SET รีบาวด์รับ Sentiment บวกตปท.คัด 26 หุ้นเด็ด เน้นกลุ่มมีประเด็นร้อน!

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยมี Sentiment เชิงบวกจากการดีดกลับของดัชนีดาวโจนส์กว่า 1.41% และการปรับเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน 2.4% น่าจะเป็นตัวที่ทำให้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเคลื่อนไหวได้อย่างสดใสแต่คาดว่าดัชนียังไม่น่าจะขึ้นเกิน 1,280 จุด โดยต้องระวังแรงขายทำกำไรในช่วงปลายสัปดาห์


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.13 น.ค่าเงินบาทอยู่ที่ 36.27 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นเช้านี้ ตามทิศทางของตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดพุ่งขึ้นกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ เนื่องจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยมี Sentiment เชิงบวกจากการดีดกลับของดัชนีดาวโจนส์กว่า 1.41% และการปรับเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน 2.4% น่าจะเป็นตัวที่ทำให้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเคลื่อนไหวได้อย่างสดใสแต่คาดว่าดัชนียังไม่น่าจะขึ้นเกิน 1,280 จุด โดยต้องระวังแรงขายทำกำไรในช่วงปลายสัปดาห์

หุ้นเด่นเลือก ASEFA-PS-IRPC-VNG-SMPC- PTT-PTTEP- SPALI-MCS-SVI-KCE-BA-AAV-IRPC-TPCH-GL-THANI-KAMART-KTB-KBANK-QH-SIRI-BH-CHG-KCE และEPG

 

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (15 ม.ค.) ว่า SET วันศุกร์รีบาวด์แต่ไม่แรง แนะซื้อเก็งกำไร (วานนี้ลงตามคาด หุ้นน้ำมันถูกดาวน์เกรด) ปัจจัยบวกคือความหวังว่าสหรัฐ จะขึ้นดอกเบี้ยช้ากว่าเดิม เพราะราคาน้ำมันร่วงกดเงินเฟ้อหนัก (ปัจจุบัน KGI และ consensus) มองเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75-1.00% ในปี 2559)

ส่วนฝั่งยุโรปรายงาน ECB meeting minutes เดือนธ.ค.58 ชี้ว่ากรรมการ ECB เสี่ยงแตกต่อนโยบาย QE (มองยุโรปจะไม่ขยาย QE แล้ว แต่จะมีมาตรการเพิ่มปริมาณเงินภาคธนาคารแทน) ด้านตลาดน้ำมันมีเสถียรภาพมากขึ้นเมื่อคืนแต่ยังต้องตามใกล้ชิดเพราะต้นสัปดาห์หน้าอิหร่านอาจส่งออกน้ำมันได้แล้ว คาดหุ้นขนาดกลางและเล็กยังเด่นกว่าเช่นเดิม โดยเฉพาะ themes เด่น เช่นหุ้นได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันแกว่งลง และหุ้นที่แนวโน้มกำไรไตรมาส 4/58 โดดเด่น

หุ้นเด่นวันนี้ตามปัจจัยพื้นฐาน เก็งกำไร ASEFA,PS

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (15 ม.ค.) คาดทิศทางการลงทุนเช้านี้ฟี้นตัวจากทิศทางราคาน้ำมัน WTI วานนี้ +2.4 % ประเด็นในประเทศนายก จะเดินไปที่ ตลท. บรรยายทิศทางบทบาทตลาดทุนไทย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน

กลยุทธ์การลงทุน ยังคงวาง Filter สำคัญไว้ที่แนวรับ 1,260 จุด หากยืนได้ทิศทางตลาดยังคงอยู่ในภาวะฟื้นไปที่ระดับ 1,290 – 1,300 จุด  วันนี้แนะนำซื้อ IRPC ([email protected] ) ได้รับแรงหนุนจากทิศทางค่าการกลั่นอยู่ในระดับสูง  และเก็งกำไรระยะสั้น  VNG , SMPC ( มีสัญญาณโมเมมตัมบวกทางเทคนิค )

 

บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (15 ม.ค.) สำหรับทิศทางดัชนี SET วันนี้คาดดัชนีจะปรับตัวขึ้นตามดัชนีในภูมิภาคและแรงหนุนของหุ้นน้ำมัน หลังปรับฐานช่วงสั้นเมื่อวานนี้ โดยหุ้นกลุ่มพลังงานของไทย 5 บริษัทยังไม่สร้าง New low ขณะที่ราคาน้ำมันมี New low กลยุทธ์คือ ยังสามารถเล่นเก็งกำไรช่วงสั้นๆ หุ้น PTT และ PTTEP ได้โดยมีแนว ต้านที่ 1,275-1,280 จุด ส่วนแนวรับที่ 1,260-1,255 จุด

 

บล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ (15 ม.ค.) แนวโน้มการเคลื่อนไหวของ SET Index ยังมีฐานแนวทดสอบสำคัญที่ 1,260 จุด มี Sentiment เชิงบวกจากการดีดกลับของดัชนีดาวโจนส์กว่า 1.41% และการปรับเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน 2.4% น่าจะเป็นตัวที่ทำให้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเคลื่นไหวได้อย่างสดใสในเช้าวันนี้หนุน SET Index เปิดโดด แต่คาดว่าดัชนียังไม่น่าจะขึ้นเกิน 1,280 จุด โดยต้องระวังแรงขายทำกำไรในช่วงปลายสัปดาห์ ซึ่งอาจทำให้ SET Index ต้องย้อนลงมาปิดตัวใกล้ 1,270 จุด

กลยุทธ์มองกระแสเงินในตลาดกำลังเน้นไปที่การเก็งกำไรผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน กลยุทธ์เลือกหุ้นเก็งงบไตรมาส 4/58 อย่าง TPCH GL THANI KAMART

อีกทั้งหุ้นได้ประโยชน์จากน้ำมันขาลง BA AAV IRPC นอกนั้นยังเป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า SVI KCE หุ้น High Dividend Yield เลือก SPALI MCS

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (15 ม.ค.) ว่าการพักฐานเมื่อวานนี้ของ SET หลังจากปรับขึ้นแรงก่อนหน้า พร้อมกับการปรับลดลงของตลาดหุ้นโลก ยังไม่ทำให้แนวโน้มการ Rebound เสียหาย เว้นแต่ว่า SET จะปิดตลาดต่ำกว่า 1,252 จุด ทั้งนี้จากรายงาน Pathumwan Corner วันนี้ ทั้งนี้พบว่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา SET ให้ผลตอบแทนเป็นบวกถึง 9 ปี ระหว่างเดือน ก.พ.-เม.ย. โดยกลุ่มหุ้นที่มักให้ผลตอบแทนสูงกว่า SET ได้แก่กลุ่มธนาคาร อสังหาฯ และโรงพยาบาล

แนะนำ “ซื้อ” ที่แนวรับ 1,252 จุด ในจังหวะย่อตัว โดยยังเน้นกลุ่มหุ้นที่มี Seasonal ในการปรับขึ้นช่วง ก.พ.-เม.ย.ตามรายงาน Pathumwan Corner อย่าง กลุ่มธนาคาร อสังหาฯ และโรงพยาบาล KTB KBANK QH SIRI และ BH CHG รวมถึง

1) กลุ่มหุ้นที่ได้รับผลดีจากบาทอ่อน KCE SVI

2) กลุ่มหุ้นที่ได้ผลดีจากน้ำมันลง อย่าง AAV EPG

Back to top button