SET บ่ายพักฐานต่อกังวลศก.โลก-ปัญหายุโรปโบรกฯเน้นสอย 6 หุ้นปรับลงแรง-เงินปันผลสูง

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (12 ก.พ.) ปรับตัวลงตามตลาดเอเชียส่วนใหญ่เหตุกังวลเศรษฐกิจโลก รวมถึงปัญหาความสามารถชำระหนี้ของแบงก์ใหญ่ในยุโรป ส่วนตลาดหุ้นไทยนักลงทุนหันเน้นหุ้นปันผลช่วงประกาศงบฯ อีกทั้งคาดหวังเศรษฐกิจไทยฟื้น-กำไร บจ.ปีนี้น่าจะเติบโตได้ 20% ขึ้นไป บ่ายนี้คาดดัชนีฯคงค่อย ๆ ย่อลง ให้แนวรับ 1,275 แนวต้าน 1,291 จุด

 

นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่ หลังจากมีความกังวลเศรษฐกิจโลก รวมทั้งความสามารถในการชำระหนี้ของธนาคารขนาดใหญ่ของยุโรปสังเกตจาก Corporate Yield พุ่งสูงกว่าช่วงเกิดวิกฤตกรีซ นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ย LIBOR ที่ลอนดอนก็ขึ้นมาสูงผิดปกติ สะท้อนความเสี่ยงในระบบการเงินที่เพิ่มมากขึ้น

ส่วนตลาดหุ้นไทยขณะนี้อยู่ในช่วงทยอยประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ทำให้นักลงทุนหันไปสนใจหุ้นปันผลดี โดยยังมีความคาดหวังในตัวเลขเศรษฐกิจ และกำไรของบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 4/58 ที่น่าจะออกมาดีกว่าไตรมาส 3/58 เป็นจุดยึดนักลงทุนทำให้ยังไม่ออกไปจากตลาด อีกทั้งในปีนี้ยังมีความคาดหวังกำไรของบริษัทจดทะเบียนจะเติบโตได้ในระดับ 20% ขึ้นไป

พร้อมให้ติดตามการเปิดประมูลโครงการของภาครัฐฯ รวมทั้งความพยายามอัดฉีดเม็ดเงินช่วยเหลือ SME, ภาคอสังหาริมทรัพย์ และการเกษตร ดังนั้น จึงต้องรอให้ภาคเศรษฐกิจต่าง ๆ ฟื้นตัวก่อน ขณะที่ระหว่างนี้มีที่พึ่งเดียว คือ การท่องเที่ยว ดังนั้นตลาดฯจึงยังอึมครึมอยู่

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ดัชนีฯมีโอกาสที่จะค่อย ๆ ย่อตัวลงได้ พร้อมให้แนวรับ 1,275 จุด ส่วนแนวต้าน 1,291 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ ( 12 ก.พ.) ว่า SET แข็งแรงกว่าตลาดเพื่อนบ้าน หลังจากปรับลงมาแรงล่วงหน้าก่อนแล้ว อย่างไรก็ตามแม้มองว่า SET พักฐานเพื่อปรับขึ้นต่อ แต่ระยะสั้น การที่ SET หลุด 1,290 จุด ลงมา อาจพักฐานยาวไปถึง 1,270-1250 จุดได้ แนะนำกระชับพอร์ตบางส่วนจนกว่า SET จะยืนเหนือ 1,290 จุด ได้อีกครั้ง

โดยแนะ”Selective Buy” กลุ่ม ICT ปันผลสูง และกลุ่มท่องเที่ยว หลังจากที่ประธาน Fed แสดงความกังวลต่อความผันผวนเศรษฐกิจโลก นักลงทุนมองว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งต่อไปของสหรัฐจะช้าลงไปอีก ทำให้หุ้นปันผลสูงมีความน่าสนใจมากขึ้น

ขณะที่มองการปรับฐานของ SET เป็นการเวียนกลุ่มกันปรับลง ดังนั้นกลุ่มหุ้นที่ปรับลงมาก่อนหรือ หุ้น laggard จึงมีความน่าสนใจกว่า และนับตั้งแต่ต้นเดือน ก.พ. มา หากไม่นับรวมหุ้นกลุ่มพลังงานแล้ว หุ้นกลุ่ม ICT และ ท่องเที่ยวปรับตัวลงมากที่สุด ขณะที่กลุ่ม ICT มีปันผลสูงค้ำราคาอยู่ เช่น ADVANC DTAC INTUCH ขณะกลุ่มท่องเที่ยวมีปัจจัยฤดูกาลช่วยหนุน เช่น CENTEL ERW MINT

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,276.20 ล้านบาท ปิดที่ 161.50 บาท ลดลง 2.00 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 898.89 ล้านบาท ปิดที่ 228.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 884.67 ล้านบาท ปิดที่ 40.25 บาท ลดลง 0.50 บาท

SCB มูลค่าการซื้อขาย 842.79 ล้านบาท ปิดที่ 129.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง      

KTB มูลค่าการซื้อขาย 778.29 ล้านบาท ปิดที่ 17.20 บาท ลดลง 0.30 บาท