กูรูเชียร์ซื้อ 11 หุ้นเด่น! มีประเด็นหนุนSET บ่ายแกว่งแคบระหว่างรอปัจจัยใหม่
SET เช้านี้แกว่งแคบหลังวานนี้ขึ้นไปมาก วอลุ่มเทรดยังบาง นักลงทุนรอผลประชุมเฟด 2 วันนี้ ตลาดภูมิภาคเช้านี้ก็อิงทาง Negative อาจมีการเล่นเก็งกำไรตามงบฯรายตัวแต่คงไม่แรงมาก บ่ายคาดตลาดฯคงไปไหนไม่ไกลห่วง Downside กดดัน แนะรอซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว ให้แนวรับ 1,415 แนวต้าน 1,425 จุด
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ช่วงเช้า (27 ต.ค.) SET เช้านี้แกว่งแคบหลังวานนี้ขึ้นไปมาก วอลุ่มเทรดยังบาง นักลงทุนรอผลประชุมเฟด 2 วันนี้ ตลาดภูมิภาคเช้านี้ก็อิงทาง Negative อาจมีการเล่นเก็งกำไรตามงบฯรายตัวแต่คงไม่แรงมาก
นักวิเคราะห์คาดช่วงบ่าย ตลาดฯคงไปไหนไม่ไกลห่วง Downside กดดัน แนะรอซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว ให้แนวรับ 1,415 แนวต้าน 1,425 จุด ขณะที่ แนะนำ “ซื้อ” INTUCH-ADVANC-AOT-MINT-CENTEL-TMB-TISCO-KKP-PS-HMPRO และ UV
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งแคบหลังจากที่เมื่อวานนี้ปรับตัวขึ้นไปมาก จึงมองว่าเป็นการเข้าสู่ภาวะปกติ และวอลุ่มเทรดวันนี้ก็ถือว่ายังเบาบาง เนื่องจากนักลงทุนกำลังรอความชัดเจนของผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ที่จะมีขึ้นในช่วง 2 วันนี้ ขณะที่ตลาดหุ้นภูมิภาคอิงไปในทาง Negative
อย่างไรก็ตาม อาจมีการเล่นเก็งกำไรตามผลประกอบการของบริษัทฯเป็นรายตัวได้ แต่จะไม่แรงมาก เพราะเท่าที่มีการประกาศออกมาแล้วถือว่าไม่ค่อยดีนัก โดยเฉพาะ Sector ใหญ่ๆ
แนวโน้มการลงทุนบ่ายนี้ ตลาดหุ้นไทยคงไปได้ไม่ไกล เนื่องจากกังวล Downside ทางกลยุทธ์แนะนำให้รอซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลง พร้อมให้แนวรับ 1,415 จุด ส่วนแนวต้าน 1,425 จุด
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (27 ต.ค.) SET เคลื่อนไหว Sideways ในกรอบ 1,420-1,430 จุด รอความชัดเจนการขึ้นดอกเบี้ยหลังการประชุม FOMC วันที่ 27-28 ต.ค.นี้ ซึ่งมองการ “พักฐาน” เป็นโอกาส “ซื้อ” ด้วยเป้าหมายระยะสัปดาห์ที่ 1,450 จุด และสิ้นปีที่ 1,500 จุด จาก 1) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเริ่มส่งผลตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 58 เป็นต้นไป 2) ECB และ PBoC ดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อเนื่อง 3) มีโอกาสที่ Fed จะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยไปเป็นปี 2559 หลังเศรษฐกิจโลกชะลอตัวกว่าที่คาดการณ์ไว้
ขณะที่ แนะนำ “ซื้อ” กลุ่มสื่อสารทีใกล้ประมูล 4G ในเดือน พ.ย. (INTUCH-ADVANC), กลุ่มท่องเที่ยว ที่กำลังเข้าสู่ช่วง High Season (AOT-MINT และ CENTEL), กลุ่มธนาคารขนาดกลาง-เล็ก (TMB-TISCO และ KKP) และอสังหาฯ และธุรกิจที่ได้รับผลดีจากมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ (PS-HMPRO)
ขณะที่ การปรับสูงขึ้นของ GOLD ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาเกือบ 31% ส่งผลบวกต่อหุ้น UV (ถือหุ้น GOLD อยู่ 55.73%) ปรับสูงขึ้น 23% ซึ่งถ้าพิจารณาจากข้อมูลในอดีตช่วง 2557-2559 จะเห็นว่าตลาดให้มูลค่าของ UV (หักมูลค่าของ GOLD แล้ว) ประมาณ 9,000 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าปัจจุบันที่ตลาดให้มูลค่าหุ้น UV (หักมูลค่าของ GOLD แล้ว) ที่ 7,000 ล้านบาท ทำให้ UV มีโอกาสเป็น Catch-Up Plays ตามหุ้น GOLD ที่ปรับสูงขึ้นไปมากกว่า 8% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา หรือมีเป้าหมายระยะสั้นที่ 7.8-8.0 บาท
บล.เอเอสแอล ระบุในบทวิเคราะห์ (27 ต.ค.) ดัชนี SET ช่วงเช้าปิดลบ ขณะที่ตลาดภูมิภาคปิดแดนบวกดัชนีตลาดหุ้นเอเชีย ปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันนี้เป็นส่วนใหญ่ (และมีแรงขายทำกำไรหลังจากขึ้นไปแรง) ทั้งนี้เป็นการขึ้นตอบรับหลังธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะเวลา 1 ปี และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากระยะเวลา 1 ปีลง 0.25% สู่ระดับ 4.35% และ 1.50% ตามลำดับ โดยมีผลบังคับใช้ในวันเสาร์ (24 ต.ค.)
นอกจากนี้ ธนาคารกลางยังได้ปรับลดสัดส่วนการกันสำรอง (RRR) ของธนาคารพาณิชย์ลง 0.5% รวมทั้งปรับลด RRR ของสถาบันการเงินที่สนับสนุนธุรกิจขนาดเล็กและขนาดย่อม รวมทั้งภาคการเกษตรลง 0.5% เช่นกัน ติดตามผลการประชุม FOMCที่จะมีขึ้นในคืนวันที่ 27-28 ตค. และการประชุมของ BOJ วันที่ 30 ตค.นี้
สำหรับปัจจัยในประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ภาวะการค้าระหว่างประเทศในเดือน ก.ย. 58 การส่งออกมีมูลค่า 18,816 ล้านเหรียญสหรัฐ ติดลบ 5.51% จากตลาดคาดติดลบ 7.6% ขณะที่นำเข้า 16,022 ล้านเหรียญสหรัฐ ติดลบ 26.20% ส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุล 2,794 ล้านดอลล์
แนวโน้มตลาดและหุ้นที่น่าสนใจ ด้านเทคนิคแท่งเทียนราย 15 นาที ช่วงเช้าปิดตัวในลักษณะ Hammer พร้อมยืนเหนือ EMA15 ได้มั่นคง ถือเป็นสัญญาณดี ขณะที่ระยะสั้นดัชนีมีโอกาสปรับตัวกลับขึ้นทดสอบ 1,430 อีก
สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,050.15 ล้านบาท ปิดที่ 280.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 988.20 ล้านบาท ปิดที่ 180.00 บาท ลดลง 1.50 บาท
SCI มูลค่าการซื้อขาย 754.16 ล้านบาท ปิดที่ 9.90 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 624.13 ล้านบาท ปิดที่ 236.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
DTAC มูลค่าการซื้อขาย 544.80 ล้านบาท ปิดที่ 65.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท
ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์