เก็ง 5 หุ้นเด่นมีประเด็นหนุนSET บ่ายแกว่งในกรอบแคบ

SET เช้านี้ปรับลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลก โดยตลาดภูมิภาคปรับลงเป็นส่วนใหญ่ รับแรงกดดันจากคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย หลังตัวเลขการจ้างงานฯของสหรัฐออกมาแข็งแกร่ง ในทางกลยุทธ์จึงแนะให้ชะลอลงทุนจนกว่า SET จะมี valuation ที่น่าสนใจกว่านี้ บ่ายคาดดัชนีหุ้นไทยคงสวิงตัวในกรอบ 1,390-1,410 จุด


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ช่วงเช้า (10 พ.ย.) เช้านี้ปรับลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลก โดยตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่ปรับลงรับผลกระทบจากแรงกดดันคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค.นี้ หลังตัวเลขการจ้างงานฯของสหรัฐออกมาแข็งแกร่งในทางกลยุทธ์จึงแนะให้ชะลอลงทุนจนกว่า SET จะมี valuation ที่น่าสนใจกว่านี้

นักวิเคราะห์คาดช่วงบ่าย ดัชนีหุ้นไทยคงสวิงตัวในกรอบ 1,390-1,410 จุด ขณะที่ แนะนำกลุ่มท่องเที่ยวที่กำลังเข้าสู่ช่วง High Season และกลุ่มสื่อสาร AOTMINTINTUCH, ADVANC และ SAWAD (เก็งกำไร Q3 ออกมาโดดเด่น)

 

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ เปิดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงตามตลาดหุ้นทั่วโลก โดยตลาดหุ้นภูมิภาคปรับตัวลงแทบจะทุกตลาดฯ เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากเรื่องที่คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค.นี้ หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในเดือนต.ค.ออกมาแข็งแกร่ง ประกอบกับ Fund Flow ยังขายสุทธิทำให้กดดันดัชนีฯ

อย่างไรก็ดี ในทางกลยุทธ์แนะนำให้ชะลอการลงทุนไปก่อนจนกว่า SET จะมี valuation ที่น่าสนใจกว่านี้

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายณัฐชาต กล่าวว่า ดัชนีฯคงจะสวิงตัวในกรอบ 1,390-1,410 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (10 พ.ย.) ว่า การปรับพอร์ตของนักลงทุนต่างชาติจากความกังวลต่อการขึ้นดอกเบี้ย Fed ในการประชุมเดือน ธ.ค. กดดัน SET ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามแรงขายกระจุกตัวในหุ้นขนาดใหญ่อย่าง PTT, SCC และ KBANK เท่านั้น ขณะที่หุ้นขนาดใหญ่และกลางที่มีประเด็น “บวก” ลงทุนเริ่มยืนได้ ไม่ว่าจะเป็น AOT หรือกลุ่มสื่อสาร อย่าง INTUCH, ADVANC ทั้งนี้ถ้าพิจารณาในทางเทคนิคระยะสัปดาห์ยังไม่เสียหาย เว้นแต่ว่าจะหลุดแนวรับสำคัญที่ 1,385 จุด

สำหรับกลุ่มท่องเที่ยวที่กำลังเข้าสู่ช่วง High Season และกลุ่มสื่อสารที่มีประเด็นบวกจากการประมูลคลื่น 1800MHz พรุ่งนี้ มีแนวโน้มแข็งแกร่งกว่าตลาดต่อไป โดยแนะนำ “ซื้อ” AOT (ทะลุแนวต้านที่ 310 บาท มีแนวต้านถัดไปที่ 314/320 บาท), MINT (มีแนวโน้มตาม CENTEL ขึ้นมา โดยมีเป้าหมายระยะสั้นที่ 34.25 บาท), INTUCH (ราคาฟื้นตัวจากแนวรับ 1 เดือนบริเวณ 75 บาท มีโอกาสขึ้นไปที่ 77 บาท ระยะสั้น ขณะที่ให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 6.1-6.8%)

ขณะที่ แนะนำ “ซื้อ” SAWAD ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 46 บาท (ทางเทคนิคระยะสั้นที่ 46-47 บาท ขณะที่ระยะกลาง-ยาวที่ 68 บาท) ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) คาดกำไรในไตรมาส 3/15 ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 306 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 36% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และ 5% จากไตรมาสก่อน หนุนกำไรทั้งปีเติบโต 34% ปีนี้ที่ 1.2 พันล้านบาท 2) การขยายสาขา และเพิ่มรายได้จากธุรกิจติดตามหนี้ และ Fee Income ที่เพิ่มขึ้นจะหนุนกำไรเติบโตต่อเนื่อง 55-40% ในปี 2559-57 3) ดอกเบี้ยต่ำยาวนาน เป็นปัจจัยหนุน NIM ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

J มูลค่าการซื้อขาย 1,118.12 ล้านบาท ปิดที่ 4.46 บาท เพิ่มขึ้น 1.69 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 917.57 ล้านบาท ปิดที่ 279.00 บาท ลดลง 7.00 บาท

AOT มูลค่าการซื้อขาย 736.03 ล้านบาท ปิดที่ 313.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท

SCC มูลค่าการซื้อขาย 562.69 ล้านบาท ปิดที่ 456.0 บาท ลดลง 8.00 บาท

GPSC มูลค่าการซื้อขาย 407.70 ล้านบาท ปิดที่ 23.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.90 บาท

 

ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์

Back to top button