เลขาฯ ก.ล.ต. ย้ำ! ตลาดทุนไทยพร้อม เดินหน้าซื้อขายตามปกติ “แผ่นดินไหว” ไร้กระทบ

วันนี้ (31 มี.ค.68) นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวในงานแถลงข่าวร่วมเกี่ยวกับสถานการณ์ภาคเศรษฐกิจจริงและระบบทางการเงิน จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มี.ค.68 ว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเป็นบทพิสูจน์ว่าระบบของตลาดทุนไทยมีความยืดหยุ่นและสามารถรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลังเกิดแผ่นดินไหวเพียงไม่กี่นาที ก.ล.ต. สามารถประสานงานกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ รวมถึงผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) เพื่อดำเนินมาตรการตามแผนสำรองฉุกเฉิน (BCP) โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของนักลงทุนเป็นสำคัญ

“เมื่อเกิดวิกฤต สิ่งสำคัญที่สุดคือ ข้อมูลข่าวสาร” นางพรอนงค์กล่าว พร้อมอธิบายอีกว่า การตัดสินใจร่วมกันระงับการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ และตลาดที่เกี่ยวข้องเมื่อวันศุกร์ ไม่ได้เกิดจากปัญหาของระบบ แต่เป็นมาตรการเพื่อความปลอดภัยของบุคลากร และเพื่อป้องกันความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นจากความไม่แน่นอนของข้อมูล อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ ก.ล.ต. มีความมั่นใจว่าระบบของตลาดทุนและสินทรัพย์ดิจิทัลยังคงแข็งแกร่ง และสามารถดำเนินการต่อไปได้อย่างมีเสถียรภาพ

นางพรอนงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินผลกระทบต่อราคาและความเชื่อมั่นในระยะสั้นได้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม ก.ล.ต. ย้ำว่าข้อมูลข่าวสารเป็นปัจจัยสำคัญ นักลงทุนควรตัดสินใจอย่างมีสติ โดยแยกแยะระหว่าง ข้อเท็จจริง กับ ความเชื่อหรือความคาดหวัง ย้ำว่าระบบตลาดทุนยังคงมีเสถียรภาพและสามารถเชื่อมั่นได้ โดยระบบแผนสำรองฉุกเฉิน  ได้ถูกนำมาใช้ในทุกระดับอย่างมีประสิทธิภาพ อยากให้นักลงทุนไตร่ตรองข้อมูลข่าวสารอย่างรอบคอบ และมั่นใจว่าทุกอย่างยังอยู่ภายใต้การกำกับดูแล เรากลับสู่ภาวะปกติ (Back to normal)

นางพรอนงค์ ยังย้ำว่า ขอให้ทุกคนพิจารณาข้อมูลจากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับปัจจัยด้านการลงทุน เพราะหากดูสถานการณ์ตลาดหุ้นในต่างประเทศวันนี้ ซึ่งไม่ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวก็ปรับตัวลงจากปัจจัยเกี่ยวกับมาตรการทางภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะมีความชัดเจนในวันที่ 2 เม.ย.นี้

“เราคงห้ามความวิตกกังวลคงยาก แต่อยากให้แยกอย่างนี้ ตอนนี้ในตลาดทุนมันกระจายกับข่าว แผ่นดินไหวที่ประเทศเราเป็นส่วนหนึ่ง แต่นโยบายทางด้าน Gopolitical หรือ Trade War ก็ยังเป็นปัจจัยที่ส่งความเสี่ยงหลัก ตลาดที่เปิดก่อนเรา อย่างญี่ปุ่นตอนนี้ก็ติดลบ ดังนั้นมันน่าจะเป็นเรื่องของปัจจัยอื่น ซึ่งปัจจัยเหล่านั้น แน่นอนตลาดทุนอย่างเราก็อาจจะมีผลกระทบอยู่บ้าง แต่ถ้านักลงทุนแยกแยะข่าวต่าง ๆ ได้ ก็เชื่อว่าเราน่าจะมีความยืดหยุ่น (Resilience) ได้ดี แต่ถ้ากระนั้นระบบงานก็พร้อมรองรับทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะขึ้นชนซิลลิ่ง หรือลงมาติดฟลอร์ หรืออะไรก็แล้วแต่ ขึ้นชื่อว่าตลาด ขอให้ระบบการซื้อขายมีปฏิกิริยาตอบโต้ข้อมูลข่าวสาร ทุกคนสามารถแอคชั่น” เลขาธิการ ก.ล.ต.