ปัจจัยตปท.หนุน SET ปรับขึ้นต่อเก็บ 18 หุ้นรายตัวมี Story หนุน

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.19 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.61 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่ หลังมีรายงานว่าตัวเลขการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ของจีน ปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งในเดือนม.ค. อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดอ่อนแรงลงเนื่องจากแรงขายทำกำไร

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเพื่อทดสอบ 1,300 จุดอีกครั้ง โดยได้ปัจจัยหนุนจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตามภาพรวมยังผันผวน การลงทุนแนะนำให้ซื้อบริเวณต่ำกว่า 1,280 จุด และทยอยขายเมื่อดัชนีขึ้นเหนือ 1,300 จุด เน้นหุ้นปันผลสูง, ได้รับผลดีดอกเบี้ยต่ำและราคาน้ำมันฟื้นตัว

หุ้นเด่นเลือก SCB-TCAP-AOT-ADVANC-INTUCH-KTB-CPNRF-BTSGIF-KKP-TISCO-PTT-TOP-PTTGC-SGP-PS-CPF-SYNTEC และ CK

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (16 ก.พ.) คาดว่า SET จะเกิดสัญญาณ “กลับตัว” หรือสามารถยืนได้เหนือ 1,290 จุด ด้วยเป้าหมายการปรับสูงขึ้นถัดไประยะสัปดาห์ที่ 1,320-1,350 จุด จาก 1) Fed ชะลอการขึ้นดอกเบี้ย 2) ECB เตรียมใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มในการประชุม 10 มี.ค. 3) ค่าเงินหยวนแข็งค่าขึ้นลดแรงกดดันจากเงินทุนไหลออกจาก Emerging Economies 4) Downside Risk ราคาน้ำมันจำกัดที่ US$30/bbl ขณะที่ซาอุฯ รัสเซียมีประชุมคืนนี้เกี่ยวกับราคาน้ำมัน และ 5) คาดเศรษฐกิจไทยเร่งตัวขึ้นปี 2559 ที่ +3.3

แนะนำ “ซื้อ” กลุ่มหุ้นปันผลสูง ได้รับผลดีดอกเบี้ยต่ำ และน้ำมันฟื้นตัว

1) High Dividend Yield มองดอกเบี้ยต่ำทั่วโลก: ADVANC INTUCH KTB รวมถึง REIT/INFRA อย่าง CPNRF BTSGIF

2) กำไรโตดี ได้ประโยชน์ดอกเบี้ยต่ำ: GL (แนวต้าน 23.20 บาท) ขณะที่ KKP TISCO ให้ Dividend Yield สูงระดับ 4.5-5.0%

3) ราคาน้ำมันฟื้นตัว: PTT TOP PTTGC SGP

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (16 ก.พ.) คาด SET ปรับขึ้นต่อเนื่องเพื่อทดสอบ 1,300 จุดอีกครั้ง เนื่องจาก Sentiment ในเชิงบวกจากตลาดหุ้นยุโรปที่จะดีต่อเนื่องหลัง ECB พร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจ ประกอบกับตลาดเงินและตลาดน้ำมันล่วงหน้าค่อนข้างมีเสถียรภาพ รวมถึงยังได้รับปัจจัยบวกภายในจากรายงานตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/58 ออกมาดีกว่าตลาดคาด

กลยุทธ์วันนี้: Selective BUY/ซื้อเมื่ออ่อนตัว

หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น: SCB (150), TCAP (42), AOT (400)

 

บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (16 ก.พ.) ว่า ในช่วงที่หุ้นน้ำมันยังพอแกว่งตัวและมีช่องให้เล่น หุ้นในกลุ่มอื่นๆ เริ่มเข้าไปเล่นยาก เนื่องจากไม่มีกรอบให้เล่นมากนักและไม่มีปัจจัยหนุนอุตสาหกรรม หลังผลการดำเนินงานไตรมาส 4/58 ทยอยประกาศหมด ตรงนี้เองที่ทำให้มองว่าดัชนียังผันผวน

อย่างไรก็ตาม กลับมองว่าการลงแรงๆ ของดัชนีในรอบนี้ ยังมีโอกาสน้อย หลังแรงขายของต่างชาติน้อยลงมากๆ ยกเว้นจะเกิดการสั่นของตลาดทั่วโลกเกิดขึ้นมาอีก ภาพการลงทุนในตอนนี้ ต้องจับตาตลาดหลักอย่างเดียวโดยเฉพาะ ตลาดหุ้นสหรัฐ เนื่องจากเป็นตลาดเดียวที่อัตราการลงยังต่ำกว่าตลาดหลักๆทั่วโลกนับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน หากเริ่มคลายตัว ตลาดหุ้นไทยจะดีดตัวขึ้น และตรงข้าม หากแย่ลงไปอีก ตลาดหุ้นไทยน่าจะลงต่อ

วันนี้คาดว่าตลาดจะยังปรับตัวขึ้นได้ต่อหลังเมื่อคืนนี้ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวต่อสภายุโรปว่า ECB พร้อมจะทำการผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติมในการประชุมวันที่ 10 มี.ค. นี้ (คาดว่าจะเป็นการเพิ่มวงเงินการเข้าซื้อพันธบัตรจากปัจจุบันที่ 60,000 ล้านยูโร/เดือน) โดยคาดว่าหุ้น AOT ที่ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1 (ต.ค.-ธ.ค. 58) เมื่อวานนี้ออกมาดีและหุ้นกลุ่มพลังงาน (PTT PTTEP TOP) ที่ได้อานิสงค์จากการฟื้นตัวของราคาน้ำมันจะเป็นหุ้นนำตลาดในวันนี้ วันนี้ให้แนวรับที่ 1280-1285 และแนวต้านที่ 1295-1300 จุด

Themes play: TOP แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 70 บาท

 

บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (16 ก.พ.) ว่า ตลาดไทยวันนี้มีโอกาสขยับขึ้นได้ต่อด้วยปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ฟื้นตัวได้ต่อเนื่องตั้งแต่วันศุกร์สัปดาห์ที่ผ่านมา จึงน่าจะช่วยดันกลุ่มพลังงานขึ้นได้ต่อในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ตลาดไทยช่วงนี้ยังคงมีความผันผวนสูง อิงจากปัจจัยต่างประเทศเป็นหลัก ซึ่งแม้ว่าเริ่มเห็นสัญญาณบวกบ้างทั้งตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐและการทรงตัวของตลาดหุ้นจีนแต่ยังมีความเปราะบางค่อนข้างสูง คงคำแนะนำให้ซื้อบริเวณต่ำกว่า 1,280 จุด และทยอยขายเมื่อดัชนีขึ้นเหนือ 1,300 จุด

แนวรับ/แนวต้าน: 1,275/1,300 สัดส่วนการลงทุน: เงินสด 40%:พอร์ตหุ้น 60%

กลยุทธ์: เก็บสะสมหุ้นกลุ่มรับเหมา พลังงานปลายน้ำ อสังหาฯ อาหาร และวัสดุก่อสร้าง ที่ราคาไม่แพงและมีพื้นฐานดี มี story หนุนเป็นรายตัว หลีกเลี่ยงกลุ่มพลังงานต้นน้ำและสื่อสารไปก่อน

นักลงทุนระยะสั้น: PS (34), CPF (27) / นักลงทุนระยะยาว: SYNTEC (3.80), CK (34)