SET แกว่งกรอบแคบ-ไร้ปัจจัยใหม่หนุนชู 19 หุ้นแนวโน้มแกร่งกว่าตลาด-ปันผลเด่น

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้มีจังหวะย่อตัวตามตลาดหุ้นโลกที่ปรับลงถ้วนหน้า เนื่องจากยังไม่เห็นปัจจัยหนุนใหม่ๆ หากจะมีก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหนุนภายในของแต่ละตลาด ขณะที่ราคาน้ำมันก็ยังปรับตัวลงต่อเนื่อง ส่วนปัจจัยในประเทศยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.06 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 36.29 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนขยายตัวต่ำกว่าเป้าหมายของรัฐบาล

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้มีจังหวะย่อตัวตามตลาดหุ้นโลกที่ปรับลงถ้วนหน้า เนื่องจากยังไม่เห็นปัจจัยหนุนใหม่ๆ หากจะมีก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหนุนภายในของแต่ละตลาด ขณะที่ราคาน้ำมันก็ยังปรับตัวลงต่อเนื่อง ส่วนปัจจัยในประเทศยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่

สำหรับหุ้นเด่นเลือก COM7, LIT, VIH, ASEFA, IRPC, INTUCH, KCE, SVI, AAV, EPG, TOP, GUNKUL, SAWAD,  AOT,  CK, STEC, CI, PS และTCAP

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (11 ม.ค.)  ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ ธ.ค.ที่เพิ่มขึ้น 292,000 ตำแหน่ง (คาด 252,000 ตำแหน่ง) แม้เป็นสัญญาณบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ แต่มีผลทำให้ค่าเงินหยวนอ่อนค่าขึ้นต่อเนื่อง และกลับเป็นปัจจัยหนุนการทำ Reverse Carry Trade เงินหยวนต่อไป (ดูแนวต้านที่ 6.8 หยวน/ดอลลาร์ฯ หรือระดับก่อน Fed เริ่มใช้ QE) และคาดว่าจะเป็นปัจจัยกดดัน SET วันนี้ ประเมินกรอบ 1,224-1,252 จุด

ทำอะไรดี:หุ้นพื้นฐานขนาดใหญ่แม้มี Valuation ถูกแต่ด้วยกระแสเงินทุนไหลออกต่อเนื่อง และ Sentiment ตลาดหุ้นโลกที่อ่อน ทำให้ราคาหุ้นยัง “ผันผวน” ต่อไป ขณะที่กลุ่มหุ้นที่มีแนวโน้มแข็งแกร่งกว่าตลาด ได้แก่ 1) กลุ่มสื่อสารปันผลสูง INTUCH, 2) กลุ่มหุ้นที่ได้รับผลดีจากบาทอ่อน KCE SVI 3) กลุ่มหุ้นที่ได้รับผลดีจากน้ำมันลง อย่าง AAV EPG

 

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (11 ม.ค.)  คาดดัชนีวันนี้ย่อบ้างตามตลาดหุ้นโลก บวกกับแรงกดจากหุ้นน้ำมัน แต่ยังคงแนะนำทยอยสะสม คาดตลาดหุ้นจีนเข้าสู่ช่วงท้ายของการลงรอบสั้นแล้ว หลังดัชนี SCI ลงมาใกล้ 3,000 จุด และแรงซื้อตรุษจีนใกล้เข้ามา

ขณะที่ตัวเลขภาคแรงงานสหรัฐโดดเด่น โดยการจ้างงาน ธ.ค.58 เพิ่ม 2.9 แสนคน สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 2.0 แสนคน ทั้งนี้ คาดว่าหุ้นกลุ่มอื่นๆ นอกเหนือจากกลุ่มพลังงานต้นน้ำจะเริ่มยืนได้ (เช่น กลุ่มธนาคาร ซึ่งมองใกล้จบวงจรขาลงของผลประกอบการ และกลุ่มสื่อสารด้วยประเด็นเงินปันผลเด่น) แนะนำทยอยซื้อ มองเป้า SET สิ้นไตรมาส 1/59 ที่ 1,330 จุด อิง PE เฉลี่ยย้อนหลัง 7 ปีที่ 15.4 เท่า และ EPS สิ้นไตรมาส 1 ที่ 86 จุด (EPS ทั้งปี 59 มองที่ 96 จุด)

หุ้นเด่นวันนี้ เก็งกำไร ASEFA-IRPC

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (11 ม.ค.)  กลยุทธ์การลงทุน ประเมินทิศทางตลาดยังคงผันผวนต่อประเด็นทิศทางค่าเงินหยวนอ่อนค่าและทิศทางขาลงของราคาน้ำมันตลาดโลก แนะนำเทรดดิ้งระยะสั้น โดยวางแนวรับที่ 1,240 จุด แนวต้านที่ 1,260 จุด แนะนำเก็งกำไรระยะสั้นในหุ้นที่มีสัญญาณโมเมนตัมบวกทางเทคนิค เช่น COM7 , LIT , VIH

 

บล.ซีไอเอ็มบี ระบุในบทวิเคราะห์ (11 ม.ค.)  กลยุทธ์: การดีดตัวกลับของดัชนีตลาดหุ้นเอเชียรวมทั้งไทยในรอบนี้น่าจะเป็นไปอย่างกล้าๆกลัวๆ เนื่องจากยังไม่เห็นปัจจัยหนุนใหม่ๆ หากจะมีก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหนุนภายในของแต่ละตลาด อย่างผลการดำเนินงานและตัวเลขเศรษฐกิจ

ส่วนปัจจัยที่ถือว่ายังกดดันตลาดคือ ราคาน้ำมันและทิศทางค่าเงินหยวน ภาวะที่เกิดขึ้นจะดีขึ้นหรือเลวร้ายลงไปอีกก็ขึ้นอยู่กับทิศทางดัชนีดาวโจนส์ ราคาน้ำมันและความชัดเจนของรัฐบาลจีนต่อแนวทางการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ อาทิตย์นี้อาจจะเริ่มเห็นเม็ดเงินเข้าซื้อเก็งกำไรงบ Q4/15ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์และหุ้นใหญ่ที่ลงไปลึกอย่างสื่อสารและพลังงาน จุดเด่นของตลาดยังคงเป็นค่า P/BV ของตลาดลงไปต่ำกว่าค่า-1SD เศรษฐกิจภายในเริ่มฟื้นตัวและหุ้นที่โยงท่องเที่ยวฟื้นตัว ทิศทางดัชนีในสัปดาห์นี้หากไม่มีปัจจัยลบแรงๆเกิดขึ้นมาอีกน่าจะดีดตัวขึ้นไปยืนเหนือ 1250 จุด คืออยู่ในกรอบ 1260-1270 จุด ส่วนกรอบล่างมองที่ 1220-1210 จุด

Fundamental Stock :

=> OIL&GAS : SECTOR NOTE – มุมมองใหม่หลังราคาน้ำมันดิ่งลงอีก (คำแนะนำ : Neutral)

=> TOP : COMPANY NOTE – อยู่ที่จุดสูงสุด (คำแนะนำ : ซื้อ ราคาเป้าหมาย 70 บาท)

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์(11 ม.ค.) แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : คาด SET Index จะยังผันผวนตามตลาดหุ้นภูมิภาค โดยเฉพาะตลาดหุ้นจีนซึ่งวันนี้เป็นวันแรกที่นักลงทุนรายใหญ่จะสามารถขายหุ้นได้อีกครั้งหลังจากที่มาตรการห้ามขายหุ้นสิ้นสุดโครงการเมื่อวันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา ส่วนปัจจัยในประเทศยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ ประกอบกับแรงซื้อที่หนุนดัชนีเมื่อวันศุกร์เป็นของพอร์ตโบรกเกอร์ซึ่งปกตินักลงทุนกลุ่มนี้จะไม่ถือลงทุนเป็นเวลานาน จึงมีความเสี่ยงที่นักลงทุนกลุ่มนี้จะขายทำกำไรและกดดันดัชนีให้กลับมาลดลง

กลยุทธ์วันนี้ : Seclective BUY

หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : GUNKUL (เป้าหมาย 28บาท) รับอานิสงส์โครงการโซลาร์ฟาร์มหน่วยงานราชการเดินหน้าต่อมอง GUNKUL ได้ประโยชน์มากที่สุด

หุ้นที่มีแนวโน้มกำไรเติบโตดีในปีหน้า: SAWAD GUNKUL AOT EPG CK STEC และ CI

KSS report วันนี้: PS (ถือ /เป้า 30 บาท) TCAP (ซื้อ/ ปรับเป้าขึ้นเป็น 42 บาทจากเดิม 38 บาท)

 

Back to top button