SET ยังผันผวน แนะจับตาตลาดหุ้นจีนเคาะ 9 หุ้นเด็ดพื้นฐานแน่น-แกร่งกว่าตลาด

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.13 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 36.17 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและตลาดหุ้นของจีน แม้ว่าจีนได้ประกาศระงับใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์แล้วก็ตาม

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ยังคงผันผวน แต่คาดว่าจะลดลงจากวานนี้หลังจีนออกมาตรการให้ผู้ถือหุ้นใหญ่ขายหุ้นออกมาได้ 1% อย่างไรก็ตามดัชนียังมีความเสี่ยงที่จะปรับตัวลงไปทดสอบระดับใกล้ 1,200 จุด ขณะที่การฟื้นตัวอาจอยู่ในช่วงสัปดาห์หน้าเพื่อรอปัจจัยใหม่หนุน มองแนวรับอยู่ที่ 1,210-1,215 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,230-1,235 จุด

สำหรับหุ้นเด่นเลือก ADVANC-INTUCH-SCC-KBANK-KTB KCE-SVI-AAV และ EPG

 

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ คาดว่าจะปรับตัวลงตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างติดลบอยู่แต่ก็ไม่มาก โดยมีประเด็นหลักอยู่ที่จีนที่จะต้องจับตาอย่างใกล้ชิด ภายหลังจากที่จีนได้ยกเลิกการการใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์ โดยมีผลตั้งแต่วันนี้ และมีการออกมาตรการเสริมในการห้ามผู้ถือหุ้นขายหุ้นออกเกิน 1% จากมาตรการเดิมที่มีการห้ามผู้ถือหุ้นใหญ่ขายหุ้นออกเป็นระยะเวลา 6 เดือนและได้ครบกำหนดในวันที่ 8 ม.ค.นี้

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบถ้ายังเป็นขาลงอยู่ก็จะทำให้หุ้นในกลุ่มพลังงานยังปรับตัวลงได้ และการไถ่ถอนหน่วยลงทุนของกองทุน LTF, RMF จะยังเป็นตัวที่ทำให้ Upside ของตลาดมีจำกัด

อย่างไรก็ตามนักลงทุนก็ยังสามารถเลือกเล่นหุ้นได้เป็นรายตัว พร้อมให้แนวรับ 1,200 จุด ส่วนแนวต้าน 1,250 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (8 ม.ค.) ว่าการเข้าสู่สถานะ Risk-Off ของนักลงทุนทั่วโลก จาก 1) เศรษฐกิจจีนชะลอตัว 2) Reverse Carry Trade ค่าเงินหยวน เร่งเงินทุนไหลออก 3) การปรับลดลงของราคาน้ำมัน ยังเป็นปัจจัยกดดัน SET และตลาดหุ้นโลกต่อไป

โดยมองแนวรับหลักทางเทคนิคที่ 1,190-1,200 จุด ทั้งนี้หากพิจารณาการเคลื่อนไหวค่าเงินหยวนตั้งแต่หลัง Fed ใช้ QE จะเห็นว่าหยวนอ่อนค่าเข้าใกล้ระดับก่อน QE ที่ 6.8 หยวน/ดอลลาร์ฯ แล้ว (ปัจจุบันที่ 6.6  หรืออ่อนค่าจากแข็งค่าที่สุด 6.0 ตั้งแต่ ม.ค.ที่ผ่านมา) ซึ่งระยะการอ่อนค่าเหลือไม่มาก ทำให้อาจเริ่มคาดหวังการหยุดของ Reverse Carry Trade ในเร็วๆ นี้

ขณะที่นักลงทุนทั่วโลกที่กลับเข้าสู่สถานะ Risk-off อย่างเต็มตัว ทำให้หุ้นพื้นฐานดีส่วนใหญ่ปรับลดลงต่ำกว่าพื้นฐานมาก อย่าง ADVANC-INTUCH-SCC-KBANK-KTB แต่การเข้าซื้อช่วงนี้ต้องสามารถรับความ “ผันผวน” ระยะสั้นได้ ขณะที่หุ้นที่ “แข็งแกร่ง” กว่าตลาดช่วงนี้ เป็นหุ้นที่ได้ร้บผลดีจากบาทอ่อน และน้ำมันปรับลดลง อย่าง KCE-SVI-AAV-EPG

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (8 ม.ค.) ว่าทิศทางราคาน้ำมันตลาดโลกยังเป็นปัจจัยกดดันทิศทางตลาดไทย เนื่องจากส่งผลกระทบต่อประมาณการณ์กำไรตลาดหุ้นไทยในปีนี้  ระยะสั้นนั้น แนวรับบริเวณ 1,200 +/- จุด น่าจะยังสามารถรับรองความผันผวนได้ ประกอบกับเช้านี้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นและฮ่องกงเริ่มฟื้นตัว รับข่าวการยกเลิกมาตรการเซอร์กิต เบรคของจีน น่าจะส่งผลบวกให้ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ฟื้นตัวได้บ้าง แนะนำเทรดดิ้งระยะสั้น โดยมีแนวรับ 1,200 – 1,220 จุด แนวต้าน 1,240 จุด

 

บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (8 ม.ค.) ว่าสภาพในตอนนี้ของตลาดหุ้นไทย ยังต้องรอดูความชัดเจนในตลาดหุ้นทั่วโลก รวมทั้งจีน หากมีสัญญาณในเชิงบวก ดัชนีจะดีดกลับ แต่หากยังไม่มีถือเป็นปัจจัยที่อันตรายทันทีเพราะอาจจะกลับมาผันผวนทั่วโลกรอบใหม่ที่อาจรุนแรงเท่าเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา การเหวี่ยงลงของดัชนีทั่วโลกรวมทั้ง SET ในรอบนี้เป็นผลโดยตรงจากความกังวลเรื่องความเชื่อมั่นของผู้กุมนโยบายของจีน มากกว่าประเด็นอื่น

โดยปัจจุบันดัชนีหุ้นภูมิภาค(MSCI Asia Ex Japan) ยังไม่สร้างสถิติต่ําสุดนับตั้งแต่เดือน ส.ค. 58 แต่ดัชนีหุ้นไทย (MSCI Thailand) ลงมาสร้างจุดต่ําสุดใหม่แล้ว สะท้อนแรงขายหุ้นใหญ่

วันนี้มองว่าทิศทางดัชนีในตลาดหุ้นเอเชีย คาดยังคงผันผวน แต่คงลดลงหลังจีนออกมาตรการให้ผู้ถือหุ้นใหญ่ขายหุ้นออกมาได้ 1% ส่วนทิศทางดัชนี SET อาจจะปรับตัวลงไปทดสอบระดับใกล้ 1,200 จุด แล้วดีดตัวกลับแต่คงยังไม่มาก จนกว่าจะถึงสัปดาห์หน้าเพื่อรอปัจจัยหนุนใหม่ๆ โดยวันนี้แนวรับอยู่ที่ 1,210-1,215 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,230-1,235 จุด

 

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (8 ม.ค.) คาด SET วันศุกร์แกว่งตัวผันผวนและคาดฟื้นตัวเร็วๆ นี้ แนะทยอยซื้อ (วานนี้นิวโลว์ แย่กว่าคาดมาก) โดย SET ร่วงหนักถึงระดับ 12.0x PE-consensus และ 12.7x PE-KGI คาดความเสี่ยงทางลงต่ำแล้ว ทั้งนี้นักลงทุนควรติดตามค่าเงินหยวน (เช้านี้เปิด 6.5829 หยวน/ดอลล่าร์ฯ) และดัชนีหุ้นจีนเป็นสำคัญ หลัง กลต. จีน ยกเลิกเซอร์กิตเบรกเกอร์หุ้นจีน (เคลื่อนไหวได้ตามกลไกตลาด)

ทั้งนี้คาดดัชนีหุ้นจีนไม่น่าหลุด 3,000 จุด (ล่าสุดปิด 3,125) เนื่องจากค่าเงินหยวนอ่อนใกล้เป้าหมายมากขึ้นแล้ว ผนวกตัวเลขเศรษฐกิจจีน ธ.ค. ที่จะทยอยออกมาน่าจะฟื้นตัว MoM และสถิติที่ว่าหุ้นจีนมักขึ้นก่อนตรุษจีน

ทั้งนี้คงแนะนำทยอยซื้อเก็งกำไร เน้นหุ้นประเด็นเด่นเช่นหุ้นได้ประโยชน์จากน้ำมันที่ลดลงแรง และหุ้นปันผลเด่น