SET แกว่งแคบ-ลุ้นแรงหนุนกลุ่มพลังงานชู 17 หุ้นเก็ง Outperform ตลาด-กำไรเด่น

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.15 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 36.14 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์รุนแรงในตะวันออกกลาง หลังจากซาอุดิอาระเบียได้ประกาศตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับอิหร่าน ภายหลังจากเกิดเหตุโจมตีสถานทูตซาอุดิอาระเบียในอิหร่าน

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้แกว่งในกรอบแคบ โดยยังเป็นช่วงการปรับพอร์ตของกองทุน LTF ขณะที่ตลาดน่าจะได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น ด้านปัจจัยภายใน รองนายกจะหารือปฏิรูปโครงสร้างภาษีวันนี้ หากมีรายละเอียดการลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจะเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อภาพเศรษฐกิจ

สำหรับหุ้นเด่นเลือก BEAUTY,KCE, AAV, SAWAD, AOT, SIRI, KTB, TISCO, INTUCH, QH, CK, UNIQ, GFPT, ROBINS, CPF, TU และ ANAN

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (4 ม.ค.)  แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : ลุ้นดัชนีขึ้นทดสอบ 1,300 จุด SET น่าจะผันผวนตามตลาดหุ้นภูมิภาค ปัจจัยหนุนหลักจะมาจากรายงานตัวเลขดัชนี Caixin PMI เดือนธ.ค.ของจีนเช้านี้ที่ตลาดคาดว่าจะดีขึ้นเป็น 49 จาก 48.6 ในเดือนพ.ย. และหุ้นกลุ่มพลังงานจะยังเป็นกลุ่มนำตลาดจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้น อย่างไรก็ตามนักลงทุนต้องติดตามรายงานอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของไทยวันนี้ ซึ่งตลาดคาดอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเดือนธ.ค.จะอยู่ที่ 0.75% YoY ลดลงจากจาก 0.88% เดือนพ.ย.

นอกจากนี้ Theme การลงทุนในปีนี้นั้นเชื่อว่า Theme ธุรกิจก่อสร้าง Theme ค่าเงินบาทอ่อนและ Theme หุ้น Defensive+Growth ได้แก่ กลุ่มสินเชื่อรายย่อย กลุ่มที่มีลักษณะเฉพาะไม่อ่อนไหวต่อเศรษฐกิจ จะเป็นกลุ่มที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุน

KSS report วันนี้: ROBINS-CPF-TU

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (4 ม.ค.)  SET มีแนวโน้มแกว่งออกข้างในกรอบ 1,275-1,302 จุด ในช่วง 2 สัปดาห์แรกของเดือน ม.ค.จากการปรับพอร์ตของกองทุน LTF แต่จะเป็นโอกาสในการ “ซื้อ” มอง Downside Risk ที่ PE 14x จำกัด ขณะที่กลุ่มหุ้นที่ 1) ผลการดำเนินงาน 4/15 ออกมาดี 2) กลุ่มหุ้นปันผลสูง หลังประกาศงบ 4/15 และ 3) กลุ่มที่ได้รับผลดีจากการเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน จะมีแนวโน้ม Outperform ตลาดในระยะ 1-3 เดือนข้างหน้า

แนะนำ “Selective” หุ้น 3 กลุ่ม ดังนี้:

1. คาดกำไร 4/15 เติบโตแข็งแกร่ง: BEAUTY KCE AAV SAWAD AOT

2. กลุ่มหุ้นปันผลสูง: SIRI (Yield 7.9%) KTB (Yield 5.2%) TISCO (Yield 5.0%) INTUCH (Yield 4.2%) QH

3. กลุ่มที่ได้รับผลดีลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน: CK UNIQ

 

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (4 ม.ค.)  คาด SET วันจันทร์แกว่งตัวแคบๆ แม้หุ้นต่างประเทศส่วนใหญ่ลบ แต่คาดหุ้นน้ำมันช่วยจำกัดความเสี่ยงของดัชนี หลังปัญหาการเมืองล่าสุดระหว่างซาอุ และอิหร่าน หนุนน้ำมัน Wti+3.0% เช้านี้ นอกจากนี้คาดแรงไถ่ถอนกองทุน LTF จะไม่มาก เนื่องจากค่าเฉลี่ยของ SET ไตรมาส 4/55 (ซึ่งเป็นช่วงสุดท้ายที่ซื้อ LTF เพื่อมาขายต้นปี 59 นี้) ใกล้เคียงกับ SET ปัจจุบัน จึงไม่จูงใจให้ไถ่ถอนนัก นอกจากนี้คาดกองทุนมีสำรองเงินสดระดับหนึ่ง ด้านปัจจัยภายใน รองนายกจะหารือปฏิรูปโครงสร้างภาษีวันนี้ หากมีรายละเอียดการลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจะเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อภาพเศรษฐกิจ

หุ้นเด่นวันนี้ ซื้อ GFPT/เก็งกำไร ANAN

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (4 ม.ค.)  ภาพรวมตลาดหุ้นไทยตลอดปี 2015 ปรับตัวลดลง -13 % โดยได้รับแรงกดดันจากหุ้นในกลุ่มสื่อสาร , ธนาคาร และพลังงาน  แต่ในช่วงท้ายปีได้แรงหนุนจากการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น กองทุนหมู่บ้าน , กองทุนช่วยเหลือ SME  รวมถึงมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายและการท่องเที่ยว

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ ตลาดน่าจะได้แรงหนุนจากราคาน้ำมัน หลังจากซาอุฯ ตัดความสัมพันธ์การทูตกับอิหร่าน จากเหตุการโจมตีสถานทูตซาอุฯ ในกรุงเตหะราน  ประเมินดัชนีวันนี้มีแนวรับที่ 1,275 จุด แนวต้านที่ 1,300 – 1,310 จุด แนะนำเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว เช่น AOT , AAV , ERW  ได้ประโยชน์ในช่วง High Season ของการท่องเที่ยว

 

บล.ซีไอเอ็มบี ระบุในบทวิเคราะห์ (4 ม.ค.)  สัปดาห์นี้คาดดัชนียังคงได้รับแรงหนุนจาก แรงซื้อในประเทศ ส่วนปัจจัยในต่างประเทศดูเหมือนจะไม่เป็นใจ คือดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลงในช่วงก่อนสิ้นปี แต่ราคาน้ำมันยังทรงตัวอยู่ได้ ปัจจัยที่กำหนดทิศทางดัชนี SET ในอาทิตย์นี้คือ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานในสหรัฐและราคาน้ำมันดิบ ซึ่งคาดว่าจะยังมีไม่น่ามีอะไรมาก ส่วนวันนี้ทาง รองนายกฝ่ายเศรษฐกิจจะออกมาแถลงแนวทางเศรษฐกิจและการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานว่าจะยังเป็นไปตามกรอบที่กำหนด ซึ่งจะช่วยสร้างบรรยากาศการลงทุนหุ้นกลุ่มรับเหมา

วันนี้เปิดขึ้นดัชนี SET จะผันผวนตามภูมิภาคแต่สุดท้ายน่าจะดีดตัวกลับได้จากแรงหนุนของแรงซื้อในประเทศ ส่วนแรงขายที่จะเกิดจาก LTF/RMF ยังไม่น่าจะมาก เนื่องจากดัชนี SET ในช่วง 3 ปีก่อนยังอยู่ระดับเดียวกับปัจจุบัน ทิศทางดัชนีทั่วโลกในเดือน ม .ค. คาดยังคงอิงกับดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐในเดือน ม.ค. เพราะสามารถพยากรณ์ทิศทางดัชนีได้ทั้งปีถึง 75% กลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าจะดีดตัวกลับได้ในช่วงสัปดาห์นี้คือ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ สื่อสาร รับเหมา จากแรงหนุนของการเก็งงบ Q4/15 และความชัดเจนของการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ โดยวันนี้มองแนวรับที่ 1282-1278 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1295-1300 จุด