หุ้นพลังงานกดดัน SET พักฐานต่อเก็ง 17 หุ้นร้อน กลุ่มรับเหมาฯเด่น
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยยังไม่พ้นช่วงพักฐาน แม้ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนนี้จะมีการรีบาวด์ ขณะที่คาดว่าหุ้นพลังงานขนาดใหญ่มีแนวโน้มอ่อนตัวจากการปรับลงของราคาน้ำมัน การลงทุนยังคงเน้นหุ้นรายตัวที่มีประเด็นบวก โดยเฉพาะกลุ่มรับเหมาที่คาดว่าจะมีการเก็งกำไรเข้ามา นักลงทุนระยะสั้นแนะเทรดดิ้งในกรอบ ส่วนนักลงทุนระยาวให้รอจังหวะสะสมช่วงที่ดัชนีอ่อนตัวมากกว่านี้
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.15 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.86 บาทต่อเหรียญ ด้านตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลง โดยได้รับปัจจัยลบจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่อ่อนตัวลงหลังราคาน้ำมันร่วงต่ำสุดในรอบกว่า 7 ปี ขณะที่นักลงทุนจับตาดูจีนเผยข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนพ.ย.ในวันนี้
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยยังไม่พ้นช่วงพักฐาน แม้ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนนี้จะมีการรีบาวด์ ขณะที่คาดว่าหุ้นพลังงานขนาดใหญ่มีแนวโน้มอ่อนตัวจากการปรับลงของราคาน้ำมัน การลงทุนยังคงเน้นหุ้นรายตัวที่มีประเด็นบวก โดยเฉพาะกลุ่มรับเหมาที่คาดว่าจะมีการเก็งกำไรเข้ามา นักลงทุนระยะสั้นแนะเทรดดิ้งในกรอบ ส่วนนักลงทุนระยาวให้รอจังหวะสะสมช่วงที่ดัชนีอ่อนตัวมากกว่านี้
หุ้นเด่นเลือก ASEFA-BDMS-SYNTEC-CK-STEC-UNIQ-BMCL-BECL-KBANK-MINT-AOT-BDMS-INTUCH-ADVANC-AAV-SIM และ BA
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (8 ธ.ค.) ไซด์เวย์อิงทางลงเล็กน้อย เจอแรงกดดันราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยสัญญาน้ำมันดิบได้ร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 7 ปี ขณะที่เงินทุนต่างประเทศแนวโน้มไหลออกต่อเนื่องกังวลธนาคารกลางสหรัฐ (FED) มีแนวโน้มจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม วันนี้อาจมีแรงเก็งกำไรหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เพราะเปิดให้เสนอราคาทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Auction) โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น
สำหรับนักลงทุนระยะสั้นแนะเทรดดิ้งในกรอบ สำหรับนักลงทุนระยาวให้รอจังหวะสะสมช่วงที่ดัชนีอ่อนตัวมากกว่านี้ เนื่องจากมองว่าทั้งสัปดาห์นี้ดัชนีจะยังไม่เคลื่อนไหวมากนัก ส่วนหนึ่งติดวันหยุดยาว ขณะที่แรงซื้อของเม็ดเงินกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และเงินกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) น่าจะทยอยเข้ามาบ้างในช่วงสัปดาห์หน้ามากกว่า
พร้อมให้แนวรับ 1,330 จุด และ 1,325 จุด แนวต้าน 1,340-1,350 จุด
บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (8 ธ.ค.) ว่า ตลาดหุ้นไทยวันศุกร์ที่ผ่านมายังปรับตัวลดลง -0.53 % แรงขายหลักๆ ยังอยู่ในหุ้นกลุ่มพลังงาน, ธนาคาร และค้าปลีก CPALL ประเด็นสำคัญวันนี้จากราคาน้ำมัน WTI ที่ต่ำกว่าระดับ 40 USD./บาร์เรล หลังจากที่ประชุม OPEC ไม่สามารถหาข้อสรุปเพดานกำลังการผลิตได้ จะเป็นปัจจัยกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานในวันนี้ ซึ่งมีสัดส่วนน้ำหนักในดัชนี SET สูงถึง 15% สำหรับการประชุม ครม. วันนี้ติดตามการตั้งกองทุน Thailand Future Fund, การพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ปิโตรเลียม และวันนี้จะมีการเปิดประมูลรถไฟทางคู่สายจิระ-ขอนแก่น วงเงิน 2.36 หมื่นล้านบาท
กลยุทธ์การลงทุน แนะนำทยอยซื้อที่ระดับดัขนี 1,300-1,320 จุด เพื่อหวังการเก็งกำไรระยะสั้น หุ้นแนะนำวันนี้มองเป็นกลุ่มสายการบินที่คาดได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันขาลงและอยู่ในช่วง High Season ของการท่องเที่ยว แนะนำซื้อ AAV และ BA
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (8 ธ.ค.) ว่า SET ยังเคลื่อนไหว “พักฐาน” ในรูปแบบ Sideways Down โดยการ Rebound ของตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนนี้ คาดว่าจะไม่ช่วยการ Rebound วันนี้มากนัก เนื่องจากกลุ่มพลังงานขนาดใหญ่อย่าง PTT และ PTTEP คาดว่าจะถูกกดดันจากการปรับลดลงของราคาน้ำมัน หลัง OPEC คงกำลังการผลิตน้ำมันในการประชุมสัปดาห์ก่อน ขณะที่หุ้นกลุ่มรับเหมาฯ อย่าง CK, STEC และ UNIQ ที่ประมูลรถไฟรางคู่จิระ-ขอนแก่น คาดว่าจะมีแรง “เก็งกำไร” เข้ามา
คงกลยุทธ์ “Selective” ต่อไป ในช่วงการพักฐานของ SET โดยเน้นกลุ่มหุ้นที่มีประเด็นบวก และมี Momentum ราคาแข็งแกร่งกว่าตลาด
1) กลุ่มรับเหมาฯ รับประมูลรถไฟรางคู่: CK (รวมถึง BMCL และ BECL มีแนวโน้มแข็งแกร่งกว่าตลาด) STEC และ UNIQ
2) กลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ Valuation ถูก: KBANK
3) กลุ่มหุ้น Momentum แข็งแกร่งกว่าตลาด: MINT, AOT และ BDMS
4) กลุ่มสื่อสาร ปันผลเด่น 7%: INTUCH และ ADVANC
บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (8 ธ.ค.) ว่า ดัชนี SET วันนี้ คาดจะยังผันผวนตามดัชนีในต่างประเทศ โดยเฉพาะแรงขายหุ้นในกลุ่มพลังงาน แต่ไม่น่าจะแรง เนื่องจากดัชนีกลุ่มพลังงานแทบจะยังไม่ขึ้นและรับข่าวราคาน้ำมันไปพอสมควรแล้ว นอกนั้นวันนี้จะมีการประชุม ครม.เศรษฐกิจซึ่งคาดจะมีการพูดถึงเรื่องการตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure fund)
ส่วนการปรับตัวลงของดัชนี SET ที่ผ่านมา มองว่าใกล้จะกลับตัวทั้งจาก 1) การลงในรอบปัจจุบันใกล้เคียงกับปีที่แล้วที่ประมาณ 7% เทียบ ธ.ค. ที่แล้วที่ประมาณ 8 % กว่า 2) ตลาดอยู่ในภาวะขายมากเกินไป วันนี้คาดดัชนี SET จะแกว่งตัวโดยมีแรงกดจากแรงขายหุ้นพลังงาน สลับมีแรงซื้อหุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันอย่างการบินและหุ้นที่โยงการท่องเที่ยว วันนี้มองแนวรับที่ 1,328-1,324 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,338-1,342 จุด
Themes play: Short หุ้นกลุ่มพลังงาน แนะนำ short ระยะสั้นหุ้นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีอย่าง TOP, IRPC, IVL, BCP และ PTT ที่ราคา outperform กลุ่มฯ จากการที่ราคาน้ำมันดิบ WTI เมื่อวานนี้ราคาปรับลดลงแรง 2.32 ดอลลาร์/บาร์เรลหรือ -5.80% ปิดที่ 37.65 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบปีนี้และในรอบกว่า 7 ปี
โดยในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมากลุ่มพลังงานปรับลดลง -11.4% ขณะที่หุ้นในกลุ่มที่ปรับลดลงแรงกว่ากลุ่มเช่น PTTEP (-16.6%), BANPU (-11.4%) ส่วนที่ยังปรับลดลงไม่มากเช่น PTT (-10.5%), PTTGC (-7.9%), BCP (-4.1%), IVL (-1.7%), IRPC (+1.0%) และ TOP (+7.2%) น่าจะเป็นเป้าหมายของการถูก short ในช่วงนี้ได้
บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (8 ธ.ค.) ว่า ตลาดไทยวันนี้มีแนวโน้มจะปรับตัวลงต่อจากการขาดปัจจัยบวกใหม่ๆสนับสนุน โดยผลการประชุม OPEC ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับเพดานการผลิตน้ำมันใหม่สำหรับช่วง 6 เดือนข้างหน้าได้เนื่องจากสมาชิกต่างก็ไม่ต้องการปรับลดโควต้าการผลิตน้ำมันของตน ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง กดดันราคาหุ้นในกลุ่มพลังงาน
นอกจากนี้ด้านตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐที่ประกาศออกมาเมื่อวันศุกร์ พบว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 211,000 ตำแหน่ง ขณะที่การว่างงานทรงตัวที่ 5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปีครึ่ง เพิ่มแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมวันที่ 15-16 ธ.ค. 2558 กดดันภาวะตลาดหุ้นโดยรวมต่อเนื่อง คงคำแนะนำ ขายทำกำไร และถือเงินสดมากขึ้นในพอร์ต
แนวรับ/แนวต้าน: 1,320/1,346 สัดส่วนการลงทุน: เงินสด 60%: พอร์ตหุ้น 40%
กลยุทธ์: เน้นเล่นสั้น เล็งหุ้นเป็นรายตัว ลงแรงซื้อ เด้งขึ้นขาย เน้นพื้นฐานดี ปันผลสูง และได้ประโยชน์จากโครงการรัฐ บวกกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่า
นักลงทุนระยะสั้น: ASEFA (6.5), BDMS (25.50)
นักลงทุนระยะยาว: SYNTEC (3.80), CK (32)
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (8 ธ.ค.) คาดการณ์มุมมองทางเทคนิค สัญญาณกราฟที่พบเมื่อปลายสัปดาห์ก่อน ยังแสดงภาพการฉีกตัวลงใต้ MA10 โดยพบราคาปิดรูป candlestick เป็นลักษณะการแกว่งตัวออกข้างหรือ sideway สัญญาณขาขึ้นรอบใหม่ยังไม่เกิดขึ้นหากไม่ผ่าน 1,342 จุด ขณะที่ MACD มาที่ค่า -14.81 ทำให้ภาพระยะสั้นแสดงทิศทางที่จะแกว่งตัวหรืออ่อนลง ส่วนระยะยาวให้น้ำหนักขาขึ้นแต่ชะลอตัว
แนวโน้มของตลาดจะเคลื่อนไหวที่กรอบ 1,325-1,342 จุด
หุ้นที่เลือกวันนี้มีโอกาสปรับขึ้น แนะนำซื้อเก็งกำไร BMCL และ SIM