กูรูแนะเก็งกำไร 8 หุ้นช่วงตลาดอ่อนแอSET บ่ายแกว่งแคบ รอปัจจัยใหม่หนุน

SET เช้านี้รีบาวน์ตามตลาดภูมิภาคจากแรงซื้อหุ้นในกลุ่มแบงก์ แต่ดัชนีฯยังมีแรงกดดันจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน และ ICT อยู่ โดยแนะนักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุน หันเข้ากลุ่มที่ได้รับประโยชน์มาตรการภาครัฐ อย่าง ท่องเที่ยวที่ยังมีทิศทางเป็นบวก บ่ายนี้ดัชนีฯคงแกว่งในกรอบแคบ พร้อมให้แนวรับ 1,230 แนวต้าน 1,250 จุด


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ช่วงเช้า ( 12 ม.ค.) รีบาวด์ได้จากแรงหนุนในหุ้นกลุ่มแบงก์ แต่เจอแรงกดดันในหุ้นกลุ่มสื่อสาร และพลังงานหลังราคาน้ำมันโลกยังปรับตัวลงต่อ ส่งผลให้ดัชนีฯปิดลบในช่วงเช้าที่ผ่านมา ขณะที่ ตลาดหุ้นภูมิภาคเคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวกและลบ

นักวิเคราะห์คาดช่วงบ่าย ดัชนีฯจะแกว่งตัวในกรอบแคบ โดยให้แนวรับ 1,230 จุด ส่วนแนวต้าน 1,250 จุด ขณะที่ แนะนำเก็งกำไรในหุ้นที่แข็งกว่าตลาดและมีปัจจัยสนับสนุน เช่น TISCO-AAV-EPG-NOK-CHG-CPF-KCE และ SVI

 

นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสกฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้านี้รีบาวน์ตามการฟื้นตัวของตลาดภูมิภาค หลังหุ้นปรับฐานลงมาค่อนข้างแรง ขณะที่ มีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มแบงก์ แต่ดัชนีฯได้ปรับตัวลงมาในช่วงใกล้ปิดตลาด จากแรงกดดันหุ้นในกลุ่มพลังงานจากราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำ กระทบต่อความสามารถการทำกำไร และกำไรของกลุ่มพลังงาน

รวมถึงกลุ่ม ICT ที่มีความเสี่ยงจากกรณีเลขหมายผู้ใช้บริการ 2G ของเอไอเอสเดิมที่ไม่ได้อัพเกรดเป็น 3G อาจจะไม่สามารถใช้งานได้อีกประมาณ 10 ล้านเลขหมาย หากไม่ได้รับการอนุญาตให้ขยายเวลาจากทางคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม(กทค.)ที่จะมีการประชุมในวันนี้ ซึ่งส่งผลต่อรายได้ของ ADVANC หายไปค่อนข้างมาก ประกอบกับ การแข่งขันเรื่องราคาที่จะรุนแรงขึ้น

ทั้งนี้ ควรหลีกเลี่ยงการลงทุนในหุ้นทั้ง 2 กลุ่มดังกล่าวไปก่อน โดยแนะนักลงทุนดูหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากภาครัฐ อย่าง ท่องเที่ยว ที่ยังมีทิศทางเป็นบวก   

ส่วนแนวโน้มการลงทุนบ่ายนี้ คาดดัชนีฯจะแกว่งตัวในกรอบแคบ โดยให้แนวรับ 1,230 จุด ส่วนแนวต้าน 1,250 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ ( 12 ม.ค.) SET ฟื้นตัวช่วงเปิดตลาด นำโดยหุ้นกลุ่มธนาคาร แต่แรงขายในหุ้นกลุ่มพลังงานจากน้ำมันปรับตัวลง และแรงขายทำกำไรในหุ้นสื่อสารกดดันให้ SET ปิดลดลงเล็กน้อย 0.55 จุด

ขณะที่ แนะนำซื้อเก็งกำไร ช่วงที่รอตลาดฟื้นตัว ในหุ้นกลุ่มที่คาดว่าแข็งกว่าตลาด และหุ้นที่มีธีม เช่น

1.หุ้นจ่ายปันผลสูง และคงมี momentum ดีอยู่ เช่น TISCO

2.หุ้นที่ได้ผลดีจากน้ำมันลง อย่าง AAV-EPG และ NOK

3.หุ้น Turnaround และ หุ้นที่คาดงบออกมาดี เช่น CHG-CPF-KCE และ SVI (ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทอ่อน)

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,447.15 ล้านบาท ปิดที่ 142.50 บาท ลดลง 2.00 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,131.21 ล้านบาท ปิดที่ 206.00 บาท ลดลง 5.00 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,033.27 ล้านบาท ปิดที่ 151.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท

JAS มูลค่าการซื้อขาย 979.22 ล้านบาท ปิดที่ 2.98 บาท ลดลง 0.06 บาท

BEM มูลค่าการซื้อขาย 790.85 ล้านบาท ปิดที่ 5.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท

 

ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์

Back to top button