SET บ่ายระวังแรงขายหากยืน 1,280 ไม่ไหวเก็งหุ้นใหญ่ พร้อมชู 4 บจ.รับเหมาฯ-ก่อสร้าง
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ หากตลาดล่วงหน้ายังติดลบมีโอกาสที่ดัชนีฯจะลดช่วงบวกลง โดยระยะสั้นให้ดูว่าจะยืนเหนือระดับ 1,280 จุดได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็ให้แบ่งขายทำกำไรบางส่วน และมีจุดฟิวเตอร์ที่ 1,260 จุด หากหลุดแนวนี้ก็ให้ลดพอร์ตตาม
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (27 ม.ค.) อยู่ในแดนบวกเหมือนตลาดหุ้นอื่นในเอเชียที่ต่างปรับตัวขึ้นมาเป็นส่วนใหญ่ โดยภาพรวมตลาดฯได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่รีบาวด์ขึ้น และการเล่นเก็งกำไรผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนอีกทั้งราคาหุ้นกลุ่มแบงก์และพลังงานอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าบุ๊คอยู่หลายตัว ทำให้มีแรงซื้อกลับเข้ามา อีกทั้งการเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล โดยคาดว่าจะเซ็นสัญญาก่อสร้างได้ไม่ต่ำกว่า 9 แสนล้านบาทในปีนี้จะเป็นปัจจัยหนุนการปรับสูงขึ้นของกลุ่มรับเหมาฯ และวัสดุก่อสร้าง ชู 4 หุ้นเด็ด STEC,UNIQ,TPIPL และ ITD น่าลงทุน
ส่วนแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ หากตลาดล่วงหน้ายังติดลบมีโอกาสที่ดัชนีฯจะลดช่วงบวกลง โดยระยะสั้นให้ดูว่าจะยืนเหนือระดับ 1,280 จุดได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็ให้แบ่งขายทำกำไรบางส่วน และมีจุดฟิวเตอร์ที่ 1,260 จุด หากหลุดแนวนี้ก็ให้ลดพอร์ตตาม
น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้อยู่ในแดนบวกเหมือนกับตลาดหุ้นอื่นในเอเชียที่ต่างปรับตัวขึ้นมาเป็นส่วนใหญ่ ยกเว้นตลาดหุ้นจีนที่ติดลบหลังปลดล็อกการลงทุนด้วยการให้ผู้ถือหุ้นรายใหญ่นำหุ้นบางส่วนออกมาขายได้
ทั้งนี้ ในภาพรวมตลาดฯได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่รีบาวด์ขึ้น และการเล่นเก็งกำไรผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนด้วย อย่างหุ้นกลุ่มพลังงานจะเห็นได้ว่าผลประกอบการงวดไตรมาส 4/58 จะไม่ดี แต่คนก็ได้มองข้ามไป เพราะราคาหุ้นได้ปรับตัวลงมาสะท้อนปัจจัยลบไปมากแล้ว อีกทั้งราคาหุ้นกลุ่มแบงก์และพลังงานอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าบุ๊คอยู่หลายตัว ทำให้มีแรงซื้อกลับเข้ามา
อย่างไรก็ดีจะเห็นได้ว่าตลาดฯยังอยู่ในแดนบวกที่ยังไม่แข็งแรง เนื่องจากขณะนี้ราคาน้ำมันในตลาดฟิวเจอร์ และดาวโจนส์ฟิวเจอร์ได้แกว่งตัวลงมาอยู่ในแดนลบ ทำให้ดัชนีฯมีการลดช่วงบวกลง
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ หากตลาดล่วงหน้ายังติดลบ ก็มีโอกาสที่ดัชนีฯจะลดช่วงบวกลง โดยระยะสั้นให้ดูว่าจะยืนเหนือระดับ 1,280 จุดได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็ให้แบ่งขายทำกำไรบางส่วน และมีจุดฟิวเตอร์ที่ 1,260 จุด หากหลุดแนวนี้ก็ให้ลดพอร์ตตาม
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (27 ม.ค.) ว่า แม้ความกังวลต่อกระแสเงินไหลออกจากตลาดหุ้นจีนกดดัน ตลาดหุ้น Shanghai ปรับลดลงต่อเนื่องกว่า 3% เช้านี้ แต่การปรับสูงขึ้นของราคาน้ำมัน และดัชนีหุ้น Dow Jones ยังเป็นปัจจัยหนุน SET ฟื้นตัวทดสอบแนวต้าน 1,280 จุด ตั้งแต่เปิดตลาด
ทั้งนี้แม้การปรับลดลงของตลาดหุ้นจีนอาจทำให้ตลาดหุ้นโลก “ผันผวน” ระยะสั้น อย่างไรก็ตามค่าเงินหยวนที่มีเสถียรภาพมากขึ้น และโอกาสที่ Fed จะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ คาดว่าจะเป็นปัจจัยหนุนการฟื้นตัวของ SET ระยะสัปดาห์ โดยเรายังเลือกกลุ่มหุ้นที่มี Valuation ถูก เมื่อเทียบกับช่วงวิกฤติปี 2551 และกลุ่มหุ้นที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง เป็นหุ้นแนะนำช่วงนี้ ได้แก่ PTT SCB INTUCH KTB SIRI และ PS
นอกจากนี้การเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล โดยคาดว่าจะเซ็นสัญญาก่อสร้างได้ไม่ต่ำกว่า 9 แสนล้านบาทในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟรางคู่ รถไฟฟ้า มอเตอร์เวย์ และการขยายสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นปัจจัยหนุนการปรับสูงขึ้นของกลุ่มรับเหมาฯ และวัสดุก่อสร้าง แนะนำ “ซื้อ” STEC UNIQ (ลุ้นกลับไปยืนเหนือแนวต้าน 200 วันที่ 18.4 บาท จะมีแนวต้านถัดไปที่ 19.50 บาท) และ “เก็งกำไร” TPIPL (แนวต้าน 2.22 บาท ผ่านไปได้มีเป้าหมายถัดไปที่ 2.34 บาท) และ ITD (ยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 1 เดือน มีเป้าหมายการ Rebound ที่ 7.45-7.55 บาท)
สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,325.59 ล้านบาท ปิดที่ 159.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,224.51 ล้านบาท ปิดที่ 226.00 บาท เพิ่มขึ้น 7.00 บาท
JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,195,66 ล้านบาท ปิดที่ 3.20 บาท ลดลง 0.02 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 745.31 ล้านบาท ปิดที่ 161.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 706.87 ล้านบาท ปิดที่ 122.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท