลาดยังจับตาดูธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) แถลงมติการประชุมนโยบายการเงินในวันศุกร์นี้

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสย่อลงชั่วคราว หลังไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,430 จุด คาดมูลค่าการซื้อขายเบาบาง ขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่รอผลการประชุมเฟดและการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น การลงทุนแนะนำสะสมหุ้นเมื่อดัชนีย่อลงแรง เน้นพื้นฐานดี ปันผลสูง และได้ประโยชน์จากโครงการรัฐ หุ้นเด่นเลือก PTTGC-TOP-BRR-SVI-CHO-MCS-ASEFA-KCE-CK-AOT-ITD-BCP และ PIMO

 

ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (27 ต.ค.) ว่า ตลาดไทยเมื่อวานทดสอบแนวต้าน 1,430 จุดตามคาด อย่างไรก็ตาม ตลาดไทยวันนี้มีโอกาสย่อลงชั่วคราว หลังไม่สามารถผ่านแนวต้านนี้ไปได้ ประกอบกับราคาน้ำมันยังคงอ่อนแอในช่วงนี้ และความกังวลเรื่องเศรษฐกิจจีนยังมีอยู่ ขณะเดียวกันนักลงทุนส่วนใหญ่รอผลการประชุมเฟดและการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นในสัปดาห์นี้ ตลาดวันนี้จึงน่าจะมีปริมาณการซื้อขายที่เบาบางและยังไม่น่าจะผ่าน 1,430 จุดไปได้

กลยุทธ์: เน้นเล่นสั้นในช่วงนี้ ทยอยขายทำกำไรหากดัชนีเข้าใกล้ 1,430 จุด เริ่มสะสมหุ้นเมื่อดัชนีย่อลงแรง เน้นพื้นฐานดี ปันผลสูง และได้ประโยชน์จากโครงการรัฐ

แนวรับ/แนวต้าน: 1,400/1,430 สัดส่วนการลงทุน: เงินสด 50%: พอร์ตหุ้น 50%

นักลงทุนระยะสั้น: MCS (15), ASEFA (5.5) นักลงทุนระยะยาว: KCE (69), CK (32)

 

บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (27 ต.ค.) ว่าทิศทางตลาดหุ้นไทย แรงขายหุ้นกลุ่มธนาคาร และมีการสลับซื้อสลับขายหุ้นขนาดใหญ่วานนี้ เป็นสัญญาณว่านักลงทุนยังไม่มีความมั่นใจในทิศทางตลาดหุ้นนัก ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ตลาดหุ้นรอบบ้านชะลอตัวลง ก่อนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (27-28 ต.ค.) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (30 ต.ค.) ขณะที่ ตลาดหุ้นไทยนั้น นักลงทุนให้ความสนใจกับหุ้นรายตัว ในเรื่องของการรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 มากกว่าปัจจัยอื่น ขณะที่ไม่มีปัจจัยใหม่ๆ คงต้องรอดูการประชุม ครม.วันนี้ คาดทิศทางดัชนีฯ จะผันผวนในกรอบที่แคบลงจากวันก่อน

กลยุทธ์การลงทุน การเก็งกำไร และการตอบรับต่องบไตรมาส 3 ของบริษัทในตลาด จะเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นในช่วงนี้ให้คึกคักคัก ขณะที่ความกังวลในเรื่องภาวะเศรษฐกิจโลกจะลดลงหลังจีนลดดอกเบี้ยลง ซึ่งจะทำให้มีแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่เข้ามาในตลาด ด้วยเช่นกัน

สำหรับหุ้นที่คาดว่า นักลงทุนจะให้ความสนใจในวันนี้ อาทิเช่น AOT, PTTGC, TOP, BRR, SVI

Stock in Focus: CHO

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (27 ต.ค.) ประเมินว่า ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากมาตรการผ่อนคลายทางการเงินของทั้งยุโรป , ญี่ปุ่นและจีน  และหาการประชุมเฟดสัปดาห์นี้ยังไม่ส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ชัดเจน ก็จะเป็นปัจจัยบวกช่วยหนุนดัชนี  โดยวางแนวต้านที่ 1,440 จุด แนวรับที่ 1,410-1,415 จุด แนะนำซื้อลงทุน AOT, ITD ( + เริ่มประมูลสุวรรณภูมิเฟส 2 ในเดือน พ.ย. นี้ )

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (27 ต.ค.) คาดการณ์มุมมองทางเทคนิค SET เมื่อวันก่อนทรงตัวเป็นรูป sideway 5 วัน ยังแสดงรูปแพทเทินแบบ higher high  โดย MACD +11.24 (เพิ่มขึ้นจากเมื่อวันก่อน) เหนือ signal line ถึงแม้ว่ารูป candlestick จะอ่อนแรงเล็กน้อย แต่รูปแบบแสดงภาพขาขึ้น

แนวโน้มของตลาดจะเคลื่อนไหวที่กรอบ 1,415-1,430

หุ้นที่เลือกวันนี้มีโอกาสปรับขึ้น แนะนำซื้อเก็งกำไร BCP และ PIMO

Back to top button