SET ผันผวน-มีแรงกดดันกลุ่มพลังงานสอย 17 หุ้นเด็ด Valuation ต่ำ-ปันผลสูง

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้มีแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงาน เนื่องจากราคาน้ำมันดิบโลกยังปรับตัวลงต่อเนื่อง แต่ด้านเงินทุนไหลเข้าจากต่างชาติคาดว่ามีทิศทางที่ดีขึ้น หลังตัวเลขเศรษฐกิจของจีนออกมาดี


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.13 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 36.27 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงเช้านี้ โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้มีแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงาน เนื่องจากราคาน้ำมันดิบโลกยังปรับตัวลงต่อเนื่อง แต่ด้านเงินทุนไหลเข้าจากต่างชาติคาดว่ามีทิศทางที่ดีขึ้น หลังตัวเลขเศรษฐกิจของจีนออกมาดี 

หุ้นเด่นเลือก SAWAD, GL, MTLS, KTB, TISCO, KKP, INTUCH, ADVANC, SIRI, DIF, ASIAN, CHOW , WICE, GFPT, LIT, SF, ASEFA

 

นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างอยู่ในแดนลบเฉลี่ย 0.3-0.4% โดยมีตลาดหุ้นฮ่องกง และตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่ปรับตัวลงมากราว 2% ภายหลังจากที่ราคาน้ำมันดิบได้ปรับตัวลงมาต่ำกว่าระดับ 28 เหรียญฯ/บาร์เรล แล้ว และยังมีการมองกันว่าน่าจะมีโอกาสได้เห็นการไต่ลงของราคาน้ำมันมาที่ระดับ 25 เหรียญฯ/บาร์เรลได้ พร้อมให้ติดตามการประชุม ECB ในวันพรุ่งนี้ แต่คาดว่าไม่น่าจะมีอะไร

ทั้งนี้ วานนี้ตลาดบ้านเราได้รับแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่ม ICT, กลุ่มแบงก์ และกลุ่มพลังงาน แต่มองว่าการปรับขึ้นของหุ้นทั้งสามกลุ่มยังไม่เสถียร และเป็นแค่ช่วงสั้นเท่านั้น เนื่องจากกลุ่ม ICT ก็ยังไม่แน่นอนเรื่องการจ่ายเงินให้กับทางการสำหรับคนที่ชนะการประมูล 4G, ส่วนกลุ่มแบงก์ช่วงนี้ก็เป็นช่วงของการายงานผลประกอบการ และกลุ่มพลังงานก็มีความเคลื่อนไหวตามราคาน้ำมันที่ยังคงผันผวนอยู่

พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,256-1,270 จุด

 

บล.เคจีไอ ระบุในบทวิเคราะห์ (20 ม.ค.) ว่าคาดดัชนีวันนี้ขึ้นต่อ หนุนโดยแรงซื้อหุ้นใหญ่ มองว่าทุนต่างชาติมีทิศทางดีขึ้น หลังตัวเลขเศรษฐกิจจีนไตรมาส 4/58 โตตามคาด และแนวโน้มสหรัฐ อาจขึ้นดอกเบี้ยช้ากว่าที่ตลาดประเมินไว้ ทั้งนี้ หุ้นพลังงานอาจเหวี่ยงบ้างหลังราคาน้ำมันพลิกลงต่อ ตามความกังวลต่ออุปทานส่วนเพิ่มจากอิหร่าน และการลดคาดการณ์ GDP โลกของ IMF สู่ 3.4% จากเดิม 3.6% แต่คงมุมมองตลาดน้ำมันมี downside จำกัด คาดแรงเก็งกำไรงบไตรมาส 4 ผนวกทุนต่างชาติและแนวโน้มตลาดหุ้นจีนที่น่าจะฟื้น หนุนดัชนีได้ แนะนำเก็งกำไรต่อคงเป้าดัชนีไตรมาส 1/59 ที่ 1,330 จุด

วันนี้เก็งกำไร LIT-SF-ASEFA

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (20 ม.ค.) ว่าการปรับลดลงของราคาน้ำมันดิบ Brent  0.7% เมื่อคืนนี้เนื่องจากเศรษฐกิจจีนชะลอตัว และการส่งออกที่เพิ่มขึ้นของอิหร่าน จะเป็นปัจจัยกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานวันนี้อีกครั้ง

อย่างไรก็ตามมอง Downside Risk จำกัดที่ 1,256 จุด ซึ่งคาดว่าจะมีการ Rebound ตามมาจาก 1) ค่าเงินหยวนที่มีเสถียรภาพมากขึ้น ทรงตัวที่ 6.56 หยวน/ดอลลาร์ฯ 2) Fed มีแนวโน้มชะลอขึ้นดอกเบี้ย ลดพฤติกรรม Reverse Carry Trade 3) สถิติในอดีต 10 ปีที่ผ่านมา SET มีโอกาสปรับสูงขึ้นในเดือน ก.พ.-เม.ย. มากถึง 70-80%

แม้ SET อาจผันผวนช่วงเปิดตลาดตามตลาดหุ้นโลก แต่มอง Downside จำกัด และยังคาด Rebound ต่อระยะสัปดาห์ แนะนำ Selective

          1) กลุ่มธนาคาร Valuation ต่ำ อย่าง KTB TISCO KKP

          2) กลุ่มหุ้นปันผลสูงอย่าง INTUCH ADVANC SIRI DIF 

          3) กลุ่ม Micro Finance กำไรเติบโตดี ได้รับผลดีดอกเบี้ยต่ำหนุนอัตรากำไร SAWAD GL MTLS

 

บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (20 ม.ค.) ว่าตลาดหุ้นในต่างประเทศน่าจะดีดตัวกลับได้ในช่วงปลาย ม.ค. ถึง ก.พ. แล้วหลังจากนั้นไปรอลุ้นในเดือน มี.ค. โดยหลังจากนี้เหตุการณ์ร้ายที่จะส่งผลกระทบกับตลาดหุ้น น่าจะอยู่ในความคาดหมายของตลาด อย่างผลการดำเนินงาน ราคาน้ำมันและตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ยกเว้น จีนจะลดค่าเงินหยวนและเกิดภัยก่อการร้ายเกิดขึ้นอีก

ดังนั้นจึงมองว่าดัชนีตลาดหุ้นหลักๆ จะสามารถดีดตัวขึ้นได้ในช่วงเวลาดังกล่าว กลยุทธ์การลงทุน ยังสามารถตามหุ้น PTT และ PTTEP ได้ นอกนั้นเน้นไปที่ธนาคาร (KBANK KTB TMB TISCO) และสื่อสาร (ADVANC INTUCH DTAC) อื่นๆ คือ AOT SCC MINT และ CENTEL เนื่องจากราคาหุ้นลงไปลึกนับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน

ทิศทางดัชนีSET วันนี้คาดจะยังดีดตัวขึ้นได้ต่อหลังตลาดหุ้นทั่วโลกคาดจีนจะออกมามาตรการกระตุ้นในช่วงก่อนตรุษจีน ขณะที่ราคาน้ำมันยังยืนๆ โดยวันนี้คาดดัชนีจะแกว่งตัวทั้งแดนบวกและลบ โดยมีแนวต้านที่ 1273 -1278 จุด แนวรับที่ 1260-1256 จุด

Fundamental Stock :

=> GFPT : (คำแนะนำ : ซื้อ ราคาเป้าหมาย 12.20 บาท)

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (20 ม.ค.) ว่าแนะนำเก็งกำไรระยะสั้น ในกรอบการลงทุนแนวรับ 1,250 จุด และแนวต้าน 1,280 จุด เนื่องจากตลาดยังมีความเสี่ยงของความผันผวนราคาน้ำมัน  ระยะสั้นแนะนำเก็งกำไร  ASIAN , CHOW , WICE ( มีสัญญาณบวกทางโมเมนตัม )

Back to top button