โบรกเชียร์ 5 หุ้นเด็ด ปันผลเด่น!SET บ่ายลุ้นยืนเหนือ 1,260 จุด

SET เช้านี้รีบาวน์ตลาดภูมิภาค เช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส และราคาน้ำมันฟิวเจอร์สที่ปรับตัวขึ้น หลังตัวเลข GDP ของจีนงวดไตรมาส 4/58 ออกมาโต ช่วงบ่ายนี้ดัชนีฯคงยืนในแดนบวกได้ หลังยังไร้ข่าวลบ พร้อมให้แนวต้าน 1,260-1,270 แนวรับ 1,220 และมีจุดฟิวเตอร์ที่ 1,250 จุด


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ช่วงเช้า ( 19 ม.ค.) ปรับตัวขึ้นได้ตามตลาดภูมิภาค ยกเว้นตลาดฟิลิปปินส์ และตลาดอินโดนีเซียที่ติดลบเล็กน้อย ขณะที่ ตลาดหุ้นไทยได้รับแรงหนุนจากหุ้นพลังงาน สื่อสาร และแบงก์

นักวิเคราะห์คาดช่วงบ่าย ดัชนีหุ้นไทยจะสามารถยืนในแดนบวกต่อได้ เนื่องจากตลาดฯยังไม่มีข่าวลบ พร้อมให้แนวต้าน 1,260-1,270 จุด ส่วนแนวรับ 1,220 จุด และมีจุดฟิวเตอร์ที่ 1,250 จุด ขณะที่ แนะนำ KKP-TMB-KTB-ADVANC และ INTUCH

 

น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้รีบาวน์ขึ้น คล้ายๆ กับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวก ยกเว้นตลาดฟิลิปปินส์ และตลาดอินโดนีเซียที่ติดลบเล็กน้อย ภายหลังจากที่ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนงวดไตรมาส 4 ปี 2558 ออกมาโต 6.8% ดีกว่าที่ทาง “ดีบีเอส แบงก์” คาดการณ์ไว้ และทั้งปี 2558 GDP ของจีนก็เติบโต 6.9%

ส่วนแนวโน้มปีนี้ คาดว่าเศรษฐกิจจีนคงจะเติบโตในลักษณะชะลอตัวลง ซึ่งทาง “ดีบีเอส แบงก์” คาดว่าปี 2559 น่าจะเติบโตแค่ 6.5% ซึ่งเป็นอัตราเติบโตต่ำกว่าปี 2558 เนื่องจากภาคการผลิตของจีนชะลอตัวลง และการบริโภคก็ไม่เติบโตมากนัก

สำหรับเช้านี้ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส และราคาน้ำมันฟิวเจอร์สได้รีบาวน์ขึ้นด้วย โดยดาวโจนส์ฟิวเจอร์สบวกราว 0.7-0.8% ส่วนราคาน้ำมันฟิวเจอร์สบวกราว 1.5% ทำให้เป็น Sentiment บวกต่อหุ้นได้

แนวโน้มการลงทุนบ่ายนี้ เป็นไปได้ที่ดัชนีฯจะยืนในแดนบวกต่อได้ เนื่องจากตลาดฯยังไม่มีข่าวลบ พร้อมให้แนวต้าน 1,260-1,270 จุด ส่วนแนวรับ 1,220 จุด และมีจุดฟิวเตอร์ที่ 1,250 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ ( 19 ม.ค.) ว่า กลุ่มสื่อสาร และธนาคารหนุนการ Rebound ของ SET มีแนวต้านที่ 1,268 จุด โดยดัชนีสามารถฟื้นตัวได้หลังแรงกดดันจากตลาดหุ้นต่างประเทศลดลง ขณะที่กลุ่มธนาคาร และสื่อสารเด่นกว่าตลาด สำหรับธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กอย่าง TISCO-KKP ประกาศกำไรไตรมาส 4 ปี 2558 ดีกว่าคาด และให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง

ขณะที่ แนะนำ “ซื้อ” KKP-TMB และ KTB โดยเฉพาะ KTB ที่ปัจจุบันซื้อขายที่ PE 6 เท่า และให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 5.2% ในระยะ 3-4 เดือนข้างหน้า และคาดว่าปันผลจะเพิ่มขึ้นเป็น 7.6% ในปี 2559 จากแนวโน้มกำไรที่ขยายตัว 27% จากช่วงเดียวกันปีก่อน (ไม่มีบันทึกสำรองจากกรณีหนี้ SSI แล้ว ขณะที่อาจมีการกลับรายการขายที่ดินที่เป็นหลักประกันของกลุ่ม KMC ที่ศาลฯตัดสินคดีไปแล้วเมื่อปลายปีก่อน)

สำหรับกลุ่มสื่อสาร แนะนำ “ซื้อ” ADVANC และ INTUCH ต่อไป ด้วยอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงกว่า 4.2% สำหรับกำไรครึ่งปีหลังของปี 2558 และคาดการปันผลมากกว่า 8% สำหรับกำไรปี 2559 ขณะที่การชำระค่าใบอนุญาต 900MHz ที่ล่าช้าของ TRUE และ JAS เป็นโอกาสของ ADVANC ในการย้ายลูกค้า 2G เดิมมายังโครงข่าย 3G-4G ใหม่

สำหรับเศรษฐกิจจีนขยายตัว +6.8% ในไตรมาส 4 ปี 2558 ส่งผลให้ GDP ขยายตัว +6.9% ในปี 2558 แม้จะเป็นการขยายตัวต่ำสุดในรอบ 25 ปี และชะลอตัวลงจาก +7.3% ในปี 2557 อย่างไรก็ตามการขยายตัวเศรษฐกิจจีนปีก่อนถือว่าใกล้เคียงกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ประกอบกับค่าเงินหยวนที่เริ่มมีเสถียรภาพทำให้มีโอกาสที่จะเห็นการ “Rebound” ในตลาดหุ้นโลก

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 2,152.40 ล้านบาท ปิดที่ 151.50 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,132.15 ล้านบาท ปิดที่ 205.00 บาท เพิ่มขึ้น 7.00 บาท

AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,036.70 ล้านบาท ปิดที่ 347.00 บาท ลดลง 4.00 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 908.97 ล้านบาท ปิดที่ 158.00 บาท เพิ่มขึ้น 5.50 บาท

SCB มูลค่าการซื้อขาย 836.19 ล้านบาท ปิดที่ 116.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท

 

ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์

Back to top button