SET ผันผวนต่อ จับตาประมูลคลื่น 900เก็ง 10 บจ.เด็ด เทรนด์แกร่งกว่าตลาด

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยผันผวนในกรอบแคบลง หลังอ่อนตัวอย่างต่อเนื่องก่อนหน้านี้ค่อนข้างมากทำให้ downside จำกัด และมีโอกาสรีบาวด์ขึ้นไปแกว่งบวกได้ ด้านเทคนิคจะเห็นสัญญาณฟื้นตัวจนกว่าจะทะลุระดับ 1,280 จุด ขึ้นไป ขณะที่ตลาดยังรอความชัดเจนจากการประชุมเฟด การลงทุนยังเน้นเก็งกำไรในกลุ่มที่มีประเด็นบวกจากค่าเงินบาทอ่อน, การอ่อนตัวของราคาน้ำมัน และกลุ่มที่มีแนวโน้มแกร่งกว่าตลาด


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.18 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 36.05 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลง ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะประกาศขึ้นดอกเบี้ยในสัปดาห์นี้

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยผันผวนในกรอบแคบลง หลังอ่อนตัวอย่างต่อเนื่องก่อนหน้านี้ค่อนข้างมากทำให้ downside จำกัด และมีโอกาสรีบาวด์ขึ้นไปแกว่งบวกได้ ด้านเทคนิคจะเห็นสัญญาณฟื้นตัวจนกว่าจะทะลุระดับ 1,280 จุด ขึ้นไป ขณะที่ตลาดยังรอความชัดเจนจากการประชุมเฟด และนักลงทุนบางส่วนยังคงรอติดตามผลการประมูลคลื่น 900MHz ที่จะเริ่มตั้งแต่ 9 โมงเช้าวันนี้

การลงทุนยังเน้นเก็งกำไรในกลุ่มที่มีประเด็นบวกจากค่าเงินบาทอ่อน, การอ่อนตัวของราคาน้ำมัน และกลุ่มที่มีแนวโน้มแกร่งกว่าตลาด

หุ้นเด่นเลือก ADVANC-KBANK-TRUE-PTT-PTTGC-KCE-DELTA-EPG-AAV และ TISCO

 

นายคณฆัส จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน เปิดเผยถึงการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (15 ธ.ค.) คาดว่าจะมีความผันผวนและอยู่ในกรอบที่แคบลง หลังดัชนีปรับตัวลดลงมาติดต่อกัน ขณะที่ปัจจัยจากต่างประเทศ ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นได้หลังราคาน้ำมันกระตุกขึ้นบ้าง แต่ตลาดยังคงติดตามความชัดเจนในการประชุมเฟดระหว่างวันที่ 15-16 ธ.ค.ซึ่งตลาดคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ส่วนปัจจัยในประเทศยังต้องติดตามการประชุมครม. ที่คาดว่าจะมีการพิจารณาเรื่องการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างให้สามารถทรงตัวได้ เช่นเดียวกับราคาน้ำมันดิบที่ฟื้นตัวขึ้นก็น่าจะทำให้หุ้นกลุ่มพลังงานไม่ปรับลดลงและสามารถประคองตัวได้ รวมถึงยังต้องติดตามการเคลื่อนไหวของหุ้นในกลุ่มสื่อสาร ถึงการประมูลใบอนุญาตคลื่นความถี่ 900 MHz ในวันนี้ หลังก่อนหน้านั้นตลาดมีความกังวลเรื่องราคาใบอนุญาตที่สูงขึ้นจะกระทบต่อต้นทุนของผู้ประกอบการ

ขณะที่แรงขายของนักลงทุนต่างชาติในวันนี้จะมีไม่มากเหมือนเมื่อวานนี้ที่มีการขายสุทธิในระดับมากกว่า 3 พันล้านบาท หลังมองว่าการปรับพอร์ตสำหรับหุ้น BBL น่าจะหมดลงแล้ว ประกอบกับการปรับลดลงของดัชนีหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมาค่อนข้างมาก ทำให้ downside จำกัด

มองแนวรับจะอยู่ที่บริเวณ 1,260 และ 1,250 ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,292 และ 1,300

 

บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ (15 ธ.ค.) ว่า หลังจาก SET ไหลลงแรงมากว่า 3 สัปดาห์โดยปรับตัวลงมาแล้วประมาณ 150 จุด เมื่อวานนี้ช่วงบ่ายจึงเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาหนุนตลาดอีกครั้ง ทำให้ดัชนีกลับขึ้นมาปิดเป็นลบน้อยลงในระหว่างวัน ขณะที่เช้านี้น่าจะพอได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากการที่ตลาดหุ้นสหรัฐเริ่มกลับมามีจังหวะปิดบวกกว่า 100 จุด จากการฟื้นตัวขึ้นของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ดีดกลับจากจุดต่ำกว่า 5% โดยปิดบวกเกือบ 2% จากระดับปิดวันก่อน เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังการร่วงลงแรงในรอบที่ผ่านมา

โดยนักลงทุนยังจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์จาก EIA ที่จะเปิดเผยในวันพรุ่งนี้อยู่ (16 ธ.ค.) ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้หลายแห่งเริ่มมีจังหวะบวกกลับได้อีกครั้ง ซึ่งน่าจะกระตุ้นแรงซื้อในตลาดหุ้นไทยได้ด้วย ทำให้ฝ่ายวิจัยคาดว่า SET มีลุ้นโอกาสรีบาวด์ขึ้นไปแกว่งบวกได้เช่นกัน

อย่างไรก็ตามยังต้องระวังการแกว่งตัวผันผวนของ SET ด้วย โดยคาดว่านักลงทุนบางส่วนยังคงรอติดตามผลการประมูลคลื่น 900MHz ที่จะเริ่มตั้งแต่ 9 โมงเช้าวันนี้ว่าจะมีการแข่งขันสูงมากเพียงใด รวมทั้งรอลุ้นผลประชุมเฟด (15-16 ธ.ค.) ว่าจะออกมารูปแบบใดด้วย

กลยุทธ์: หลัง SET ไหลลงมาลึกอย่างรวดเร็วในรอบที่ผ่านมา และเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาช่วยหนุนได้อีกครั้ง ทำให้คาดว่ามีลุ้นโอกาสรีบาวด์ขึ้นไปแกว่งตัวด้านบวกได้บ้างในเร็วๆ นี้ ดังนั้นจึงยังแนะนำให้เน้นถือไว้ก่อน เพื่อรอหาจังหวะขายช่วงบวกเท่านั้น แต่ต้องระวังการแกว่งตัวผันผวนและย้อนลบที่ยังอาจเกิดขึ้นได้อยู่ จึงไม่แนะนำให้ซื้อไล่ราคาช่วงบวก

แนวรับ: 1265-1262, 1260-1256 จุด แนวต้าน: 1270-1274, 1278-1282 จุด

หุ้นเด่นมีประเด็น: ADVANC ราคาเป้าหมาย 270 บาท, TISCO ราคาเป้าหมาย42.70 บาท

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (15 ธ.ค.) ว่า SET ยังผันผวนจาก 1) การประมูลคลื่น 900MHz วันนี้ 2) การประชุม FOMC คืนวันที่ 16 ธ.ค. และ 3) การอ่อนค่าของค่าเงินหยวน ประเมินกรอบเคลื่อนไหวที่ 1,255-1,280 จุด และจะยังไม่เห็นสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคจนกว่าจะทะลุ 1,280 จุด ขึ้นไป

กลยุทธ์ระยะสั้นยังแนะนำแค่ “เก็งกำไร” ด้วยวงเงินจำกัด โดยเน้นกลุ่มหุ้นที่ได้รับผลดีจาก

1) ค่าเงินบาทอ่อนค่า และผลการดำเนินงานมีแนวโน้มเติบโตดี ในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ อย่าง KCE และ DELTA

2) กลุ่มหุ้นที่ได้รับผลดีจากการอ่อนตัวของราคาน้ำมัน และ ราคาแข็งแกร่งกว่าตลาด อย่าง EPG และ AAV

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (15 ธ.ค.) ว่า วานนี้ต่างชาติน่าจะปรับพอร์ตในส่วนของหุ้น BBL หลังจากถูก MSCI ถอดออกจากการคำนวณ ภาวะการซื้อขายวานนี้เริ่มเห็นแรง Cover Short กลับมาในหุ้น PTT, PTTGC และ ADVANC ซึ่งเป็นการปิดความเสี่ยงก่อนการประชุม FOMC  วันนี้ติดตามการประมูลคลื่น 900 MHz  ส่วนการจับสลากโครงการ Solar Farm ส่วนราชการเลื่อนออกไปเป็น 22 ธ.ค.นี้

กลยุทธ์การลงทุน ยังคงแนะนำทยอยซื้อ บริเวณดัชนี SET 1,240-1,260 จุด เนื่องจากประเมิน Risk & Return ที่ระดับดังกล่าว น่าสนใจในการเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้น  แนะนำซื้อเก็งกำไร ADVANC, KBANK, TRUE, PTT, PTTGC ที่อาจจะเห็นแรงซื้อ Cover Short  กลับ

Back to top button