SET ดีดกลับตามต่างประเทศเก็ง 15 บจ.เทรนด์ดีกว่าตลาด
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวตามตลาดหุ้นสหรัฐฯและต่างประเทศ ขณะที่นักลงทุนไม่ได้กังวลมากนักต่อแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด การลงทุนเน้นเก็งกำไรในช่วงที่ตลาดรวมยังผันผวน เลือกหุ้นแนวโน้มแข็งแกร่งกว่าตลาด, ราคาถูก-ปันผลสูง, ได้ประโยชน์จากโครงการรัฐฯ และค่าเงินบาทที่อ่อนค่า
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.16 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.89 บาทต่อเหรียญ แนวโน้มกลับมาแข็งค่า หลังวานนี้อ่อนค่าลงไปมาก ทำให้วันนี้มีแรงเทขายดอลลาร์ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) บ่งชี้ว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของเฟดมีความเห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยซึ่งอาจจะเกิดขึ้นในการประชุมเดือนหน้า
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวตามตลาดหุ้นสหรัฐฯและต่างประเทศ ขณะที่นักลงทุนไม่ได้กังวลมากนักต่อแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด การลงทุนเน้นเก็งกำไรในช่วงที่ตลาดรวมยังผันผวน แบ่งขายช่วงดัชนีปรับตัวขึ้น เลือกหุ้นแนวโน้มแข็งแกร่งกว่าตลาด, ราคาถูก-ปันผลสูง, ได้ประโยชน์จากโครงการรัฐฯ และค่าเงินบาทที่อ่อนค่า
หุ้นเด่นเลือก CK-UNIQ-TISCO-IRPC-MTLS-CHG-BDMS-ANAN-CPALL-CPF-TASCO-BA-TOP-ROBINS และ LH
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (19 ต.ค.) ว่า รายงานการประชุม Fed เมื่อคืนบ่งชี้ว่า Fed มีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยสูงในการประชุมเดือน ธ.ค.นี้ แต่ดูเหมือนว่านักลงทุนไม่ได้กังวลมากนัก ขณะที่กลุ่มธนาคารที่ได้ประโยชน์จากการปรับขึ้นดอกเบี้ยหนุน Dow Jones บวก 1.4% เมื่อคืนนี้ สำหรับ SET คาด Rebound ตามตลาดหุ้นโลก แนวต้าน 1,388 จุด และยังแนะนำ “เลือกซื้อ” ต่อเนื่อง
กลุ่มรับเหมาฯ มีจังหวะ “เก็งกำไร” รับผล E-Auction รถไฟรางคู่วันนี้ คลองสิบเก้า-แก่งคอย 1.05 หมื่นล้านบาทวันนี้ ขณะที่รถไฟรางคู่จิระ-ขอนแก่น เปิด E-Auction ธ.ค.นี้ อีก 2.7 หมื่นล้านบาท
1) รับเหมาฯ ประมูลรถไฟรางคู่: CK UNIQ
2) หุ้น Valuation ต่ำ ปันผลสูง และ Laggard Plays: TISCO IRPC
3) Momentum แข็งแกร่งกว่าตลาด: MTLS (ต้าน 22.7) CHG (ต้าน 2.6/2.82) BDMS (ต้าน 20/21.1)
บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (19 ต.ค.) ว่า SET ยังคง Sideway ในกรอบ 1,370-1,400 จุด แนะนำเทรดดิ้งระยะสั้นตามกรอบดังกล่าว โดยระยะสั้นแนะนำเก็งกำไรในหุ้นที่มีโมเมนตัมบวกทางเทคนิค เช่น BDMS, LH, CHG และหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างรับข่าวประมูลรถไฟทางคู่
บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (19 ต.ค.) ว่า SET วันนี้มีโอกาสดีดตัวกลับหลังดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดบวกได้แรง นอกจากนั้นการปรับตัวลงของ SET เมื่อวานนี้ถือเป็นการปรับฐานไปแล้ว โดยวันนี้แนวต้านอยู่ที่ 1,385-1,390 จุด ส่วนแนวรับที่ 1,372-1,368 จุด
แนะนำ ซื้อเก็งกำไร ANAN-CPALL-CPF-TASCO-BA-TOP-ROBINS
บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (19 ต.ค.) ว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นได้หลังคำแถลงการประชุมเฟดเดือน ต.ค.ที่ผ่านมาบ่งชี้ให้เห็นถึงความมั่นใจในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ และเฟดยืนยันว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยจะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป ประกอบกับราคาน้ำมันฟื้นตัวขึ้น
วันนี้ยังคงแนะนำขายทำกำไรบ้าง หากมีกำไร เนื่องจากยังไม่เห็นสัญญาณการกลับมาซื้อของต่างชาติอย่างชัดเจน และตลาดยังคงมีแรงกดดันจากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจจีนทำให้ไม่สามารถปรับขึ้นได้มากนักในช่วงนี้
แนวรับ/แนวต้าน: 1,370/1,400 สัดส่วนการลงทุน: เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
กลยุทธ์: เน้นเล่นสั้น เล็งหุ้นเป็นรายตัว ลงแรงซื้อ เด้งขึ้นขาย เน้นพื้นฐานดี ปันผลสูง และได้ประโยชน์จากโครงการรัฐ บวกกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่า
นักลงทุนระยะสั้น : SYNTEC (ราคาเป้าหมาย 3.80), THCOM (ราคาเป้าหมาย 47) นักลงทุนระยะยาว : KCE (ราคาเป้าหมาย 69), CK (ราคาเป้าหมาย 32)