SET แกว่งแคบ-รอฟื้นตัวรอบใหม่เคาะ 9 หุ้นเด่นเน้นเก็บช่วงดัชนีอ่อนตัว
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้แกว่งในกรอบแคบ มีโอกาสปรับตัวลงตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ ขณะที่ปัจจัยหลักจากเรื่อง MSCI ได้ปรับน้ำหนักการลงทุนใหม่ไปทั่วทั้งภูมิภาคคาดว่าจะมีผลต่อตลาดน้อยลง และดัชนีมีโอกาสฟื้นตัวในเดือนธ.ค.นี้
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.17 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.86 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ โดยได้รับปัจจัยถ่วงจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มวัสดุและสินค้าอุปโภคบริโภค
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้แกว่งในกรอบแคบ มีโอกาสปรับตัวลงตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ ขณะที่ปัจจัยหลักจากเรื่อง MSCI ได้ปรับน้ำหนักการลงทุนใหม่ไปทั่วทั้งภูมิภาคแต่คาดว่าจะมีผลต่อตลาดน้อยลง และดัชนีมีโอกาสฟื้นตัวในเดือนธ.ค.นี้
หุ้นเด่นเลือก KBANK, SAWAD, MTSL, AOT, PLAT,ASEFA, ADVANC, PTTGC และ SCB
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่จะติดลบ โดยเฉพาะตลาดเกาหลี และตลาดไต้หวัน ติดลบมากกว่าตลาดอื่น เนื่องจากมีปัจจัยหลักจากเรื่อง MSCI ได้ปรับน้ำหนักการลงทุนใหม่ไปทั่วทั้งภูมิภาค ยกเว้นจีน
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันก็ยังปรับตัวลง อีกทั้งตลาดฯยังไม่ได้มีปัจจัยหนุนอะไรเข้ามา อย่างไรก็ดีให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB) ในวันที่ 3 ธ.ค.นี้ โดยตลาดฯคาดว่าจะมีการผ่อนคลายมาตรการทางการเงิน
พร้อมให้แนรับ 1,350-1,355 จุด ส่วนแนวต้าน 1,375-1,380 จุด
บล.เคจีไอ ระบุในบทวิเคราะห์ (30 พ.ย.) ว่าทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวลง รอปัจจัยภายนอกเพิ่มเติม คาดนักลงทุนต่างชาติชะลอแรงขายบ้างเพื่อติดตามปัจจัยภายนอก เช่น การตัดสินใจของ IMF ว่าจะรับเงินหยวนเข้าสู่ตะกร้าสำรอง SDR หรือไม่,ตัวเลข PMI ภาคการผลิตจีน, ผลประชุมธ.กลางยุโรป และตัวเลขภาคแรงานสหรัฐ ทั้งนี้คงมุมมอง SET ปรับฐานใกล้จบและน่าจะฟื้นตัวในธ.ค.นี้ คงแนะนำทยอยซื้อหุ้นในสัปดาห์นี้ เน้นกุล่มท่องเที่ยว กลุ่มรับเหมา ส่วนหุ้นกลุ่มหลักที่ยังแกว่งเพราะไม่มีปัจจัยบวกในระยะสั้น คาดหลังประชุมเฟดกลงเดือน SET น่าจะฟื้นตัวชัดเจนมากขึ้น และคงมุมมอง SET ปิดปี 58 สูงกว่า 1,400 จุดได้
วันนี้ เก็งกำไร PLAT,ASEFA
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (30 พ.ย.) ว่า การปรับน้ำหนักลงทุนของ MSCI วันนี้ ทำให้ SET มีแนวโน้มเคลื่อนไหว “ผันผวน” ในช่วงท้ายตลาด ประเมินกรอบ 1,350-1,375 จุด โดยกลุ่มหุ้นที่ถูกเพิ่มน้ำหนักลงทุนอย่าง PTTGC BTS GPSC IMPACT PLAT TIPCO VNG คาดว่าจะ Outperform ตลาดวันนี้
ขณะที่ภาพตลาดโดยรวมยังอยู่ในช่วงการ “พักฐาน” ต่อไปรอ 1) ECB วันที่ 3 ธ.ค.ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม 2) ถ้อยแถลง Fed วันที่ 3 ธ.ค.จะยังยืนยันแนวโน้มขึ้นดอกเบี้ย 16 ธ.ค.นี้? 3) ตัวเลขเศรษฐกิจ ธปท.บ่ายนี้
โดยยังแนะนำกลยุทธ์ “Selective” ต่อไป ดังนี้:-
1. กลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ Valuation ถูก: KBANK
2. กลุ่มหุ้น Momentum กำไรดี ราคาหุ้นพักฐานที่แนวรับ: SAWAD (แนวรับ 45.5) MTSL AOT (กำไร 4Q15 3.1 พันล้าน +33% y-y)
บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (30 พ.ย.) ว่า กลยุทธ์: ผ่านพ้นการ Rebalance ของดัชนี MSCI ทิศทางดัชนี SET น่าจะชัดเจนขึ้นเนื่องจากในต้นเดือน ธ.ค. จะเป็นช่วงที่ปริมาณการซื้อขายต่างชาติ น่าจะลดลงจากการเข้าสู่ช่วงการพักในเทศกาลคริสมาสต์
ประกอบกับน่าจะมีข่าวดีจากการประชุม ECB ในวันที่ 3 ธ.ค.นอกจากนั้นในวันนี้ทาง ธปท. น่าจะมีการประกาศตัวเลขดัชนีการลงทุนและการบริโภคภาคเอกชน ที่คาดกันว่าจะเริ่มฟื้นตัวต่อเนื่องจากเดือน ก.ย. (MoM%)
ส่วนวันนี้คาดดัชนี SET จะดีดตัวกลับหลังปัจจัยกดดันคลายตัว โดยมีแนวต้านที่ 1368-1372จุด ส่วนแนวรับที่ 1355-1350 จุด โดยหุ้นที่แนะนำ ซื้อ หลังดัชนีลงมาในระดับ 1360คือ กลุ่มสื่อสาร ADVANC พลังงาน PTTGC ธราคารพาณิชย์ KBANK SCB และ AOT
บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (30 พ.ย.) ดัชนี SET ถูกจำกัด Upside จากระดับ Trailing P/E ที่สูงระดับ 24 เท่า เนื่องจากผลประกอบการ Q3/58 ที่ลดลงแรง ฝ่ายวิจัยประเมินดัชนีจะแกว่งตัวในกรอบแนวรับ 1,340 – 1,350 จุด แนวต้าน 1,380 จุด แนะนำเทรดดิ้งระยะสั้นตามกรอบการลงทุนดังกล่าว