SET เสี่ยงลงต่อ จับตาแนวรับสำคัญ 1,275 จุดคัด 6 หุ้นเด็ด เน้นปันผลสูง-รับผลดีดอกเบี้ยต่ำ

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.24 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.29 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลง อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก ขณะเดียวกันเงินเยนที่แข็งค่าก็ฉุดตลาดหุ้นญี่ปุ่นร่วงลง

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวลงตามตลาดต่างประเทศส่วนใหญ่ แต่คาดอยู่ในกรอบจำกัดเนื่องจากยังไม่มีประเด็นใหม่ๆ ทั้งนี้แนวรับสำคัญอยู่ที่ 1,275 จุด ซึ่งระยะกลางหากดัชนีไม่สามารถยืนได้จะส่งผลให้ภาพรวมดัชนีมีโอกาสปรับตัวลดลงสู่ระดับ 1,240-1,260 จุดอีกครั้ง แนะนำเลือกเล่นหุ้นรายตัวที่ปันผลสูง และได้ประโยชน์จากแนวโน้มดอกเบี้ยต่ำ

หุ้นเด่นเลือก KKP-TISCO-ADVANC-INTUCH-KTB และSUTHA

 

บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (12 ก.พ.) ว่าปัจจัยที่ต้องจับตาดูในอาทิตย์หน้า คือ การเปิดของตลาดหุ้นจีน จะมีปฎิกริยาอย่างไรกับความผันผวนในสัปดาห์นี้ รวมทั้งจีนจะมีมาตรการอะไรออกมาที่จะยับยั้งการไหลออกของเงินทุนต่างประเทศ ซึ่งในเดือน ม.ค. ที่ผ่านมาเงินทุนไหลออกถึง 113 พันล้านดอลลาร์

ส่วนประเด็นในสหรัฐและยุโรป ยังต้องติดตามการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจรายเดือนกลยุทธ์การลงทุนท่ามกลางความผันผวนรอบใหม่ ยังคงต้องหลีกเลี่ยงไปอีกสักระยะ รอให้เห็นประเด็นหรือตลาดคลายความกังวล แต่อาจเข้าไปเล่นสั้นในหุ้นบางตัวในบางกลุ่มที่ผลดำเนินงานออกมาดีหรือเป็นหุ้น Turnaround แต่โดยรวมๆ มองว่าคงยังไม่มีหุ้นที่จะต้านการลงได้ดีพอ ดังนั้น จึงให้รอดูสถานการณ์ไปก่อน วันนี้ทาง MSCI ได้ประกาศการทบทวนหุ้นใน Global standard และ Small cap. ในตลาดหุ้นไทย ปรากฏว่าหุ้นใน Global standard ไม่มีการถอดออกหรือใส่เข้าไปใหม่

ส่วนใน Small cap. ที่ได้เข้าไปใหม่ไม่มี ส่วนที่ถูกถอดออกคือ KTIS วันนี้คาดดัชนีจะผันผวนแรงขึ้นจากแรงกดของดัชนีในต่างประเทศและราคาน้ำมัน โดยมีแนวรับที่ 1,265-1,260 จุด ส่วนแนวต้านที่ 1,280-1,285 จุด

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (12 ก.พ.) ว่าภาวะการลงทุนวานนี้ดัชนี SET มีแรงขายในช่วงบ่าย โดยได้รับผลกระทบจากความกังวลต่อภาวะหนี้สินในธนาคารยุโรป และทิศทางราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง ซึ่งจากภาวะความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวกว่าคาดการณ์ น่าจะส่งผลลบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย โดยมีโอกาสที่เติบโตได้เพียงระดับ 3% ในปีนี้

กลยุทธ์การลงทุนดัชนีหลุดแนวรับ 1,295 จุด ซึ่งฝ่ายวิจัยแนะนำลดพอร์ตลง โดยดัชนีมี Filter แนวรับสำคัญอีกจุดบริเวณ 1,275 จุด ซึ่งระยะกลางหากดัชนีไม่สามารถยืนได้ จะส่งผลให้ภาพดัชนีมีโอกาสปรับตัวลดลงสู่ระดับ 1,240 – 1,260 จุดอีกครั้ง แนะนำ Wait & See เพื่อรอดูผลกระทบจากตลาดหุ้นจีนที่จะเปิดทำการในสัปดาห์หน้า

 

บล.ไอร่า ระบุในบทวิเคราะห์ (12 ก.พ.) คาดยังมีโอกาสลดลงตามตลาดต่างประเทศส่วนใหญ่ แต่คาดอยู่ในกรอบจำกัด โดยที่ยังไม่มีประเด็นใหม่ๆ แต่ยังให้น้ำหนักไปที่ประเด็นต่างประเทศ โดยเฉพาะจากถอยแถลงวันที่ 2 ของประธานเฟดที่ส่งสัญญาณชะลอขี้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเฟดเดือนหน้า แต่คาดอยู่ในความคาดหมายของตลาด

อย่างไรก็ตามคาดไม่สามารถชดเชยประเด็นความกังวลต่อ แนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินนโยบายการเงินของเฟดซึ่งทำให้เกิดความไม่แน่นอน ขณะที่ราคาน้ำมันยังคงปรับลดลงต่อเนื่อง ซึ่งคาดกดดันผลการดำเนินงานของกลุ่มพลังงานต่อไป หุ้นแนะนำ SUTHA

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (12 ก.พ.) ว่าแม้มองการชะลอขึ้นดอกเบี้ย Fed เป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้น แต่การปรับลดลงของราคาน้ำมันอย่างต่อเนื่อง กดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน และ SET ปรับลดลงต่ำกว่าแนวรับ 1,285 จุด (อิงเส้นค่าเฉลี่ย 1 เดือน) ถือว่าอ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ และถือว่าเป็นสัญญาณ “พักฐาน” ระยะสั้นประเมินแนวรับที่ 1,270 จุด ซึ่งเป็นจุดที่ลุ้นการฟื้นตัวอีกครั้ง ขณะที่คงเป้าหมายระยะสัปดาห์ที่ 1,320-1,350 จุด ต่อไป

ทั้งนี้แนะนำ “Selective” หุ้นรายตัวที่ปันผลสูงได้ประโยชน์จากแนวโน้มดอกเบี้ยต่ำ แต่ควรจำกัดวงเงินจนกว่า SET จะสามารถยืนได้เหนือ 1,290 จุดอีกครั้ง

1) High Dividend Yield มองดอกเบี้ยต่ำทั่วโลก: ADVANC-INTUCH-KTB รวมถึง REIT/INFRA อย่าง CPNRF BTSGIF (กำไรดีกว่าคาด)

2) Micro Finance และ Leasing กำไรโตดี ได้ประโยชน์ดอกเบี้ยต่ำ: GL ขณะที่ KKP-TISCO ให้ Dividend Yield สูงระดับ 5%

 

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (12 ก.พ.) คาด SET วันศุกร์แกว่งลงต่อ แต่เชื่อหุ้นลงใกล้สุดแล้ว คงแนะทยอยซื้อ (วานนี้ร่วงหนักช่วงบ่ายตามหุ้นยุโรปแย่กว่าคาด) แรงขายยังมาจากความกังวลเศรษฐกิจโลก และกังวลภาค ธ.ยุโรป หลัง Société Generale แจ้งกำไรต่ำคาดถึง 30%

ขณะที่ราคาน้ำมันยังแกว่งลง หลังอิหร่านลดราคาขายน้ำมันให้ต่ำกว่าของซาอุฯ เป็นครั้งแรก (สะท้อนอิหร่านเตรียมเข้าสู่ตลาดน้ำมัน)

อย่างไรก็ดีมองตลาดหุ้นโดยรวมใกล้หยุดลงแล้วเพราะรับรู้ปัจจัยเสี่ยงไปมากจากถ้อยแถลงของเฟดที่กังวลมากขึ้นต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ และธ.ยุโรปก็รายงานผลประกอบการใกล้จบแล้ว (รับรู้ข่าวร้ายแล้ว) นอกจากนี้เงินบาทที่แข็งต่อเนื่องจะบล็อกไม่ให้เงินไหลออก

ทั้งนี้คงแนะทยอยสะสม อิงมุมมองนักเทคนิค KGI ให้ดูแนวรับเทรนไลน์ 1,277 จุด หากปิดเหนือระดับดังกล่าวได้คาดจิตวิทยา SET จะดีขึ้นในสัปดาห์หน้า