SET เสี่ยงพักฐานหลังเฟดไม่เร่งขึ้นดบ.เก็ง 15 บจ.เทรนด์ดี กำไรโต-ปันผลสูง

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.24 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.23 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลง หลังนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ได้แสดงความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐและเศรษฐกิจทั่วโลก ในการกล่าวแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเมื่อวานนี้

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสพักฐานหลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยช้าลงกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม ยังมีโอกาสรีบาวด์ระหว่างวันเนื่องจากยังมีแรงซื้อหุ้นที่จ่ายปันผลดี ขณะที่คาดว่าหุ้นใหญ่น่าจะเริ่มกลับมาเป็นกลุ่มนำอีกครั้ง การลงทุนยังเน้นหุ้นที่แนวโน้มกำไรและปันผลดี

หุ้นเด่นเลือก THCOM-ADVANC-INTUCH-MTSL-GL-SAWAD-KKP-TISCO-STEC-UNIQ-TPIPL-KTB-BEM-DIMET และ CEN

 

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (11 ก.พ.) คาดว่าจะแกว่งตัวในกรอบ เนื่องจากตลาดฯมีทั้งข่าวดีและข่าวร้าย โดยตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างปรับตัวลงกันทั่วหน้า โดยเฉพาะตลาดฯที่พึ่งจะกลับมาเทรดวันนี้หลังหยุดทำการไปจะติดลบมากกว่าตลาดอื่น ไม่ว่าจะเป็นตลาดเกาหลีใต้, ตลาดฮ่องกง

สำหรับถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ที่แสดงให้เห็นว่าจะไม่เร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังชะลอตัวอยู่ ซึ่งตรงนี้เป็นผลดีทำให้เม็ดเงินของต่างชาติมีโอกาสที่จะเข้ามาซื้อหุ้นในกลุ่ม TIP ได้สูง แต่อาจจะยังไม่รีบซื้อในขณะนี้เนื่องจากรอดูเศรษฐกิจของจีนก่อน ขณะที่ตลาดหุ้นไทยอิงกับเศรษฐกิจจีนมากอยู่เหมือนกัน ดังนั้น เม็ดเงินต่างชาติจึงอาจไหลเข้าไปพักไว้ที่ทองคำ

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยยังมีโอกาสที่จะรีบาวด์ได้อยู่บ้าง เนื่องจากยังมีแรงซื้อหุ้นที่จ่ายปันผลดี และการไถ่ถอนหน่วยลงทุนของกองทุนก็ได้เสร็จสิ้นไปแล้ว ทำให้เม็ดเงินอาจเข้ามาที่ตลาดฯได้บ้าง ซึ่งนักลงทุนสามารถเลือกลงทุนเป็นรายตัวได้ โดยเน้นหุ้นที่ให้กำไรในปีนี้ดี และจ่ายปันผลดี พร้อมให้แนวรับ 1,296-1,286 จุด ส่วนแนวต้าน 1,314 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (11 ก.พ.) ว่า ถ้อยแถลงประธาน Fed เมื่อคืนนี้แสดงให้เห็นถึงความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกมากขึ้น และคาดว่า Fed จะไม่ขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มี.ค.นี้ กดดันค่าเงินดอลลาร์ฯ อ่อนค่าต่อเนื่อง ขณะที่ถ้าดูจาก Implied Fed Fund Futures จะเห็นว่าโอกาสที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ยในไตรมาส 4 ปี 59 ลดลงเหลือเพียง 25% เท่านั้นจากช่วงกลางเดือน ม.ค.ที่มีโอกาสสูง 64%

คาดว่า SET จะ “พักฐาน” เพื่อปรับขึ้นต่อระยะสัปดาห์ เป้าหมาย 1,350 จุด (เดิมมอง 1,320 จุด) หลัง Fed ขึ้นดอกเบี้ยช้าลงกว่าเดิมหุ้นใหญ่น่าจะเริ่มกลับมาเป็น “กลุ่มนำ” อีกครั้ง

1) หุ้นใหญ่ที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง (ดอกเบี้ยยังต่ำไปอีกนาน) อย่าง ADVANC INTUCH KTB

2) Micro Finance และ Leasing กำไรโตดี ได้ประโยชน์ดอกเบี้ยต่ำ อย่าง MTSL GL SAWAD KKP TISCO

3) รัฐบาลเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน STEC UNIQ TPIPL BEM

 

บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (11 ก.พ.) ว่า ทิศทางดัชนี SET หากเกิดความผันผวนขึ้นมาอีกในระดับโลก เหมือนอย่าง การลดค่าเงินหยวนในเดือน ส.ค. 2015 และ ม.ค. 2016 หรือการดิ่งลงของราคาน้ำมันในช่วง ธ.ค. 2015 ดัชนี SET คงจะปรับตัวลงตามแต่คงไม่ลึก เหมือนที่ผ่านมา เนื่องจากพื้นฐานของตลาดค่อยๆกระเตื้องขึ้น

แต่มีอยู่อย่างหนึ่งที่ต้องพึงระวังคือ แรงขายหุ้นกลุ่มธนาคารในยุโรปตอนนี้แรงกว่าช่วงปี 2008 ขณะที่ CDS พุ่งขึ้นแรงมาก บางธนาคารขึ้นไปเกือบจุดสูงสุดรอบ 10 ปี อย่าง Deutsche Bank, Barclays, HSBC และ Standard charter วันพรุ่งนี้คงต้องติดตามการประกาศของ MSCI ที่จะปรับเปลี่ยนน้ำหนักการลงทุนของตลาดหุ้น MSCI Thailand ทั้ง Global standard และ Small cap

ช่วงสั้นๆ นี้เรามองว่าตลาดยังมีความเสี่ยงสูง จึงแนะนำให้ขายลดความเสี่ยงออกไปก่อน โดยวันนี้มองดัชนี SET มีแนวโน้มที่จะปรับตัวลง หลังตลาดไม่ตอบสนองต่อการแถลงของประธาน FED และการปรับตัวลงของตลาดในภูมิภาค โดยมีแนวรับที่ 1,294-1,289 และแนวต้านที่ 1,308-1,312 จุด

Themes play: แนะนำ ซื้อ THCOM ราคาเป้าหมาย 47 บาท

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (11 ก.พ.) คาดการณ์มุมมองทางเทคนิค กราฟล่าสุดแสดงภาพดีดตัวบน MA10 รูปได้พอดีเมื่อวานนี้เป็นวันที่สองตืดต่อกัน  MACD มีค่าเป็นบวกเพิ่มขึ้นสูงสุดในสัปดาห์นี้ ดัชนีตลาดที่ดีดตัวเมื่อวานนี้วอลุ่มสูงขึ้น แสดงให้เห็นว่าการดีดตัวที่ MA10 เมื่อวานนี้จะทำให้ SET มีแนวโน้มขึ้นต่อและเข้าไปสูการทดสอบแนวต้าน 1,315 จุดในระยะใกล้นี้

แนวโน้มของตลาดจะเคลื่อนไหวที่กรอบ 1,300-1,315

หุ้นที่เลือกวันนี้มีโอกาสปรับขึ้น แนะนำซื้อเก็งกำไร DIMET และ CEN