“พิชัย” ปรับเกม! เปิดกองทุน LTF ใหม่ “Thai ESG” 1.8 แสนล. หวังดึงนักลงทุนหยุดขาย

รองนายกฯและรมว.คลัง เตรียมเปิดตัวโครงการปรับปรุง “กองทุน LTF” ใหม่ เน้นย้ายหุ้น สู่กองทุน “Thai ESG” แจงแผน “บอนด์คอยน์” เพิ่มทางเลือกพันธบัตรดิจิทัลในวอลเล็ตและแลกเปลี่ยนได้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (11 ก.พ.68) นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่าทางกระทรวงการคลังเตรียมจะพิจารณาปรับปรุงกองทุนรวมระยะยาว (Long Term Equity Fund) หรือ กองทุน LTF เพื่อให้นักลงทุนพิจารณา ซึ่งวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งกองทุน LTF เพื่อจะใช้ประโยชน์ทางด้านภาษีและเป็นเงินออม หลังจากช่วงเวลานี้มีนักลงทุนทยอยขายออกเป็นจำนวนมาก เนื่องจากตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวลงต่อเนื่อง

นายพิชัย กล่าวอีกว่า หุ้นส่วนใหญ่ในกองทุน LTF ถือเป็นหุ้นบิ๊กแคป ทั้งนี้มีนโยบายที่จะถ่ายโอนหรือจัดตั้งให้มาอยู่ในกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน หรือ Thai ESG แทน ซึ่งยอดกองทุน LTF ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 1.8 แสนล้านบาท โดยการปรับปรุงกองทุน LTF นั้นอยู่ระหว่างพิจารณาว่า จะให้ประโยชน์ต่อเนื่องระยะเวลา 5 ปี หรือมากกว่านั้น ซึ่งจะพิจารณาโดยเร็วที่สุด

“นักลงทุนที่กำลังจะขายควรหยุดคิดสักนิด เพราะหากลงทุนใน Thai ESG ก็จะได้รับประโยชน์จากการลดหย่อนภาษี เช่น ระยะเวลา 5 ปี ซึ่งตอนนี้กำลังพิจารณาและคาดว่าจะประกาศได้ในเร็วๆ นี้ ขณะที่ตลาดหุ้นไทยกำลังปรับตัวลง หากเงินลงทุนยังอยู่ในกองทุน Thai ESG นักลงทุนก็ยังสามารถได้รับประโยชน์ทางภาษี ดังนั้นอยากให้นักลงทุนพิจารณาในส่วนนี้ก่อนตัดสินใจขาย” รองนายกฯและรมว.คลัง ระบุ

ส่วนความคืบหน้าแนวคิดออกพันธบัตรดิจิทัล หรือ บอนด์คอยน์ (Bond Coin) รองนายกฯและรมว.คลัง กล่าวว่า เป็นกลไกธรรมดา รัฐบาลมีการออกพันธบัตรให้รายย่อยได้ลงทุนอยู่แล้ว ซึ่งรายย่อยส่วนใหญ่ก็เก็บไว้ในลิ้นชัก ครั้งนี้จะเพิ่มทางเลือกเป็นสามารถใส่ไว้ในวอลเล็ต (Wallet) และสามารถเข้าระบบแลกเปลี่ยนได้เพื่อเป็นทางเลือก ซึ่งในหลายประเทศก็เริ่มคิด และเริ่มทำกันไปแล้ว

ทั้งนี้ จะเริ่มดำเนินการในยุค ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย คนปัจจุบันหรือต้องรอคนใหม่นั้น นายพิชัย กล่าวว่า ยังคุยกันรู้เรื่อง เพราะไม่ทำให้ผิดกฎหมาย ไม่ผิดระเบียบ ทั้งหมดต้องไปด้วยกันได้ ผู้ว่าฯ คนไหนก็คุยได้

Back to top button