เก็บ 9 หุ้นรับอานิสงค์หลังประมูล 4Gดัชนีผันผวนต่อ-กลุ่มสื่อสารยังกดดัน

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.13 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 36.12 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากเงินเยนที่แข็งค่าฉุดตลาดหุ้นญี่ปุ่นอ่อนตัวลง นอกจากนี้ ราคาน้ำมันที่ยังคงอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่องได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในตลาด

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวผันผวน เนื่องจากกลุ่มสื่อสารยังมีแรงกดดัน ขณะที่ต่างประเทศค่าเงินดอลลาร์และสต๊อกน้ำมันในสหรัฐ หากดิ่งลงไปอีกก็มีสิทธิที่จะไปกดดันหุ้นในสหรัฐต่อ และมีผลต่อตลาดหุ้นทั่วโลก

สำหรับหุ้นเด่นเลือก SCB, BBL, BA,DIF, SVI , BA , VIBHA, SVI และ BDMS

 

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลง เนื่องจาก Sentiment ตลาดต่างประเทศไม่ดี โดยตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างก็อยู่ในแดนลบราว 0.50-0.6% ยกเว้นตลาดหุ้นจีน เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และราคาน้ำมันก็ยังปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 35 เหรียญฯ/บาร์เรล ซึ่งยังทำ New Low อยู่

ส่วนปัจจัยในประเทศก็มีเรื่องการประมูล 4G คลื่น 900 MHz ที่พลิกล็อคทาง TRUE และ JAS ได้ใบอนุญาตไป ทำให้มองว่าอุตสาหกรรมสื่อสารจะมีการแข่งขันสูง เพราะต้นทุนใบอนุญาตฯแพง ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเพิ่มทุนได้ อีกทั้งล่าสุดโบรกเกอร์ต่างชาติได้ปรับลดน้ำหนักการลงทุนหุ้นไทยด้วย

พร้อมให้แนวรับ 1,260-1,270 จุด ส่วนแนวต้าน 1,290-1,295 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (21ธ.ค.) ว่า การปรับลดลงของตลาดหุ้น Dow Jones กว่า 2% เมื่อคืนวันศุกร์ และผลการประมูล 4G ที่ผิดจากที่ตลาดคาดการณ์ไว้มาก โดย TRUE และ JAS เป็นผู้ชนะการประมูล ด้วยราคา 7.5 หมื่นล้านบาท/ใบอนุญาต เป็นความเสี่ยงต่อ 1) การแข่งขันที่รุนแรงขึ้น 2) โอกาสเพิ่มทุนของทั้ง TRUE และ JAS กดดัน SET ด้วยแนวรับ 1,252 จุด

“Selective” ธนาคารที่คาดว่าจะได้ผลดีจากการประมูล 4G อย่าง SCB และ BBL

 

บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (21ธ.ค.) ว่า กลยุทธ์ : ในอาทิตย์นี้ประเด็นที่ต้องจับตายังคงเป็นทิศทางราคาน้ำมัน ซึ่งจะเป็นอย่างไรยังขึ้นอยู่กับค่าเงินดอลลาร์และสต๊อกน้ำมันในสหรัฐ หากดิ่งลงไปอีกก็มีสิทธิที่จะไปกดดันหุ้นในสหรัฐต่อ อย่างไรก็ตามการลงของราคาน้ำมันในรอบนี้ส่งผลให้บรรดาHedge fund ได้เพิ่มการ Long position เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ต้นเดือน พ.ย.

สำหรับราคาหุ้นในกลุ่มสื่อสารใหญ่ที่เข้าประมูล 4G ในช่วงตั้งแต่วันที่ 15 ถึง 18 ธ.ค. ปรากฏว่าต่างดิ่งลงอย่างรวดเร็ว โดยหุ้นที่ดิ่งลงแรงที่สุด คือ DTAC ตามมาด้วย ADVANC TRUE และ JAS โดยผลการประมูลคลื่น 4G ที่ผ่านมาพ้นไปอย่างเหนือความคาดหมายได้ส่งผลกระทบกับราคาหุ้น ทั้งบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตอย่าง TRUE JAS และที่ไม่ได้รับอย่าง ADVANC DTAC ทั้งประเด็นการแย่งฐานลูกค้า กำไรในอนาคตและความกังวลเรื่องการเพิ่มทุน

ทิศทางดัชนี SET ในอาทิตย์นี้มองว่าจะผันผวนในช่วงต้นสัปดาห์แล้วจะค่อยๆ ดีขึ้น เนื่องจากไม่มีแรงกดภายใน ยังพอมีแรงหนุนจากต่างประเทศ เป็นสัปดาห์ที่การซื้อขายจะคึกคัก และมีแนวโน้มว่าจะมีการทำปิดงบ ส่วนวันนี้มองดัชนีจะกลับมาผันผวนจากแรงขายหุ้นพลังงานและสื่อสาร แต่จะลงไม่แรงมาก โดยมองแนวต้านที่ 1290-1295 จุด แนวรับที่ 1275-1270 จุด

แนะนำ ซื้อ BA โดยมีราคาเป้าหมาย 27 บาท

 

บล.ยูโอบี เคย์เฮียน ระบุในบทวิเคราะห์ (21ธ.ค.) ตลาดไทยวันนี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในแดนลบ โดยมีแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่อ่อนแอสุดในรอบเกือบ 7 ปี และความกังวลเรื่องเศรษฐกิจของจีน ส่วนภายในประเทศกลุ่มสื่อสารยังมีโอกาสลงได้ต่อในช่วงนี้ เนื่องจากนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มีแนวโน้มจะปรับลดประมาณการกำไรสุทธิลงอีก อย่างไรก็ตาม ตลาดจะยังคงปรับลงไม่มากนัก ด้วยแรงหนุนจากกลุ่มแบงก์และเม็ดเงิน LTF RMF ในช่วงนี้ แนวรับที่ 1250 จุดจึงยังคงทำงานได้ดีอยู่

กลยุทธ์ : เก็บสะสมหุ้นกลุ่มรับเหมา โรงพยาบาล วัสดุก่อสร้าง และอิเล็กทรอนิคส์ ที่ราคาลงมาเยอะแล้วและมีพื้นฐานดี มี story หนุนเป็นรายตัว หลีกเลี่ยงหุ้นใหญ่ในกลุ่มสื่อสารไปก่อน

นักลงทุนระยะสั้น : SVI(6.20), BDMS (25.50)

 

บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (21ธ.ค.)ทิศทางตลาดหุ้นไทย  สืบเนื่องจากการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ที่มีต่อค่าดอลล่าร์-ราคาน้ำมัน-ค่าเงินบาท มีผลต่อตลาดหุ้นทั่วโลก เพราะไม่แน่ใจในเรื่องการโยกย้ายเงินทุน เนื่องตัวแปรสำคัญคือภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีความเสี่ยง(นักลงทุนอาจลดการถือครองหุ้น) อันมาจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลง ด้านปัจจัยในประเทศ ผลการประมูล 4G ยังอาจกระทบต่อราคาหุ้นกลุ่มผู้ประมูลทั้ง 4 ราย บวกกับค่า P/E สูง กอปกับแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทในตลาดหุ้นไทยที่ยังไม่ดีต่อ ใน Q4 ทั้งหมดนี้ เป็นปัจจัยที่จะทำให้ช่วงสั้นๆ ตลาดหุ้นจะผันผวนสูงและมีโอกาสที่จะปรับตัวลดลง

กลยุทธ์การลงทุน การตอบรับต่อการขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐฯของตลาดหุ้นต่างประเทศในเชิงลบ ราคาน้ำมันที่ลดลง จะทำให้ภาพรวมตลาดยังเป็นลบ หุ้นกลุ่มผู้ประมูล 4G มีความไม่แน่นอนในทิศทาง แนะนำให้ชะลอการลงทุนออกไปก่อน หุ้นที่คาดว่า นักลงทุนจะให้ความสนใจเพื่อการลงทุนในระยะสั้นๆ ในวันนี้ อาทิ   SVI , BA , VIBHA

 

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)ระบุในบทวิเคราะห์ (21ธ.ค.)  ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้คาด SET แกว่งลงต่อ คาดจิตวิทยาช่วงสั้นมากของหุ้นสื่อสารยังไม่ดี หลังราคาประมูลคลื่น 900 จบที่สูงกว่าคาดมาก และมีผู้เล่นรายใหม่เข้าสู่อุตสาหกรรม ขณะที่หุ้นพลังงานอาจถูกกระทบจากประเด็นข่าวในสหรัฐที่ว่าคองเกรสอนุมัติให้สหรัฐส่งออกน้ำมันดิบได้หลังไม่ส่งออกมาหลายสิบปี ผนวกกับรายงานแทนขุดเจาะปรับเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดีคงมุมมอง SET ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว หลังปัจจัยภายนอกเรื่องทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐมีความชัดเจนและหุ้นกลุ่มหลักๆ น่าจะย่อยข่าวลบหมดเร็วๆ นี้ ทั้งนี้ช่วง 8 วันทำการที่เหลือของปีน่าจะมีแรงซื้อจากฝั่งสถาบันต่อเนื่อง ตาเม็ดเงิน LTF/RMF นับจากต้นเดือนสถาบันซื้อสุทธิ 7.6 พันล้านบาท ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยช่วง 9 ปีที่ผ่านมาซื้อสุทธิ 1.1 หมื่นล้านบาท

สะสม DIF ได้อานิสงค์จากผลประมูล 4G เก็งกำไรแนวรับ EPG

 

บล.เอเอสแอล ระบุในบทวิเคราะห์ (21ธ.ค.)  ดัชนีปิดปรับลงที่จุดต่ำด้วยแท่งเทียนสีดำยาวตัดSMA5วันลงมาเป็นสัญญาณขายแท่งเทียน แนวโน้มระยะสั้นมีแนวรับเป้าหมายเพื่อปิดGAP บริเวณ 1,273-1,270 แนวรับระหว่างวันา 1,280 เป็นจุดพิจารณา ต่ำกว่าลงมาจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงของขาลง แนวต้าน 1,292

คำแนะนำของ ASL  ถือหรือซื้อเมื่อปรับยืน 1,280 ได้เท่านั้น ปิดGAPแนวรับ 1,270