SET เสี่ยงพักฐาน ตลาดวิตกศก.โลกชะลอตัวเลือกเก็บ 15 หุ้นมี Story หนุนช่วงดัชนีย่อตัว

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยมีแนวโน้มพักฐานลงตามทิศทางตลาดต่างประเทศส่วนใหญ่หลังปรับตัวขึ้นแรง 2 วันต่อเนื่อง และจากความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยยังให้ผลตอบแทนเป็นบวก จึงแนะนำทยอยสะสมจังหวะย่อตัว ในกลุ่มที่มีประเด็นบวกเฉพาะตัว และมีโอกาส Outperform ตลาด


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.17 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 36.28 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงอย่างหนัก โดยได้รับปัจจัยถ่วงจากการร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์ก เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยมีแนวโน้มพักฐานลงตามทิศทางตลาดต่างประเทศส่วนใหญ่หลังปรับตัวขึ้นแรง 2 วันต่อเนื่อง และจากความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยยังให้ผลตอบแทนเป็นบวก จึงแนะนำทยอยสะสมจังหวะย่อตัว ในกลุ่มที่มีประเด็นบวกเฉพาะตัว และมีโอกาส Outperform ตลาด

หุ้นเด่นเลือก KTB-TISCO-KCE-SVI-AAV-NOK-EPG-ASEFA-BIG-KKP-SVI-ORI-SYNTEC-CK และ CENTEL

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (14 ม.ค.) ว่า แม้ตลาดอาจผันผวนสั้นหลังปรับสูงขึ้นแรง 2 วันติดต่อกัน และการปรับลดลงของตลาดหุ้น Dow Jones -2.2% เมื่อคืนนี้จากความกังวลต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามมองเป็นจังหวะ “ซื้อ” ที่แนวรับ 1,265/1,252 จุด เนื่องด้วย 1) เงินหยวนทรงตัวที่ 6.56 หยวน/ดอลลาร์ฯ 2) Fed อาจไม่ขึ้นดอกบี้ยเร็ว หลังเศรษฐกิจโลกชะลอตัว และ 3) เมื่อพิจารณาจากสถิติในอดีตจะเห็นว่า SET มีโอกาสให้ผลตอบแทนเป็นบวกสูงถึง 8 ปีในช่วง 10 ปีก่อนหน้านี้ สำหรับการลงทุนระหว่างเดือน ก.พ.-เม.ย.

แนะนำ “ซื้อ” ที่แนวรับ 1,265/1,252 จุด ในจังหวะย่อตัวตามตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยยังมองกลุ่มหุ้นหลักที่คาดว่าจะ Outperform ตลาดดังนี้

1) กลุ่มธนาคาร Valuation ต่ำ ปันผลสูง 5% KTB TISCO

2) กลุ่มหุ้นที่ได้รับผลดีจากบาทอ่อน KCE SVI

3) กลุ่มหุ้นที่ได้ผลดีจากน้ำมันลง อย่าง AAV NOK (Laggard Play) EPG

 

บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (14 ม.ค.) ว่า แรงกดจากปัจจัยในต่างประเทศช่วงปลายปี 2015 และต้นปี 2016 ยังคงเป็น ความกังวลเรื่องค่าเงินหยวนและทิศทางราคาน้ำมัน ซึ่งคาดกันว่ากว่าจะคลายตัวยังต้องใช้เวลา หากกลับมาพิจารณาดูกลุ่มอุตสาหกรรมของไทยที่มีแรงกดมากที่สุด คงหนีไม่พ้น กลุ่มพลังงาน ธนาคารพาณิชย์และสื่อสาร

โดย กลุ่มสื่อสารและธนาคารพาณิชย์ของไทยปรับตัวแรงสุดในเอเชียไม่รวมญี่ปุ่น คือ ลงไปถึง 45% และ 31% นับตั้งแต่ต้นปี 2015 กลุ่มธนาคารช่วงนี้เรามองว่าน่าจะกลับมาคึกคัก จากแรงเก็งงบไตรมาส 4/15 ในหุ้นธนาคารเล็ก อย่าง TMB BAY TISCO TCAP และ KTB

ส่วนพลังงานจะเป็นหุ้นที่มีสายปิโตรเคมี อย่าง PTTGC TOP IRPC และสุดท้าย สื่อสาร คือ ADVANC INTUCH ทิศทางดัชนี SET ในวันนี้อาจจะเริ่มมีแรงขายออกมาบ้างหากไม่ผ่าน 1,280+/- จุด แต่ยังไม่น่ากังวล หลังราคาน้ำมันไม่หลุด 30 ค่าเงินหยวนยังนิ่งและเริ่มมีแรงซื้อของต่างชาติในตลาด Futue วันนี้เราให้แนวรับที่ 1,260-1,270, แนวต้านที่ 1,282-1,287 จุด

Themes play: CENTEL แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 46.50 บาท

 

ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (14 ม.ค.) ว่า หลังจากปรับขึ้นแรง 2 วันติดต่อกัน ตลาดไทยมีแนวโน้มพักฐานลงในวันนี้ตามทิศทางตลาดส่วนใหญ่ในภูมิภาค หลังจากที่ดัชนีดาวโจนส์ย่อลงกว่า 300 จุด โดยปัจจัยลบได้แก่ ความกังวลเรื่องเศรษฐกิจจีนและราคาน้ำมันที่อ่อนแอลงสู่จุดต่ำสุดในรอบ 12 ปีจึงมีโอกาสกดดันกลุ่มพลังงานและ SET Index โดยรวมอีกรอบในวันนี้

กลยุทธ์: เก็บสะสมหุ้นกลุ่มรับเหมา อสังหาริมทรัพย์ วัสดุก่อสร้าง และอิเล็กทรอนิคส์ ที่ราคาลงมาเยอะแล้วและมีพื้นฐานดี มี Story หนุนเป็นรายตัว

แนวรับ/แนวต้าน: 1,250/1,300 สัดส่วนการลงทุน: เงินสด 40%: พอร์ตหุ้น 60%

นักลงทุนระยะสั้น: SVI (6.20), ORI (15)

นักลงทุนระยะยาว: SYNTEC (3.80), CK (34)

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (14 ม.ค.) ว่า SET วันนี้รับผลกระทบจากการปรับตัวลงของตลาดหุ้นสหรัฐ และระดับราคาน้ำมัน WTI ที่ยังทรงตัวระดับ 30 USD./บาร์เรล ให้วางจุด Filter แนวรับสำคัญที่ 1,260 +/- หากยืนได้ประเมินทิศทางดัชนียังคงอยู่ในภาวะฟื้นตัว แนวต้าน 1,290-1,300 จุด แนะเก็งกำไรหุ้นมีโมเมนตัมบวกทางเทคนิค ASEFA BIG KKP

Back to top button