SET ถูกกดดันจากกลุ่มพลังงานคัด 13 หุ้นเด่นรับผลดีน้ำมันขาลง

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ได้รับแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงาน เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงอย่างมากเมื่อคืนนี้ หลัง IEA ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบ Brent ลง ขณะที่ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามากระตุ้น รวมทั้งหลายตลาดในเอเชียยังอยู่ในระหว่างปิดทำการเนื่องในวันตรุษจีน วันนี้จึงคาดว่าปริมาณซื้อขายยังคงเบาบาง


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.09 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.39 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวอย่างผันผวนเช้านี้ หลังตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้ได้รับแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงาน เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงอย่างมากเมื่อคืนนี้ หลัง IEA ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบ Brent ลง ขณะที่ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามากระตุ้น รวมทั้งหลายตลาดในเอเชียยังอยู่ในระหว่างปิดทำการเนื่องในวันตรุษจีน วันนี้จึงคาดว่าปริมาณซื้อขายยังคงเบาบาง

สำหรับหุ้นเด่นเน้นกลุ่มที่ได้รับผลดีจากน้ำมันขาลงและมีแนวโน้มปันผลเด่น อาทิ EPG, IRPC, AAV, BA, TASCO, TPIPL, KTB, TISCO, KKP, SAWAD, MTLS, GL, STEC

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (10 ก.พ.)  SET มีแนวโน้มถูกกดดันจากหุ้นกลุ่มพลังงานอย่าง PTT PTTEP PTTGC (เป็นปัจจัยบวกต่อ IRPC และ TOP) วันนี้ หลังราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลดลงแรง 7.8% เมื่อคืนนี้ ปิดที่ US$30.32/bbl หลัง IEA ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบ Brent ลดลงเหลือ US$37.52/bbl (เดิม US$40.15/bbl) และมองภาวะอุปทานส่วนเกินจะยังคงอยู่ต่อไปในปีนี้ อย่างไรก็ตามยังมอง SET อยู่ในช่วง “พักฐาน” รูปแบบ Sector Rotation ไปยังกลุ่มหุ้น 2nd-Tier ต่อไป ทำให้ Downside Risk น่าจะจำกัดที่ 1,294 จุด เท่านั้น

 “Selective” กลุ่มหุ้น 2nd-Tier และได้ประโยชน์จากน้ำมันลง

          1. กลุ่ม 2nd-Tier เน้นธนาคารขนาดกลาง-เล็กที่ให้ปันผลสูง, Micro Finance, รับเหมาฯ: KTB TISCO KKP SAWAD MTLS GL STEC

          2. กลุ่มหุ้นที่ไดรับผลดีจากราคาน้ำมันปรับลดลง: EPG IRPC (กำไรต่ำคาดเล็กน้อย แต่ยังมองบวกระยะยาว ปันผล 0.22 บาท/หุ้น หรือ 5.2%) AAV (เป็นหุ้นที่ถูก Upgrade กำไรขึ้นแต่ราคาหุ้นยังไม่สะท้อนมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้น – ดู Pathumwan Corner วันที่ 9 ก.พ.)

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (10 ก.พ.)  ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปิด -0.28 % ปริมาณการซื้อขายยังชะลอตัวอยู่ที่ 2.8 หมื่น ลบ. ต่างชาติและสถาบันเป็นผู้ขายสุทธิหลักเพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาน้ำมันและความเสี่ยงภาคเงินในยุโรปจากภาระหนี้จากการปล่อยกู้ธุรกิจน้ำมัน ส่งผลให้นักลงทุนขายหุ้นกลุ่มการเงินและหันไปลงทุนในพันธบัตรสหรัฐ และทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยง ซึ่งจากประเด็นดังกล่าวน่าจะส่งผลกระทบด้านลบต่อดัชนี SET แม้ภาพรวมตลาดหุ้นไทยจะแข็งกว่าตลาดในภูมิภาค

ระยะสั้นวางแนวรับไว้ที่ระดับ 1,295 จุด หากยืนไม่ได้ แนะนำลดพอร์ตในหุ้นที่ยังมีกำไร เพื่อรอซื้อกลับบริเวณ 1,280 จุด แนะนำซื้อ AAV น่าจะได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันขาลง , ช่วงเทศกาลท่องเที่ยวและการเปิดเส้นทางบินใหม่

 

บล.ซีไอเอ็มบี ระบุในบทวิเคราะห์ (10 ก.พ.)  แม้ว่าจะมองว่าตลาดหุ้นไทยยังสามารถขึ้นได้และเริ่มมีปัจจัยหนุนภายใน แต่ความผันผวนที่เกิดขึ้นรอบใหม่ ถือว่าอยู่ในเกณฑ์อันตรายหลังเกิดแรงขายหุ้นกลุ่มธนาคารในสหรัฐและยุโรปออกมาอย่างมาก ขณะที่ราคาน้ำมันดิ่งลงรอบใหม่

โดยตอนนี้ค่า P/BV ของหุ้นกลุ่มธนาคารในสหรัฐส่วนใหญ่เล่นกันต่ำกว่า 1 เท่า สะท้อนความกังวลเรื่องสถานภาพของกลุ่มธนาคาร จึงแนะนำ ให้ขายทำกำไรออกไปก่อน จนกว่าจะเห็นสัญญาณการคลายความกังวลลง โดยตอนนี้ดัชนีความกลัวของสหรัฐหรือ VIX Index ได้ขึ้นมายืนเหนือ 25 แล้ว

วันนี้มองดัชนี SET เปิดขึ้นมา น่าจะเริ่มเผชิญกับความผันผวนหลังตลาดหุ้นหลักๆ ในเอเชียกลับมาเปิดทำการ อย่างไรก็ตามความผันผวนที่เกิดในตลาดต่างประเทศอย่างสหรัฐและยุโรปผ่านตลาด Future วันนี้อาจจะไม่มากเนื่องจากต่างรอผลการแถลงของประธาน FED ต่อคณะธรรมาธิการการเงินและธนาคารในคืนวันพฤหัสบดี โดยวันนี้ดัชนี SET คาดจะผันผวนทั้งแดนบวกและลบ โดยปัจจัยลบมาจากแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงาน ส่วนปัจจัยบวกคือ ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ เริ่มยืนได้ วันนี้มองแนวรับที่ 1294-1288 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1308-1312 จุด

ยังแนะนำให้ซื้อเก็งกำไรระยะสั้นในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลงอย่าง AAV BA EPG TASCO

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (10 ก.พ.)  ยังมีมุมมองเป็นลบต่อตลาดในวันนี้ คาด SET น่าจะผันผวนในทิศทางลงโดยมีแรงกดดันจากแรงขายหุ้นในกลุ่มพลังงานจากราคาน้ำมันดิบที่ยังลดลงต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามเราคาดว่ามูลค่าการซื้อขายจะยังคงเบาบาง เนื่องจากวันนี้ตลาดหุ้นภูมิภาค 5 แห่งยังปิดทำการเนื่องในเทศกาลตรุษจีน ขณะเดียวกันเราคาดว่านักลงทุนจะรอดูนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดแถลงต่อสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันนี้และวุฒิสภาในวันพรุ่งนี้ ว่าจะมีมุมมองต่อทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐและเศรษฐกิจโลกอย่างไร รวมถึงจะมีการส่งสัญญาณเลื่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมในเดือนมี.ค.ออกไปหรือไม่

กลยุทธ์วันนี้ : Selective BUY/ลงแรงซื้อ ขึ้นขาย/ทำกำไรเล่นรอบสั้น

หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : TPIPL เป้า 2.80 บาท (คาดงบ 4Q15 พลิกมีกำไร รับอานิสงส์รัฐเปิดประมูลงานก่อสร้างมอเตอร์เวย์ ระยะกลางเตรียมนำบริษัทลูกโรงไฟฟ้าขยะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์)

คาดการณ์มุมมองทางเทคนิค – กราฟล่าสุดแสดงภาพดีดตัวบน MA10 รูปได้พอดีเมื่อวานนี้ MACD มีค่าเป็นบวกเพิ่มขึ้นสูงสุดในสัปดาห์นี้ ดัชนีตลาดที่ดีดตัวในแดนลบเมื่อวานนี้วอลุ่มสูงขึ้น แสดงให้เห็นว่าการดีดตัวที่ MA10 เมื่อวานนี้จะทำให้ SET มีแนวโน้มขึ้นต่อ  แนวโน้มของตลาดจะเคลื่อนไหวที่กรอบ 1300-1315

 

 

Back to top button