SET บ่ายลุ้นทดสอบ 1,300-1,310กูรูแนะสอย 8 หุ้นงบเด่นสุดในกลุ่มฯ

SET ช่วงบ่ายนี้ถ้าดัชนีฯยังยืนเหนือแนวฟิวเตอร์ที่ 1,280 จุดได้ยังมีลุ้นขึ้นไปต่อได้ โดยมีแนวต้านที่ 1,300-1,310 จุด โบรกฯแนะสอยกลุ่มหุ้นผลงานคาดออกมาดี โรงพยาบาล,โรงแรม,Micro Finance และอสังหาฯ


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงานตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (2 ก.พ.) ยังเงียบเหงา โดยดัชนีฯแกว่งทรงตัว รับแรงซื้อจากกลุ่มสื่อสาร-อาหาร-ส่งออก แต่เจอแรงขายจากกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันร่วง แต่ก็ไม่รุนแรง หลังมองราคาน้ำมันน่าจะมี Downside น้อยลง

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ถ้าดัชนีฯยังยืนเหนือแนวฟิวเตอร์ที่ 1,280 จุดได้ก็ยังมีลุ้นขึ้นไปต่อได้ โดยมีแนวต้านที่ 1,300-1,310 จุด เน้นกลุ่มหุ้นผลงานคาดออกมาดี โรงพยาบาล,โรงแรม,Micro Finance และอสังหาฯ

 

น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยภาคดูเงียบ ๆ ดัชนีฯเคลื่อนไหวในลักษณะทรง ๆ ตัว โดยมีแรงซื้อเข้ามาจากหุ้นในกลุ่มสื่อสาร,กลุ่มอาหารและกลุ่มส่งออกทำให้การเทรดดูคึกคักขึ้น แม้ว่าจะมีแรงขายจากหุ้นในกลุ่มพลังงานออกมาหลังจากที่ราคาน้ำมันร่วงลง แต่ก็ไม่รุนแรง เนื่องจากคนมองว่าราคาน้ำมันแม้ว่าจะปรับตัวลงแต่ก็คงจะไม่มากเหมือนที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งมองว่า Downside คงจะน้อยลง จึงทำให้ตลาดฯเคลื่อนไหวทรงตัว

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ก็อยู่ในแดนลบเล็กน้อย แม้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจจะออกมาไม่ดี แต่ก็ยังมีอีกมุมมองที่คาดหวังจะมีมาตรรการเพิ่มเติม ทำให้ดัชนีฯมีค่าติดลบที่น้อยลงไป อย่างตัวเลข PMI ของจีน และสหรัฐฯออกมาอ่อนแอ แต่จีนก็จะถูกชดเชยไปด้วยความคาดหวังว่าจีนจะมีมาตรการออกมาเพิ่มเติม ส่วนสหรัฐฯก็มองว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะไม่รีบขึ้นอัตราดอกเบี้ย หรือจำนวนครั้งที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจจะน้อยกว่าที่คาดไว้

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ถ้าดัชนีฯยังยืนเหนือแนวฟิวเตอร์ที่ 1,280 จุดได้ก็ยังมีลุ้นขึ้นไปต่อได้ โดยมีแนวต้านที่ 1,300-1,310 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ ( 2 ก.พ.) ว่า การปรับลดลงของราคาน้ำมัน และตลาดหุ้นภูมิภาค กดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน ส่งผลให้ SET เคลื่อนไหว “พักฐาน” ในกรอบ 1,286-1,300 จุด ขณะที่ระยะสัปดาห์ยังลุ้นการปรับสูงขึ้นต่อไปที่ 1,320 จุด

ทั้งนี้แม้มีแรงขายหุ้นกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่อย่าง SCB KTB เข้ามาเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ในช่วงเช้าวันนี้ แต่ยังมอง Outperform ระยะสัปดาห์ต่อไป ด้วย Valuation ที่ถูกของ SCB ใกล้เคียงปี 2551 และปันผลสูง 5% ขณะที่เริ่มมีสัญญาณ Sector Rotation ไปยังกลุ่มหุ้นที่คาดการณ์ผลการดำเนินงานออกมาดีในกลุ่มโรงพยาบาล โรงแรม Micro Finance และอสังหาฯ ดังนี้

กลุ่มโรงพยาบาล: “ซื้อ” CHG (ต้าน 2.66/2.80) ผลการดำเนินงานเติบโตเด่น เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนและ เทียบไตรมาสก่อนหน้าในไตรมาส 4/58 และเติบโตเด่น 26% ปี 59 จากการขยายโรงพยาบาลต่อเนื่อง และ “ซื้อ” BH (ต้าน 237/250) คาดการณ์กำไรเติบโตดี เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนราคาหุ้นฟื้นตัวยกฐาน

กลุ่มโรงแรม: ราคา CENTEL (ต้าน 41.25) MINT (ต้าน 34.25/36.5) พักฐาน 8-11% ในช่วงเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ใกล้แนวรับทางเทคนิคแล้ว ขณะที่คาดการณ์กำไรไตรมาส 4/58-ไตรมาส 1/59 ออกมาดี เนื่องจากเป็นช่วง High Season ของธุรกิจโรงแรม ขณะที่ MINT มีกำไรจากการขาย Villa ที่ภูเก็ตด้วย

กลุ่ม Micro Finance:”ซื้อ” SAWAD, MTLS คาดการณ์กำไรเติบโตแกร่ง เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนจากการเติบโตสินเชื่อ, NIM ขยายตัว, ขณะที่ NPL ยังไม่ใช่ปัญหา รวมไปถึง “ซื้อ” GL การขยายธุรกิจในกัมพูชา เป็นปัจจัยหนุน Growth ต่อเนื่องในปี 59-60

กลุ่มอสังหาฯ:“ซื้อ” PS คาดการณ์กำไรไตรมาส 4/58 เติบโตแกร่ง จากยอดโอนบ้านที่เร่งตัวรับมาตรการภาษีโอน และจำนองของรัฐบาล ขณะที่การปรับนโยบายปันผลส่งผลให้ PS ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง 3.9% สำหรับกำไรครึ่งหลังปี 58 และ 6.6% สำหรับกำไรปี 59

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,563.03 ล้านบาท ปิดที่ 170.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

CPALL  มูลค่าการซื้อขาย 1,272.74 ล้านบาท ปิดที่ 41.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท

PTT  มูลค่าการซื้อขาย 821.99 ล้านบาท ปิดที่ 235.00 บาท ลดลง 5.00 บาท

SCC มูลค่าการซื้อขาย 814.41 ล้านบาท ปิดที่ 418.00 บาท ลดลง 8.00 บาท

DTAC มูลค่าการซื้อขาย 755.46 ล้านบาท ปิดที่ 34.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท              

Back to top button