เก็บ 9 หุ้นฮิต! กลุ่มรับเหมาเด่นSET บ่ายคาดมีโอกาสปรับลง

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ช่วงเช้า (19 พ.ย.) เช้านี้ได้ Sentiment บวกจากตลาดต่างประเทศ ทั้งตลาดสหรัฐ-ตลาดภูมิภาคต่างปรับตัวขึ้น แต่ตลาดบ้านเราดูจะซึมตัว มองระยะสั้นตลาดยังขาดปัจจัยขับเคลื่อน แต่เมื่อดัชนีลงมาแถว 1,370 จุด ก็สามารถลงทุนระยะยาวได้ พร้อมให้ติดตามการประมูลรถไฟทางคู่ในวันนี้ เล็งหนุนกลุ่มรับเหมาฯ ได้บ้าง ส่วนงาน Set in the city ทำให้ยอดเปิดบัญชีเพิ่มแต่คงช่วยหนุนตลาดฯได้ไม่มาก

นักวิเคราะห์คาดช่วงบ่าย คาดตลาดมีโอกาสที่จะปรับตัวลง พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,378-1,388 จุด ขณะที่ แนะนำ CK-UNIQ-TISCO-IRPC-BDMS-CHG-MTLS-IRPC และ PTTGC

 

นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ได้ Sentiment บวกจากตลาดสหรัฐ และตลาดหุ้นภูมิภาคต่างก็อยู่ในแดนบวกกัน แต่ตลาดบ้านเราดูเหมือนจะออกซึมๆ และเมื่อดัชนีฯขึ้นมาแถวบริเวณแนวต้าน 1,388 จุด ก็อ่อนตัวลงมา เนื่องจากมองว่าระยะสั้นตลาดฯไม่ได้มีปัจจัยขับเคลื่อน แต่เมื่อดัชนีฯลงแถวบริเวณ 1,370 จุด นักลงทุนก็สามารถที่จะเข้าลงทุนระยะยาวได้อีกครั้ง

อย่างไรก็ดี ให้ติดตามการประมูลรถไฟทางคู่ในวันนี้ ซึ่งก็อาจจะได้แรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มรับเหมาฯบ้าง ส่วนงาน Set in the city ทำให้ยอดการเปิดบัญชีเพิ่มขึ้น ซึ่ง LTF ก็น่าจะช่วยตลาดฯได้นิดหน่อย

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ คาดตลาดฯมีโอกาสที่จะปรับตัวลง พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,378-1,388 จุด          

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (19 พ.ย.) ว่า การปรับสูงขึ้นของตลาดหุ้น Dow Jones ตามแรงซื้อหุ้นกลุ่มธนาคาร แม้รายงานการประชุม Fed บ่งชี้ว่า Fed มีความพร้อมในการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ธ.ค.นี้ก็ตาม เป็นปัจจัยหนุน SET ปรับสูงขึ้นตั้งแต่เปิดตลาด อย่างไรก็ดีถ้ามองในเทางเทคนิคยังเป็นแค่การ Rebound เท่านั้น โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 1,388 จุด

กลยุทธ์หลักยังแนะนำ Selective ต่อไป โดยแนะนำ กลุ่มรับเหมาฯ CK-UNIQ, กลุ่มหุ้น Valuation ถูก TISCO-IRPC กลุ่มหุ้นที่มี Momentum ดีกว่าตลาด BDMS-CHG และ MTLS

ขณะที่ ค่าการกลั่นที่อยู่ในระดับสูง และ PE ที่ต่ำในกลุ่มโรงกลั่น เป็นปัจจัยหนุนการปรับสูงขึ้นของหุ้นกลุ่มโรงกลั่นในช่วงที่ผ่านมา นำโดย TOP ที่ปรับสูงขึ้น 16.5% ตั้งแต่ต้นเดือน พ.ย. ซึ่งมองว่า IRPC และ PTTGC ที่ Laggard TOP อยู่มาก จะมีจังหวะในการเข้า “เก็งกำไร” ระยะสั้น โดยประเมินแนวต้าน IRPC ที่ 4.40/4.58 บาท และ PTTGC ที่ 58/59.75 บาท

 

บล.เอเอสแอล ระบุในบทวิเคราะห์ (19 พ.ย.) SET เช้าปิดบวก ส่วนตลาดภูมิภาคปรับขึ้น เนื่องจากรายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐได้ตอกย้ำถึงแนวโน้มเศรษฐกิจประเทศและจังหวะที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ด้านธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงนโยบายผ่อนคลายทางการเงินในการประชุมวันนี้ พร้อมทั้งคงการประเมินทางเศรษฐกิจ

โดยระบุว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่น “กำลังฟื้นตัวปานกลาง” และเชื่อว่าราคายังคงมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น และกระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในรายงานเบื้องต้นในวันนี้ว่า ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลการค้าในเดือนต.ค.ทั้งสิ้น 1.115 แสนล้านเยน ทั้งนี้ การส่งออกปรับตัวลง 2.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี และยอดนำเข้าร่วงลง 13.4%

สำหรับปัจจัยในประเทศ รมว.คลัง คาดว่า กระทรวงการคลังจะเสนอเรื่องการจัดตั้ง Thailand Future Fund ขนาด 1 แสนล้านบาทเข้าที่ประชุมครม.ภายใน 2 สัปดาห์ ทั้งนี้เพื่อเป็นช่องทางระดมทุนมาใช้ในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และติดตาม งาน SET in the City 2015/รฟท.เปิด e-Auction รถไฟทางคู่ 2 สัญญา/สนช.เลือก 5 ป.ป.ช.ใหม่

แนวโน้มภาคบ่ายเชิงเทคนิค ในกราฟ 60 นาที ดัชนียังคงอ่อนตัว ปริมาณการซื้อขายลดลง มีแนวโน้มลงมา 1,379 จุด เพื่อปิดแกป แล้วขึ้นไปทดสอบแนวต้านแรกที่ 1,388 จุด

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,519.19 ล้านบาท ปิดที่ 168.50 บาท ลดลง 4.00 บาท

JAS มูลค่าการซื้อขาย 805.95 ล้านบาท ปิดที่ 5.20 บาท ลดลง 0.05 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 545.98 ล้านบาท ปิดที่ 267.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท

EPG มูลค่าการซื้อขาย 526.40 ล้านบาท ปิดที่ 11.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท

PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 465.56 ล้านบาท ปิดที่ 56.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

 

ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์