กลุ่มสื่อสาร-พลังงานกดดัน SET อ่อนตัวเคาะ 11 บจ.งบ Q3 แกร่ง ราคาถูก-ปันผลสูง

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยมีแนวโน้มอ่อนตัว โดยมีโอกาสปรับฐานลงไปที่แนวรับบริเวณ 1,360-1,380 จุดขณะที่การแข่งขันประมูล 4G ที่รุนแรง กดดันหุ้นสื่อสาร เช่นเดียวกับหุ้นกลุ่มพลังงานที่ถูกกดดันโดยราคาน้ำมันดิบที่ปรับลง


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.20 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.75 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียอ่อนตัวลงเล็กน้อย เนื่องจากตลาดหุ้นญี่ปุ่นได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินเยน ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงตามราคาน้ำมันที่ลดลง

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยมีแนวโน้มอ่อนตัว โดยมีโอกาสปรับฐานลงไปที่แนวรับบริเวณ 1,360-1,380 จุดขณะที่การแข่งขันประมูล 4G ที่รุนแรง กดดันหุ้นสื่อสาร เช่นเดียวกับหุ้นกลุ่มพลังงานที่ถูกกดดันโดยราคาน้ำมันดิบที่ปรับลง

การลงทุนเน้นกลุ่มที่คาดการณ์กำไรไตรมาส 3 ปี 2558 ออกมาดี และหุ้นที่มี Valuation ถูก ปันผลสูง มีแนวโน้ม Outperform ตลาด หุ้นเด่นเลือก STEC-TOP-GFPT-SAWAD-KCE-BEAUTY-EPG-TISCO-SYNTEC-THCOM และ CK

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (12 ต.ค.) ว่า วานนี้ตลาดปรับตัวลดลงหลังจากประมูล 4 G ราคาใบอนุญาตสูงกว่าคาดการณ์ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อกำไรบริษัทสื่อสารในอนาคต ประกอบกับราคาหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลดลงจากทิศทางราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงและรอการรายงานประกอบการ PTT ในวันนี้

กลยุทธ์การลงทุน วางจุด Trailer Stop Loss ที่ 1,387 จุด หากยืนไม่ได้แนะนำลดพอร์ต  โดยดัชนีมีโอกาสปรับฐานลงไปที่แนวรับบริเวณ 1,360-1,380 จุด

 

บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (12 ต.ค.) ว่า SET วันนี้ยังแกว่งตัวตามดัชนีในภูมิภาคเพื่อรอดูการทบทวนน้ำหนักการลงทุนของ MSCI ในวันพรุ่งนี้ คาดแนวรับอยู่ที่ 1,384-1,380 จุด แนวต้านที่ 1,395-1,400 จุด กลยุทธ์การลงทุนของการเล่นรอบ ยังคงให้รอจนกว่าจะเห็นความชัดเจนการทบทวนน้ำหนักการลงทุนของ MSCI แต่สามารถเล่นเก็งกำไรหุ้นรายตัวที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ออกมาดี อย่าง STEC, TOP และ GFPT

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (12 ต.ค.) ว่า ราคาประมูลคลื่น 1800MHz ที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท (ประมูลรอบที่ 62 ที่ 3.5 หมื่นล้านบาท/15MHz) จะเป็นปัจจัยกดดันกลุ่มสื่อสารต่อเนื่องวันนี้ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลง 3.4% กดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยกลุ่มหุ้นที่คาดการณ์กำไรไตรมาส 3 ปี 2558 ออกมาดีมีแนวโน้มแข็งแกร่งกว่าตลาด ประเมินแนวรับ SET ที่ 1,388 จุดเป็นแนวรับแรก และถัดไปที่ 1,367 จุด (อิงเส้นค่าเฉลี่ย 200 สัปดาห์)

แนะนำลงทุนในกลุ่มหุ้นที่คาดการณ์กำไรไตรมาส 3 ปี 2558 ออกมาดี และหุ้นที่มี Valuation ถูก ปันผลสูงมีแนวโน้ม Outperform ตลาด

1) คาดประกาศกำไรไตรมาส 3 ปี 2558 ออกมาดี: “ซื้อ” SAWAD กำไรไตรมาส 3 ปี 2558 ที่ 370 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65% จากปีก่อนและเพิ่มขึ้น 27% จากไตรมาสก่อนดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ และคาดการณ์กำไรดีต่อเนื่องในไตรมาส 4 ปี 2558 รวมถึง “ซื้อ” KCE BEAUTY และ “เก็งกำไร” EPG

2) หุ้น Valuation ต่ำ ปันผลสูง: TISCO

 

ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (12 ต.ค.) ว่า ตลาดไทยวันนี้มีแนวโน้มซึมลงต่ออาจทดสอบแนวรับที่ 1,380 จุด โดยปัจจัยกดดันมาจากกลุ่มสื่อสาร ที่สัปดาห์ก่อนช่วยพยุงตลาดแต่มาสัปดาห์นี้กลับกดดันตลาดลง เนื่องจากการประมูล 4G ที่เริ่มเมื่อวานนี้มีการแข่งขันรุนแรงเกินความคาดหมายจึงจะส่งผลลบต่อกำไรของบริษัทที่เข้าร่วมประมูล นอกจากนี้กลุ่มพลังงาน perform ได้ไม่ดีในช่วงนี้ เนื่องจากราคาน้ำมันอ่อนแอต่อเนื่องจากความกังวลเรื่อง oversupply ช่วงนี้แนะนำเล่นสั้น ลงซื้อ ขึ้นขาย ไม่ถือหุ้นนาน เน้นกลุ่มรับเหมา อสังหาฯ และอิเล็คทรอนิกส์

แนวรับ/แนวต้าน: 1380/1420 สัดส่วนการลงทุน: เงินสด 50%: พอร์ตหุ้น 50%

กลยุทธ์ : เน้นเล่นสั้น เน้นพื้นฐานดี ปันผลสูง และได้ประโยชน์จากโครงการรัฐ บวกกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่า

นักลงทุนระยะสั้น: SYNTEC (3.80), THCOM (47)นักลงทุนระยะยาว: KCE (69), CK (32)

Back to top button