โบรกชี้ 8 หุ้นเด่น! ช่วงตลาดอ่อนแอSET บ่ายอยู่แดนลบ ไร้ปัจจัยใหม่
SET เช้านี้แกว่งตัวลงสอดคล้องกับตลาดหุ้นทั่วโลก โดยเฉพาะตลาดภูมิภาคกังวลเศรษฐกิจจีน และราคาน้ำมันยังปรับลง รวมถึงตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯออกมาแข็งแกร่งทำให้วิตกเฟดปลายเดือนนี้อาจส่งสัญญาณเพิ่มความเข้มงวด บ่ายนี้ดัชนีฯคงแกว่งในแดนลบเหมือนช่วงเช้า พร้อมให้แนวรับ 1,220 จุด แนวต้าน 1,240 จุด
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ช่วงเช้า ( 11 ม.ค.) ปรับลงตามตลาดหุ้นต่างประเทศ เนื่องจากมีปัจจัยหลักจากความกังวลเศรษฐกิจจีน ภายหลังจากตัวเลขเศรษฐกิจออกมาย่ำแย่ ทำให้ตลาดหุ้นจีนผันผวนหนัก และราคาน้ำมันดิบก็ยังปรับตัวลงต่อเนื่องด้วย
นักวิเคราะห์คาดช่วงบ่าย ดัชนีฯคงแกว่งอยู่ในแดนลบเหมือนช่วงเช้า พร้อมให้แนวรับ 1,220 จุด ส่วนแนวต้าน 1,240 จุด ขณะที่ แนะนำ “Selective” ในช่วงที่ SET ถูกดดันจากปัจจัยภายนอกต่อไป โดยกลุ่มหุ้นที่ยังมีแนวโน้มแข็งแกร่ง (Outperform) ตลาดได้แก่: KCE-SVI-AAV-EPG-TOP-IRPC-INTUCH และ ADVANC
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรินิตี้ เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวลงสอดคล้องกับตลาดหุ้นทั่วโลก โดยตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ต่างอยู่ในแดนลบ ปัจจัยหลักจากความกังวลเศรษฐกิจจีน ภายหลังจากตัวเลขเศรษฐกิจออกมาย่ำแย่ ทำให้ตลาดหุ้นจีนผันผวนหนัก และราคาน้ำมันดิบก็ยังปรับตัวลงต่อเนื่องด้วย
นอกจากนี้ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯออกมาแข็งแกร่งเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ทำให้นักลงทุนบางกลุ่มมองกันว่าการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ในช่วงปลายเดือนนี้อาจจะมีการส่งสัญญาณการเดินนโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น
แนวโน้มการลงทุนบ่ายนี้ คาดดัชนีฯคงแกว่งอยู่ในแดนลบเหมือนช่วงเช้า พร้อมให้แนวรับ 1,220 จุด ส่วนแนวต้าน 1,240 จุด
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ ( 11 ม.ค.) ว่า การอ่อนค่าลงของค่าเงินหยวนอย่างต่อเนื่อง, ความกังวลต่อเศรษฐกิจจีน, การทำ Reverse Carry Trade ค่าเงินหยวน, การปรับลดลงของราคาน้ำมัน เป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นโลก รวมไปถึง SET ต่อไป ประเมินกรอบเคลื่อนไหวที่ 1,224-1,252 จุด
ขณะที่ แนะนำ “Selective” ในช่วงที่ SET ถูกดดันจากปัจจัยภายนอกต่อไป โดยกลุ่มหุ้นที่ยังมีแนวโน้มแข็งแกร่ง (Outperform) ตลาดได้แก่:
1. กลุ่มหุ้นที่ได้รับผลดีจากเงินบาทอ่อน: โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ อย่าง KCE (แนวต้าน 72 บาท) และ SVI (แนวต้าน 5.65/6.00 บาท)
2. กลุ่มหุ้นที่ได้รับผลดีจากการปรับลดลงของราคาน้ำมัน: AAV (แนวต้าน 5.85/6.15) และ EPG รวมไปถึงหุ้นกลุ่มโรงกลั่น อย่าง TOP และ IRPC
3. กลุ่มหุ้นปันผลสูง..อย่าง INTUCH-ADVANC คาดว่าจะมีแรงซื้อคืน ในช่วงก่อนประกาศเงินปันผลเดือน ก.พ.-มี.ค.นี้
สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,974.07 ล้านบาท ปิดที่ 140.00 บาท ลดลง 4.00 บาท
BEM มูลค่าการซื้อขาย 1,414.61 ล้านบาท ปิดที่ 5.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 827.05 ล้านบาท ปิดที่ 209.00 บาท ลดลง 6.00 บาท
JAS มูลค่าการซื้อขาย 781.00 ล้านบาท ปิดที่ 2.92 บาท ลดลง 0.08 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 574.96 ล้านบาท ปิดที่ 333.00 บาท ลดลง 8.00 บาท
ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์