SET ผันผวน-ปัจจัยนอกปท.ไม่เอื้อหลบภัยเก็บ 17 หุ้นปันผลดี-เทคนิคสวย

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ผันผวนอิงทางลง เนื่องจากสถานการณ์นอกประเทศยังไม่เอื้อ ไม่ว่าจะเป็นการวิตกกรณีอิหร่านเล็งส่งออกน้ำมันดิบเพิ่มซึ่งอาจส่งผลให้ราคาน้ำมันโลกปรับตัวลงไปอีกและจะเป็นตัวกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะที่ตลาดหุ้นภูมิภาคโดยเฉพาะตลาดหุ้นจีนที่เปิดตลาดมาดิ่งแรงกว่า 1% เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวเศรษฐกิจจีน ภายหลังมีรายงานยอดปล่อยกู้สกุลเงินหยวนของจีนชะลอตัวลง


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.09 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 36.28 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากราคาน้ำมันดิบร่วงลงไปต่ำกว่าระดับ 30 ดอลลาร์/บาร์เรล นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐและจีน

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ผันผวนอิงทางลง เนื่องจากสถานการณ์นอกประเทศยังไม่เอื้อ ไม่ว่าจะเป็นการวิตกกรณีอิหร่านเล็งส่งออกน้ำมันดิบเพิ่มซึ่งอาจส่งผลให้ราคาน้ำมันโลกปรับตัวลงไปอีกและจะเป็นตัวกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะที่ตลาดหุ้นภูมิภาคโดยเฉพาะตลาดหุ้นจีนที่เปิดตลาดมาดิ่งแรงกว่า 1% เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวเศรษฐกิจจีน ภายหลังมีรายงานยอดปล่อยกู้สกุลเงินหยวนของจีนชะลอตัวลง

สำหรับหุ้นเด่นเลือก KCE, SVI, AAV, EPG, INTUCH, ADVANC, SIRI, DIF, IRPC,KTB, ASEFA,PS, ASK, KIAT, QTC, SCI, KSL และ LPH

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (18 ม.ค.)  SET แกว่งตัวลงมาที่แนวรับ ซึ่งต้องรอดูบริเวณ 1,240-45 จุด และ/หรือ 1,232 จุด โดยสถานการณ์จะเริ่มดูดีขึ้นถ้า SET ทะลุด่าน 1,273 และ 1,278-80 จุดขึ้นมายืนได้และวันนี้ประเมินแนวรับ 1,224 จุด

ขณะที่มีปัจจัยต้องติดตาม และอาจทำให้เกิดการ Rebound ได้ในช่วงกลางสัปดาห์ ได้แก่ 1) ค่าเงินหยวนยังมีเสถียรภาพต่อจากสัปดาห์ก่อน 2) ตัวเลข GDP 4Q15 จีน วันที่ 19 ม.ค. ถ้าออกมาดีกว่าคาดการณ์ที่ 6.8% และ 3) ตัวเลขกำไร 4Q15 ธนาคารขนาดใหญ่สัปดาห์นี้

แนะนำ “Selective” ต่อไป โดยเน้น:-

          1) กลุ่มหุ้นที่ได้รับผลดีจากบาทอ่อน KCE (แนวต้าน 80) SVI

          2) กลุ่มหุ้นที่ได้ผลดีจากน้ำมันลง อย่าง AAV EPG

          3) กลุ่มหุ้นปันผลสูง INTUCH ADVANC SIRI DIF  IRPC และ KTB (จ่ายปันผลปีละครั้ง)

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (18 ม.ค.)  ตลาดหุ้นไทยศุกร์ที่ผ่านมาปิด -1.38 % สถาบัน ต่างชาติ พอร์ตโบรกเกอร์ เป็นผู้ขายสุทธิหลัก และต่างชาติกลับมามีสถานะ Short ใน Index Futures  2.3 พันสัญญา หุ้นกลุ่มธนาคาร , พลังงานปรับตัวลดลง โดยได้รับแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจจีนชะลอตัว ซึ่งอาจจะส่งผลให้ภาคการส่งออกไทยปีนี้ชะลอต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 สัปดาห์นี้วันศุกร์ติดตามรายงานการส่งออกไทย ธ.ค. คาด -6.73 % (YoY)

กลยุทธ์การลงทุน เช้านี้คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยจะได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันตลาดโลกปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 29 USD./บาร์เรล ภาพรวมดัชนีต่ำกว่าระดับ Filter แนวรับ 1,260 จุด ส่งผลให้สัปดาห์นี้ดัชนี SET กลับมามีความผันผวนทิศลงเพิ่มมากขึ้น ประเมินดัชนีมีแนวรับที่ระดับ 1,200 – 1,220 จุด โดยให้น้ำหนักเพียงซื้อเก็งกำไรระยะสั้นบริเวณแนวรับดังกล่าว เพื่อรอประเมินภาพรวมความเสี่ยงตลาดอีกครั้ง แนะนำเก็งกำไรระยะสั้น KIAT , QTC , SCI ( มีสัญญาณโมเมนตัมบวกทางเทคนิค )

 

บล.ซีไอเอ็มบี ระบุในบทวิเคราะห์ (18 ม.ค.)  ประเด็นภายในที่มีผลต่อดัชนี SET คืองบกลุ่มสถาบันการเงินที่จะทยอยประกาศ ซึ่งเมื่อดูจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มนี้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นปัจจัยในเชิงบวกโดยเฉพาะหุ้นธนาคารขนาดเล็ก และ นาโนไฟแนนส์ ส่วนหุ้นธนาคารใหญ่ลงไปลึกๆปรากฏว่าก็เริ่มมีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นในช่วงปลายอาทิตย์นี้ดัชนี SET จะกลับมาคึกคักขึ้นจากแรงซื้อและขายหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ เปิดขึ้นมาในปี 2016ปรากฏว่าดัชนีตลาดหุ้นในเอเชียไม่รวมญี่ปุ่น ต่างดิ่งลงถ้วนหน้า โดยเฉพาะตลาดหุ้นจีนที่ปรับตัวลงไปแล้วเกือบ 20% ส่วนตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงไปประมาณ 3% กว่าทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยและเอเชียวันนี้ คาดจะยังอยู่ในภาวะผันผวนหลังดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งลงแรง โดยวันนี้ตลาดหุ้นสหรัฐจะหยุดทำการ ส่งผลให้ตลาดจับตามองการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของจีนในเช้านี้ หากออกมาในเชิงบวกก็น่าจะมีผลต่อการปรับตัวลงของตลาดหุ้นไทยและภูมิภาคไม่มาก เรามองว่าเปิดขึ้นมาดัชนี SET จะปรับตัวลงตามดัชนีในภูมิภาคจากแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยมองจุดต่ำสุดยังอยู่ที่กรอบเดิมคือ 1220-1210 จุด วันนี้มองแนวรับที่ 1230-1225 จุด แนวต้านที่ 1245-1250จุด

Fundamental Stock :

=> TELCO : SECTOR NOTE (คำแนะนำ : Neutral Top pick : ADVANC)

=> KSL : COMPANY NOTE (คำแนะนำ : ซื้อ ราคาเป้าหมาย 4.36 บาท)

 

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย)  ระบุในบทวิเคราะห์ (18 ม.ค.) คาดดัชนีวันนี้แกว่งลงตามหุ้นน้ำมัน แต่กลุ่มอื่นน่าจะยืนได้ ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์น้ำมัน WTi ร่วง 4.9% และเช้านี้ลงอีก 3% สู่จุดต่ำสุดใหม่รอบ 12 ปี หลังอิหร่านพ้นจากการถูกคว่ำบาตรอย่างเป็นทางการส่งผลให้ตลาดเพิ่มความกังวลต่อปริมาณน้ำมันส่วนเพิ่มจากอิหร่านอีก 5 แสนบาร์เรลต่อวัน นอกจากนี้ตลาดยังรอดูตัวเลข GDP จีนไตรมาส 4/58 ในวันพรุ่งนี้ แนะนำหาจังหวะเก็งกำไรหุ้น Theme เด่นๆ ที่ราคาอาจลงมาตามตลาดรวม เน้นหุ้นที่แนวโน้มกำไรไตรมาส 4/58 แข็งแกร่ง

หุ้นเด่นวันนี้ เก็งกำไร ASEFA/กลัวเสี่ยงเน้นตั้งรับหุ้นปันผลสูง PS/KTB/ASK

 

บล.เคทีบี (ประเทศไทย)  ระบุในบทวิเคราะห์ (18 ม.ค.) ทิศทางตลาดหุ้นไทย ราคาน้ามันแหล่งสำคัญๆปรับตัวลงมาต่ำกว่าระดับ $30 เหรียญ หลังวิตกต่อภาวะเศรษฐกิจจีน การขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐฯ อุปทานส่วนเกินของน้ามัน และการยกเลิกมาตรการ sanction อิหร่าน เป็นปัจจัยที่กดดันต่อตลาดในวันแรกของสัปดาห์ นักวิเคราะห์ในตลาดเอเซียมองตลาดหุ้นหลักๆ อย่างจีนและญี่ปุ่นว่าราคาหุ้นไม่ได้ถูกนัก จะทาให้การร่วงลงของตลาดหุ้นเหล่านี้มีผลมาถึงไทยด้วย จึงมีแนวโน้มที่ดัชนีจะปรับตัวลดลง เมื่อเทียบกับวันก่อน

กลยุทธ์การลงทุน ภาพรวมของตลาดที่เป็นลบจากราคาน้ามันและตลาดหุ้นต่างประเทศ ขณะที่ปัจจัยในประเทศจะเป็นความกังวลต่อผลประกอบการ Q1/59 ของหุ้นที่อิงรายได้จากราคาน้ามัน (ยกเว้นกลุ่มโรงกลั่นน้ามัน) เราจึงแนะนาให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูทิศทางตลาดก่อน หุ้นที่คาดว่า นักลงทุนจะให้ความสนใจ ในวันนี้ อาทิ AAV , LPH

Back to top button