จัดทัพ 13 หุ้นเด่นเน้นเก็งกำไรสั้นSET พักฐานกรอบ 1,350-1,367 จุด

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ยังพักฐานในกรอบ 1,350-1,367 จุดรอปัจจัยภายนอกเพิ่มเติม โดยเฉพาะผลประชุม ECB และการจ้างงานสหรัฐ พ.ย.ประเมิน SET จะเกิดสัญญาณการ “กลับตัว” หากว่ายืนเหนือ 1,367จุด ได้จะมีโอกาสกลับไปทดสอบ 1,395 จุด ต่อไป


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.19 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.74 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป หลังจากที่ผลสำรวจของ ISM บ่งชี้ว่า ภาคการผลิตของสหรัฐหดตัวเป็นครั้งแรกรอบ 3 ปีในเดือนพ.ย.

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ยังพักฐานในกรอบ 1,350-1,367 จุดรอปัจจัยภายนอกเพิ่มเติม โดยเฉพาะผลประชุม ECB และการจ้างงานสหรัฐ พ.ย.ประเมิน SET จะเกิดสัญญาณการ “กลับตัว” หากว่ายืนเหนือ 1,367จุด ได้จะมีโอกาสกลับไปทดสอบ 1,395 จุด ต่อไป

หุ้นเด่นเลือก KBANK, SAWAD, MTSL, AOT, INTUCH, CPF, SCB, ASEFA,SMT, BCP , KSL , S11 และ INTUCH

 

 

บล.เคจีไอ ระบุในบทวิเคราะห์ (2 ธ.ค.) ว่า ดัชนีวันนี้คาดแกว่งหรือบวกแคบๆ รอปัจจัยภายนอกเพิ่มเติม โดยเฉพาะผลประชุม ECB และการจ้างงานสหรัฐ พ.ย. ทั้งนี้ เมื่อคืนสหรัฐรายงาน ISM ภาคอุตต่ำสุดรอบ 3 ปี ยิ่งทำให้ตัวเลขจ้างงานในวันศุกร์นี้มีนัยที่ต้องติดตามมากขึ้น ทั้งนี้ FED funds probabillity สำหรับการขึ้นดอกเบี้ย ธ.ค.ยังสูงกว่า 70% อยู่ดี ด้านปัจจัยภายใน ตัวเลขเงินเฟ้อพ.ย.ที่ลบมากกว่าคาด มองไม่เป็นสัญญาณเงินฝืดแต่อย่างใด เพราะเกิดจากฐานราคาน้ำมันที่ต่ำเท่านั้น แนะนำทยอยสะสมหุ้นช่วงดัชนีอ่อนตัว

วันนี้เก็งกำไร ASEFA,SMT

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (2 ธ.ค.) ว่า SET ยัง “พักฐาน” ต่อไปในกรอบ 1,350-1,367 จุด รอความชัดเจนจาก 1) ECB จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในการประชุม 3 ธ.ค.นี้ และ 2) ถ้อยแถงประธาน Fed วันที่ 3 ธ.ค.จะยังยืนยันขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 16 ธ.ค. ทั้งนี้ SET จะเกิดสัญญาณการ “กลับตัว” หากว่ายืนเหนือ 1,367จุด ได้ ซึ่งจะมีโอกาสกลับไปทดสอบ 1,395 จุด ต่อไป

แนะนำกลยุทธ์ “Selective” ต่อไป จนกว่า SET จะสามารถยืนได้เหนือระดับ 1,367 จุด โดยยังชอบ:-

          1. ธนาคารขนาดใหญ่ Valuation ถูก: KBANK

          2. กลุ่มหุ้น Momentum กำไรดี: SAWAD MTSL AOT

          3. กลุ่มสื่อสาร ราคาปรับลดลงมากไป: INTUCH

          4. หุ้น Turnaround: CPF (ผลกระทบ รัสเซีย-ตุรกี จำกัด)

 

บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (2 ธ.ค.) ว่า กลยุทธ์ : ดัชนี SET ในช่วงครึ่งแรกของเดือน คาดจะค่อยๆดีดตัวขึ้นหลังถูกกดจากMSCI rebalancing จากแรงซื้อของนักลงทุนในประเทศในกลุ่มที่โตจากภายในจากแรงหนุนของตัวเลขเศรษฐกิจภายใน ขณะที่ปัจจัยในต่างประเทศจะช่วยหนุนหลังเกิดความชัดเจนเรื่องดอกเบี้ยในสหรัฐและแนวโน้มการขยายวงเงิน QE ของ ECB ส่วนผลการประมูล 4G รอบ 2 อาจกดดันหุ้นชั่วคราวแต่ไม่น่าจะกดตลาดได้มาก

เนื่องจากอยู่ในความคาดหมายของตลาด ปัจจัยหนุนตลาด คือ 1. ตัวเลขเศรษฐกิจภายในเริ่มฟื้นตัว 2.ค่า Earning revision ratio กำลังฟื้นตัว 3 แรงซื้อของ LTF/RMF

ขณะที่แรงขายต่างชาติเริ่มหยุด 4. เกิดความชัดเจนเรื่องดอกเบี้ยสหรัฐ ส่วนปัจจัยลบคือ ราคาน้ำมันที่อาจดิ่งลงเร็วกว่าคาด ความเสี่ยงที่จีนจะลดค่าเงิน เหตุการณ์ก่อการร้ายและความตึงเครียดในซีเรีย ทิศทางดัชนี SET คาดจะขึ้นทดสอบ 1430 จุดประมาณกลางถึงปลายเดือนแล้วอาจวิ่งต่อไปถึงต้นปีใหม่ที่ระดับ 1450+/- จุด จากแรงหนุนของมุมมองเศรษฐกิจภายในและตลาดรวมในปีหน้าจะดีขึ้น แรงซื้อของ LTF/RMF และการทำปิดงบ

กลยุทธ์การลงทุน คือ ให้ทยอยซื้อหุ้นกลุ่ม ธนาคารขนาดเล็ก รับเหมา ท่องเที่ยวอสังหาฯ สร้างบ้าน ชิ้นส่วนอิเลกทรอนิกค์ ค้าปลีกและพลังงานบางตัว วันนี้ให้แนวรับที่ 1347-1350 และแนวต้านที่ 1360-1365 จุด

Fundamental Stock :SCB : COMPANY NOTE – แนวโน้มปีหน้าไม่สดใส (คำแนะนำ : ถือ ราคาเป้าหมาย 144 บาท )

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (2 ธ.ค.) ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปิด -0.20% ปริมาณการซื้อขายชะลอตัวอยู่ 3.3 หมื่น ลบ.นักลงทุนต่างชาติลงทุนลักษณะเฮดจิ้งพอร์ต เพื่อรอความชัดเจนของการประชุม ECB และ OPEC ในช่วงปลายสัปดาห์นี้ วานนี้ ครม.ได้อนุมัติแผนเร่งด่วนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 20 โครงการ มูลค่า 1.79 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นบวกต่อแรงผลักดันภาคการลงทุนไทยในปีหน้า

ส่วนวันนี้จะเริ่มงาน Thailand Focus 2 – 4 ธ.ค.คาดอาจจะส่งผลบวกระยะสั้นต่อจิตวิทยาการลงทุน กลยุทธ์การลงทุน ภาวะการลงทุนอยู่ระหว่างรอทิศทาง Fund Flows หลังจากการประชุม ECB, OPEC, FOMC ดังนั้นคาดดัชนี SET ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแนวรับ 1,340 จุด แนวต้าน 1,380 จุด แนะนำเทรดดิ้งระยะสั้นตามกรอบการลงทุน

 

บล.เอเอสแอล ระบุในบทวิเคราะห์ (2 ธ.ค.)  การแกว่งตัวแท่งเทียนที่อยู่ในกรอบแคบและสร้างจุดต่ำใหม่กว่าลงมาโดยมีแนวโน้มทดสอบแนวรับริเวณ 1,353-1,351 ระดับค่าสัญญาณIndicatorอยู่ในระดับต่ำและมีโอกาสที่จะกลับตัวขึ้นเป็นสัญญาณชี้นำดัชนี แนวต้านSMA5วัน 1,366-1,365 ผ่านขึ้นมาจะเป็นการเปลี่ยนแนวโน้ม

แนะนำปรับตัวซื้อระยะสั้นเล่นรอบ 1,353-1,351 กลับตัวขึ้นขายทำรอบแนวต้าน 1,365

 

บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (2 ธ.ค.)  ดัชนียังคงอยู่ในภาวะซึมลงอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ช่วงเช้าจะสามารถฟื้นตัวขึ้นได้ทำจุดสูงสุดที่ 1364.83 จุด และทำจุดต่ำสุดใกล้เคียงกับวันก่อนหน้าที่ 1353 จุด ซึ่งทำให้ภาพของกราฟแท่งเทียนยังคงมีสัญญาณในเชิงลบ

ขณะที่สัญญาณจาก Stochastic เข้าสู่ภาวะ Oversold และจากการที่ดัชนีพักตัวลงอย่างต่อเนื่องซึ่งกำลังเข้าใกล้แนวรับของแนวโน้มที่เป็นขาลง และบริเวณ Low เดิม (1341 : 29 ก.ย.) 1346 // 1341 จุด ทำให้เชื่อว่าบริเวณดังกล่าวน่าจะเป็นจุดที่สามารถเกิด Technical Rebound ได้ในไม่ช้า แนวต้าน 1365-1376 จุด

กลยุทธ์การลงทุน ตลาดยังอยู่ในสภาวะของการรอคอยข้อมูลสำคัญหลายๆตัว (น้ำมัน , ดอกเบี้ยสหรัฐฯ-ยุโรป) ตลาดจึงมีการซื้อขายในปริมาณที่น้อยลง นักลงทุนอาจเลือกรอดูอยู่นอกตลาดเพื่อให้ผ่านช่วงสัปดาห์นี้ไปก่อน สำหรับการเข้าลงทุน คงต้องเน้นเก็งกำไรช่วงสั้นๆ  หุ้นที่คาดว่า นักลงทุนจะให้ความสนใจ ในวันนี้ อาทิ  BCP , KSL , S11 , INTUCH

Back to top button