เปิดโผหุ้นรับผลดีกนง.คงดอกเบี้ย-เป้ากองทุนซื้อSET ระยะสั้นผันผวน ระวังแรงขายหุ้นใหญ่

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.15 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.50 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากถ้อยแถลงของประธานเฟดได้ช่วยหนุนเงินดอลลาร์แข็งค่าเทียบเยน ส่งผลให้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นทะยานขึ้น

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยระยะสั้นยังผันผวนจากทิศทางการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐ คาดมูลค่าการซื้อขายเบาบาง ระวังแรงขายทำกำไรในหุ้นขนาดใหญ่ที่ขาดปัจจัยบวกหนุน การลงทุนเน้นเก็งกำไรหุ้นที่เป็นเป้าหมายการเข้าซื้อของกองทุน LTF และได้รับปัจจัยบวกจากการที่กนง.มีมติคงดอกเบี้ย

หุ้นเด่นเลือก FORTH-AOT-MINT-BDMS-DELTA-AIRA-CRANE-TISCO-KKP-SAWAD-MTLS-ITD-UNIQ-SCC-PTT-ADVANC-BEAUTY-EPG-SOLAR-THCOM-KCE-CK-STEC และ TPCH

 

บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (5 ต.ค.) ว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทย ถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลายสหรัฐฯ ที่ระบุว่า FED อาจมีการตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมในเดือน ธ.ค. (15-16 ธ.ค.) ชะลอการซื้อหุ้น รวมทั้งสินทรัพย์ทางการเงินอื่นๆ ในวันนี้ ขณะที่ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง แม้จะได้ปัจจัยบวกในประเทศหนุน คือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและผลประกอบการไตรมาส 3 ที่ทยอยออกมามากขึ้น แต่คาดนักลงทุนจะชะลอการซื้อหุ้น ซึ่งจะทำให้ดัชนีฯ แกว่งในกรอบแคบ

กลยุทธ์การลงทุน การเหวี่ยงตัวของตลาดหุ้นไทยเนื่องจากอิงกับตลาดหุ้นต่างประเทศค่อนข้างมากในช่วงนี้ กอรปกับดัชนีฯเคลื่อนตัวเข้าหาจุดสูงสุดเก่า 1,428-1,430 จุด เราอาจเห็นการขายทำกำไรช่วงสั้นในหุ้นขนาดใหญ่ (ที่ขาดปัจจัยบวกหนุน) เช่นเดียวกับวันที่ผ่านมาที่กรอบเวลาลงทุนยังต้องเน้นเล่นสั้นๆ

สำหรับหุ้นที่คาดว่า นักลงทุนจะให้ความสนใจในวันนี้ อาทิเช่น AOT, MINT, BDMS, DELTA, AIRA และหุ้นที่ราคาปรับตัวลงมามาก CRANE

Stock in Focus: FORTH (ราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก IAA Consensus 11.00 บาท)

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (5 ต.ค.) ว่า กนง.คงดอกเบี้ย 1.50% ตามคาด และคาดว่ายังไม่เห็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆ นี้ เป็นปัจจัยบวกต่ออัตราการทำกำไร (Net Interest Margin) กลุ่มเช่าซื้อ และ Micro Finance อย่าง TISCO KKP SAWAD และ MTLS ขณะที่ภาพตลาดโดยรวม ยังมอง “บวก” ไม่เปลี่ยนด้วยเป้าหมายปลายเดือน พ.ย.ที่ 1,450 จุด และสิ้นปีที่ 1,500 จุด โดยหุ้นขนาดใหญ่อย่าง AOT SCC PTT ADVANC ที่เป็นเป้าหมายการเข้าซื้อของกองทุน LTF จะเป็นหุ้นกลุ่มนำตลาด

กลุ่มเช่าซื้อ และ Micro Finance และกลุ่มหุ้น SET50 ที่เป็นเป้าหมายการเข้าซื้อของ LTF จะเป็นหุ้นกลุ่มนำตลาด แนะนำ “ซื้อ”

1.หุ้น SET50 เป้าหมายซื้อของ LTF: AOT SCC PTT ADVANC

2.คาดกำไรไตรมาส 3/58 ออกมาดี: “ซื้อ” BEAUTY “เก็งกำไร” EPG

3.เช่าซื้อ และ Micro Finance กนง.คงดอกเบี้ย ต้นทุนการเงินต่ำหนุน NIM สูง: “ซื้อ”

 

บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (5 ต.ค.) ว่า ตลาดไทยวันนี้มีแนวโน้มผันผวนในกรอบแคบและอาจถูกแรงขายทำกำไรเป็นระยะๆ หลังนางเจเนต เยลเลน ได้ประกาศว่ามีความเป็นไปได้มากขึ้นที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมนี้ เนื่องจากตัวเลขการจ้างงานเดือนล่าสุดของสถาบัน ADP ออกมาดีกว่าหลายฝ่ายคาด นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบที่ย่อลงมีโอกาสกดดันตลาดต่อได้ในวันนี้

อย่างไรก็ตาม ตลาดจะทรงตัวได้ดีเหนือ 1,400 จุดในช่วงนี้ เนื่องจากสภาพคล่องภายในประเทศที่มีอยู่สูงและตลาดหุ้นจีนที่ทรงตัวได้ดีขึ้น ดังนั้น หากเห็นดัชนีย่อลงระหว่างวันก็ควรเก็บหุ้นเป็นรายตัวเอาไว้เล่นสั้นได้

แนวรับ/แนวต้าน: 1,400/1,430 สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%

กลยุทธ์: เน้นเล่นสั้น เน้นพื้นฐานดี ปันผลสูง และได้ประโยชน์จากโครงการรัฐ บวกกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่า

นักลงทุนระยะสั้น: SOLAR (13), THCOM (47) นักลงทุนระยะยาว: KCE (69), CK (32)

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (5 ต.ค.) ว่า ตลาดหุ้นไทยได้แรงหนุนจากหุ้นต่างประเทศและราคาหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่วน กนง.มีมติคงอัตราดอกเบี้ย ซึ่งช่วยหนุนให้เงินบาทมีทิศทางแข็งค่าจึงเป็นผลบวกต่อการลงทุน

กลยุทธ์การลงทุน ประเมินดัชนีแกว่งตัวในกรอบ 1,410-1,430 จุด แนะนำเทรดดิ้งตามกรอบการลงทุน เนื่องจากระยะสั้นตลาดยังผันผวนจากทิศทางการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐ แนะนำซื้อลงทุนกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ITD-STEC-UNIQ (ได้ผลดีการประมูลรถไฟทางคู่สายฉะเชิงเทรา-แก่งคอย)

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (5 ต.ค.) คาดการณ์มุมมองทางเทคนิค SET มีแนวโน้มพัฒนาดีขึ้นในเรื่องรูปแบบราคา หลังจากพบลักษณะเตรียม breakout เล็กน้อยบนการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดที่วิ่งบน MA10 และ MA25 ดังนั้นรูปแบบของแนวโน้ม sideway อาจเริ่มเปลี่ยนไปในทางขาขึ้น โดย MACD +5.22 และเกือบตัด signal line ทำให้สัญญาณกราฟอ่านได้ในลักษณะ ภาพระยะสั้นเตรียมขาขึ้นรอบใหม่ ระยะยาวขาขึ้นเช่นเดิม (MACD เป็นบวก)

แนวโน้มของตลาดจะเคลื่อนไหวที่กรอบ 1,412-1,430 

หุ้นที่เลือกวันนี้มีโอกาสปรับขึ้น แนะนำซื้อเก็งกำไร STEC และ TPCH