โบรกเชียร์ 3 หุ้นใหญ่! เป้าหมายระยะสั้นSET บ่ายแกว่งไซด์เวย์ ลุ้นผ่าน 1,400 จุด

SET เช้านี้แกว่งไซด์เวย์ คล้ายกับตลาดภูมิภาคที่แกว่งทั้งในแดนบวก-ลบสลับกัน หลังราคาน้ำมันฟื้น นอกจากนี้ยังได้แรงหนุนจากแรงซื้อของ LTF,RMF และลุ้นผู้ผ่านคุณสมบัติโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ชุมทางจิระ-ขอนแก่น ในวันนี้ บ่ายนี้ตลาดฯยังแกว่ง Sideway ลุ้นให้ผ่าน 1,400 หากผ่านจะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,404 ส่วนแนวรับ 1,395-1,390 จุด


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ช่วงเช้า (24 พ.ย.) เช้านี้แกว่งไซด์เวย์ คล้ายกับตลาดภูมิภาคที่แกว่งทั้งในแดนบวกและลบสลับกัน หลังราคาน้ำมันฟื้นทำให้ไปหนุนหุ้นในกลุ่มโรงกลั่น นอกจากนี้ยังได้แรงหนุนจากแรงซื้อของ LTF,RMF แต่วอลุ่มเทรดเบาบาง คาดนักลงทุนเริ่มปรับลดพอร์ตลงทุนบ้าง และลุ้นผู้ผ่านคุณสมบัติโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ชุมทางจิระ-ขอนแก่น ในวันนี้

นักวิเคราะห์คาดช่วงบ่าย ตลาดหุ้นไทยแกว่ง Sideway ลุ้นให้ผ่าน 1,400 หากผ่านจะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,404 จุด ส่วนแนวรับ 1,395-1,390 จุด ขณะที่แนะนำหุ้นกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่, กลุ่มวัสดุก่อสร้าง และกลุ่มอาหาร อย่าง KBANK, SCC และ CPF

 

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่ง Sideway ถึง Sideway up คล้ายกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบสลับกันในกรอบ -0.2 ถึง +0.2% เนื่องจากราคาน้ำมันล่วงหน้าได้มีทิศทางที่ฟื้นตัวขึ้นมาตอบรับเศรษฐกิจยุโรปที่ออกมาดี ทำให้ไปหนุนหุ้นในกลุ่มโรงกลั่น ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัว

นอกจากนี้ ช่วงนี้ก็ยังมีเม็ดเงินจากองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ,กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) เข้ามาในตลาดฯอีกด้วย รวมถึงในสัปดาห์หน้าก็จะมีงาน Thailand Focus ทำให้อาจมีแรงเก็งกำไรเข้ามาก่อนบ้าง อย่างไรก็ดี วันนี้จะเห็นได้ว่า วอลุ่มเทรดของตลาดโดยรวมน้อย อาจเป็นเพราะปลายปีแล้วนักลงทุนก็มีการปรับลดพอร์ตการลงทุนบ้าง

อย่างไรก็ดี ปัจจัยในต่างประเทศต่างกำลังรอดูการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 3 ธ.ค.นี้ เนื่องจากมีการเก็งกันในเรื่องการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม ส่วนในประเทศก็รอลุ้นผู้ผ่านคุณสมบัติโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ชุมทางจิระ-ขอนแก่น ในวันนี้

แนวโน้มการลงทุนบ่ายนี้ คาดตลาดฯคงจะยังแกว่ง Sideway โดยรอลุ้นให้ผ่านแนวต้าน 1,400 จุด หากผ่านได้ก็จะเป็น Sentiment ดีในทางเทคนิค และจะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,404 จุด ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 1,395-1,390 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (24 พ.ย.) SET เคลื่อนไหวแคบ ด้วยปริมาณการซื้อขายเบาบาง โดยมองว่า SET อยู่ในช่วง Sector Rotation ระยะสั้น โดยกลุ่มหุ้นที่ปรับสูงขึ้นแรงก่อนหน้าอย่าง SAWAD, MTLS, EPG, AOT, IRPC และ TOP น่าจะมีแรงขายทำกำไรมากขึ้น ขณะที่กลุ่มหุ้นที่ Laggard ตลาดก่อนหน้านี้ อย่างกลุ่มธนาคาร อาหาร และวัสดุก่อสร้าง อย่าง KBANK, BBL, CPF และ SCC

ขณะที่ แนะนำ “Selective” หรือ “เลือกซื้อ” หุ้นรายตัว ที่คาดเป็นเป้าหมายในการเปลี่ยนกลุ่มเล่นระยะสั้น อย่างกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่, กลุ่มวัสดุก่อสร้าง และกลุ่มอาหาร อย่าง KBANK, SCC และ CPF

นอกจากนี้ สภาอุตสาหกรรมฯ รายงานยอดส่งออกรถยนต์เดือน ต.ค. เพิ่มขึ้น 19.07% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 1.1 แสนคัน เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของยอดส่งออกรถกระบะไปยังตลาดเอเชีย ออสเตรเลีย และตะวันออกกลาง รวมไปถึงการส่งออกรถ Eco Car ไปยังตลาดยุโรป และอเมริกาเหนือ

โดยยอดส่งออกรถยนต์ที่ดีขึ้น จะเป็นปัจจัยบวกต่อ NYT ที่เป็นผู้ให้บริการท่าส่งออกรถยนต์ ที่มี Market Share สูงที่สุด และแนะนำ “ซื้อ” ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 19.0 บาท ขณะที่ระยะสั้นมีแนวต้านที่ 16.1/16.4 และถัดไปที่ 17.1 บาท

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

TRUE มูลค่าการซื้อขาย 954.69 ล้านบาท ปิดที่ 8.80 บาท ลดลง 0.30 บาท

JAS มูลค่าการซื้อขาย 870.00 ล้านบาท ปิดที่ 5.05 บาท ลดลง 0.05 บาท

BMCL มูลค่าการซื้อขาย 277.39 ล้านบาท ปิดที่ 2.02 บาท เพิ่มขึ้น 0.03 บาท

TOP มูลค่าการซื้อขาย 270.57 ล้านบาท ปิดที่ 61.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท

AOT มูลค่าการซื้อขาย 262.91 ล้านบาท ปิดที่ 322.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท

 

ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์

Back to top button