SET บ่ายทรงตัวตลาดยังกังวลศก.โลก-ราคาน้ำมันเน้นสะสม 11 หุ้นใหญ่-ไฟแนนซ์-โครงสร้างพื้นฐาน
โบรกฯคาดแนวโน้มการลงทุนช่วงบ่ายนี้ (11 ก.พ.) แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ดัชนีฯคงจะเคลื่อนไหวคล้ายคลึงกับช่วงเช้า โดยแกว่งตัวในกรอบ แนวรับ 1,295 จุด ส่วนแนวต้าน 1,310 จุด เน้น 11 หุ้นใหญ่-ไฟแนนซ์-ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (11 ก.พ.) เคลื่อนไหวทั้งแดนลบ-บวก รับแรงกดดันจากเฟดกังวลเศรษฐกิจสหรัฐฯ-เศรษฐกิจโลก อีกทั้งราคาน้ำมันดิบก็ปรับตัวลงทำให้ไปกดดันกลุ่มพลังงาน บ่ายนี้ดัชนีฯคงแกว่งคล้ายคลึงช่วงเช้า โดยแนวรับ 1,295 แนวต้าน 1,310 จุด เน้น 11 หุ้นใหญ่-ไฟแนนซ์-ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน
นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก GXB เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัว เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีความกังวลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และเศรษฐกิจโลก อีกทั้งราคาน้ำมันยังปรับตัวลงทำให้ไปกดดันหุ้นในกลุ่มพลังงาน
ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะติดลบ อย่างไรก็ดีให้ติดตามตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานของสหรัฐฯในคืนนี้ และติดตามตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของไทยงวดไตรมาส 4/58 ที่จะออกมาในวันที่ 15 ก.พ.ด้วย
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ดัชนีฯคงจะเคลื่อนไหวคล้ายคลึงกับช่วงเช้า โดยแกว่งตัวในกรอบ แนวรับ 1,295 จุด ส่วนแนวต้าน 1,310 จุด
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ ( 11 ก.พ.) ว่า แม้ตลาดหุ้นภูมิภาคอ่อนตัวลง โดยเฉพาะตลาดหุ้น HK แต่ SET ยังสามารถยืนได้เหนือแนวรับที่ 1,294-1,296 จุด นอกจากนี้ถ้อยแถลงของประธาน Fed แสดงให้เห็นถึงโอกาสที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ยลดลงจากที่คาดการณ์ไว้เดิมก่อนหน้ามาก โดยถ้าดูจาก Implied Fed Fund Futures จะเห็นว่ามีโอกาสเพียง 25% เท่านั้นที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ยครั้งต่อไปในไตรมาส 4/59 จากเมื่อกลางเดือน ม.ค.คาดว่ามีโอกาสสูงถึง 64% ซึ่งการขึ้นดอกเบี้ย Fed ที่ชะลอตัวลง มองเป็นปัจจัยบวก เนื่องจากความผันผวนของการเคลื่อนย้ายเงินทุนลดลง โดยเริ่มเห็นค่าเงินภูมิภาคมีเสถียรภาพมากขึ้น ส่งผลให้พฤติกรรม Reverse Carry Trade ค่าเงินหยวนชะลอตัว
อีกทั้งราคาสินค้าโภคภัณฑ์มีโอกาสฟื้นตัว หลังค่าเงินดอลลาร์ฯ อ่อนค่าลง ซึ่งมองว่าราคาน้ำมันที่ระดับต่ำกว่า US$30/bbl ต่ำเกินไปในระยะยาว ซึ่งถ้าราคาสินค้าโภคภัณฑ์เริ่มนิ่ง จะเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน นอกจากนี้กลุ่มหุ้นที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง ที่มี Market Cap ใหญ่อย่าง ADVANC INTUCH DTAC KTB BBL มีความน่าสนใจมากขึ้น และเป็นปัจจัยบวกต่อ SET
อย่างไรก็ตามคงมุมมองบวกระยะสัปดาห์ ด้วยเป้าหมายการปรับสูงขึ้นที่ 1,320-1,350 จุด คงแนะนำ “ซื้อ” หุ้นใหญ่ที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง (ดอกเบี้ยยังต่ำไปอีกนาน) อย่าง ADVANC INTUCH KTB และ Micro Finance และ Leasing กำไรโตดี ได้ประโยชน์ดอกเบี้ยต่ำ อย่าง MTSL GL SAWAD KKP TISCO และหุ้นที่รัฐบาลเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน STEC UNIQ TPIPL BEM
สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 992.76 ล้านบาท ปิดที่ 169.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 812.45 ล้านบาท ปิดที่ 234.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 612.62 ล้านบาท ปิดที่ 167.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 577.79 ล้านบาท ปิดที่ 132.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
KTB มูลค่าการซื้อขาย 532.27 ล้านบาท ปิดที่ 17.70 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง