เก็บ 16 หุ้นเด็ดรับผลดีมาตรการกระตุ้นศก.ปลายปีSET ขึ้นต่อรับราคาน้ำมันฟื้น-แรงขายสื่อสารลดลง

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสปรับขึ้นต่อจากวานนี้ หลังราคาน้ำมันฟื้นตัวต่อเนื่องส่งผลดีต่อกลุ่มพลังงาน ขณะที่แรงขายในหุ้นกลุ่มสื่อสารเริ่มชะลอตัว นอกจากนี้มีโอกาสที่จะเกิด Window Dressing และแรงซื้อ LTF การลงทุนเน้นกลุ่มที่ได้รับผลดีจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศช่วงปลายปี


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.25 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 36.09 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นรับราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภายหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงมากเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสปรับขึ้นต่อจากวานนี้ หลังราคาน้ำมันฟื้นตัวต่อเนื่องส่งผลดีต่อกลุ่มพลังงาน ขณะที่แรงขายในหุ้นกลุ่มสื่อสารเริ่มชะลอตัว นอกจากนี้มีโอกาสที่จะเกิด Window Dressing และแรงซื้อ LTF การลงทุนเน้นกลุ่มที่ได้รับผลดีจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศช่วงปลายปี

หุ้นเด่นเลือก ASEFA-MAJOR-HMPRO-GLOBAL-BIGC-ROBINS-TMB-COM7-QH-CK-UNIQ-SCC-ADVANC-INTUCH-FPI และ EARTH

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (24 ธ.ค.) ประเมินแรงขายของต่างชาติส่วนใหญ่ยังอยู่ในกลุ่มสื่อสาร แต่ภาวะตลาดโดยรวมเริ่มฟื้นตัวหลังจากราคาหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวเพิ่มขึ้น สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงท้ายปี ที่เน้นไปที่การจับจ่ายใช้สอยสามารถหักค่าลดหย่อนได้ 1.5 หมื่นบาท จะใช้กระตุ้นภาคอุปโภคบริโภค

กลยุทธ์การลงทุน ดัชนีหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจาก Christmas Rally และราคาน้ำมันที่ฟื้นตัว คาดดัชนีมีกรอบแนวรับ 1,270 จุด และแนวต้าน 1,290-1,300 จุด แนะนำเก็งกำไรในหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย เช่น HMPRO, GLOBAL, BIGC, ROBINS

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (24 ธ.ค.) ว่า SET มีแนวโน้ม Technical Rebound ต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ ด้วยแนวต้าน 1,288 จุด ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) การปรับสูงขึ้นของราคาน้ำมันดิบ เกือบ 4% หลัง US Inventory ปรับลดลง หนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน 2) Sentiment ตลาดหุ้นโลกฟื้นตัว 3) แรงขายกลุ่มสื่อสารชะลอตัว ขณะที่หุ้นใหญ่อย่าง ADVANC INTUCH สูง 8% 4) รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง 5) โอกาสที่จะเกิด Window Dressing และแรงซื้อ LTF

แนะนำ “Selective” หุ้นรายตัว ต่อไป

1) ธนาคาร ที่ได้ประโยชน์จากการปล่อย Soft Loan เพิ่ม: “ซื้อ” TMB อสังหาฯ + ค้าปลีก: มาตรการลดหย่อยภาษี 15,000 บาท ปลายปี หนุนกลุ่มค้าปลีก อย่าง HMPRO ROBINS COM7 รวมไปถึง QH ที่ถือหุ้นใน HMPRO และราคาปัจจุบันต่ำกว่า NAV

2) รับเหมาฯ วัสดุก่อสร้าง: CK UNIQ และ SCC

3) สื่อสาร: ADVANC INTUCH แรงขายชะลอ ปันผลสูง 8%

 

บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ (24 ธ.ค.) ว่า SET เริ่มมีจังหวะแกว่งบวกได้ดีขึ้นเมื่อวานนี้ หลังจากแรงขายในหุ้นกลุ่ม ICT ดูเหมือนจะเริ่มน้อยลงและมีแรงซื้อเก็งกำไรกลับเข้ามาช่วยพยุงราคาไว้ได้บ้าง ถึงแม้จะคาดว่าแรงซื้อหุ้นในกลุ่มนี้คงจะไม่หนาแน่นมากจนทำให้ราคาหุ้นในกลุ่มสามารถขยับขึ้นได้แรงในช่วงถัดไป แต่น่าจะช่วยพยุงไว้ให้ชะลอการปรับตัวลงต่อได้บ้าง ทำให้กดดันตลาดรวมน้อยลง

ขณะที่ตลาดหุ้นต่างประเทศช่วงนี้ยังค่อนข้างสดใส หลังราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐยังบวกแรงต่อ และหนุนให้ตลาดหุ้นยุโรปเริ่มพลิกกลับมาปิดบวกด้วย รวมทั้งการขยับขึ้นต่อเนื่องของตลาดหุ้นเอเชียน่าจะช่วยสร้างบรรยากาศการลงทุนที่ดีในตลาดหุ้นไทยเช่นกัน ประกอบกับแรงขายของนักลงทุนต่างชาติน่าจะเริ่มบางตาลง เนื่องจากเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลคริสต์มาส-ปีใหม่ ทำให้คาดว่า SET มีสิทธิที่จะอยู่ในช่วงแกว่งบวกด้วยวอลุ่มเบาบางขึ้นไปได้ในช่วงท้ายปีนี้ จึงแนะนำเน้นถือต่อเนื่องเพื่อรอขายสูงได้ แต่ไม่แนะนำให้ซื้อไล่ราคาช่วงบวก

แนวรับ 1270-1266, 1262-1258 จุด แนวต้าน 1276-1280, 1284-1290 จุด

กลยุทธ์: เนื่องจากช่วงที่ผ่านมา SET ปรับตัวลงมาลึกมากพอควรอย่างรวดเร็ว ทำให้ราคาหุ้นหลายตัวต่ำกว่าพื้นฐานมาก จึงเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาหาจังหวะทยอยรับให้เห็นบ้างแล้ว ส่งผลให้ SET มีลักษณะแกว่งทรงตัวได้ดี และคาดว่ายังลุ้นรีบาวด์ขึ้นต่อได้อีก ดังนั้นยังแนะนำเน้นถือต่อเพื่อรอขายในจังหวะบวกแรงได้ แต่ถ้าจะเลือกหุ้นเข้าซื้อเพิ่มเติม แนะนำให้รอซื้อช่วง SET อ่อนตัวลงก่อนดีกว่า เพราะยังมีความเสี่ยงสูงอยู่

หุ้นเด่นมีประเด็น: ASEFA ราคาเป้าหมายปีหน้า 7 บาท, MAJOR แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปีหน้า 35 บาท

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (24 ธ.ค.)คาดการณ์มุมมองทางเทคนิคสัญญาณกราฟที่พบเมื่อวานนี้ เป็นภาพการพยายามกำลังเกิดจุดกลับตัวขึ้นบริเวณ 1,255 เมื่อ 8 วันที่แล้ว โดยรูปแบบ candlestick ในระยะสั้นมีโอกาสเกิดการปรับขึ้นช่วงสั้นในกรอบกว้าง ที่ 1,265-1,300

แนวโน้มของตลาดในระยะใกล้ๆจะเคลื่อนไหวที่ กรอบ 1,265-1,280

หุ้นที่เลือกวันนี้มีโอกาสปรับขึ้น แนะนำซื้อเก็งกำไร FPI และ EARTH

Back to top button