“จุลพันธ์” มั่นใจ “แผ่นดินไหว” ไม่กระทบเป้า GDP ไทยปี 68 โต 3%

รมช.คลัง ยืนยันแผ่นดินไหวในเมียนมาไม่ส่งผลกระทบต่อเป้าหมาย GDP ของไทยในปี 68 ที่ตั้งไว้ที่ 3% พร้อมแสดงความมั่นใจว่าเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจจะช่วยให้การเติบโตไม่ต่ำกว่าเป้า แม้จะมีความท้าทายเรื่องการเยียวยาผลกระทบ


วันนี้ (1 เม.ย.68) นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการ โดยมอบหมายหลายกระทรวง ทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อดำเนินการรับมือภัยพิบัติในอนาคต หลังเกิดแผ่นดินไหวในประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 28 มี.ค. ที่ผ่านมา

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี ยังได้มีข้อสั่งการให้ไปตรวจสอบตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ว่า มีเหตุผิดพลาดอะไร และใครต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งทุกหน่วยงานก็รับข้อสั่งการเพื่อไปดำเนินการต่อโดยเร็ว เพราะต้องการสร้างความกระจ่างให้กับประชาชน

เมื่อถูกถามว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจบ้างหรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เบื้องต้นเป็นเรื่องสภาพจิตใจของประชาชนมากกว่า โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากแผ่นดินไหว แม้ว่าอาฟเตอร์ช็อกจะอยู่ในระดับที่ต่ำมาก จนไม่รับรู้แรงสั่นสะเทือน แต่ก็มีเหตุการณ์ที่ผู้คนอพยพออกมาจากตึก เราต้องมีการสื่อสารเพื่อให้เกิดความมั่นใจ รวมถึงดำเนินการตามที่นายกฯ สั่งการนั่นคือ Full Investigation ว่าสาเหตุของการตึกถล่มเกิดขึ้นเพราะอะไร ต้องหาต้นตอว่าคืออะไร

นอกจากนี้เราต้องมาดูเรื่องมาตรการเยียวยา เช่น ในส่วนของกระทรวงการคลังได้ออกมาตรการโดยให้กรมบัญชีกลาง อนุมัติเงินทดลองให้กรมป้องกันและบรรเทาสาสาธารณภัย (ปภ.) เป็น 200 ล้านบาท และมีมาตรการทางการเงินของสถาบันการเงินของรัฐ ช่วยในเรื่องของสินเชื่อลดต้นลดดอกจำนวนมาก

นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้สั่งการไป 2 ส่วนคือ 1. อาคารหรือชีวิตของประชาชนที่มีการทำประกันไว้ ให้บริษัทประกันภัยที่อยู่ในกำกับทั้งหมดดำเนินการอย่าล่าช้า 2. การประกันภัยในส่วนของตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่น (สตง.) แห่งใหม่ที่ถล่ม ที่มีอยู่ 4 บริษัท ซึ่งได้มีการเบี่ยงเบนความเสี่ยงไปยังต่างประเทศ ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง และเราก็มีอำนาจหน้าที่กำกับให้กระบวนการเป็นไปอย่างรวดเร็ว

รมช.คลัง ยังกล่าวอีกว่า กระทรวงการคลังได้ให้กรมบัญชีกลางไปดูรายละเอียดในการช่วยเหลือ และการเยียวยาประชาชนเนื่องจากเราไม่เคยเจอเหตุการณ์รุนแรงเช่นนี้จึงยังไม่เคยดำเนินการ ดังนั้นต้องไปดูประวัติการเยียวยาในอดีตทั้งหมดว่า กลไกเยียวยาช่วยเหลือจะเป็นอย่างไร โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ อาคารบ้านพัก และชีวิตประชาชน ซึ่งจะต้องดำเนินการให้ ครม. มีมติอนุมัติ ซึ่งหน่วยงานที่เป็นต้นเรื่องจะต้องส่งเรื่องเข้า ครม.

ส่วนจะใช้เกณฑ์อะไรในการเยียวยา นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ต้องไปดูเกณฑ์เก่า เช่น ตอนเกิดเหตุการณ์สึนามิที่ จ.ภูเก็ต หรือตอนเหตุการณ์น้ำท่วมว่ามีการช่วยเหลืออย่างไร และมาดูความเหมาะสม

เมื่อถูกถามว่า ได้ประเมินตัวเลขความเสียหายแล้วหรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ยังไม่มีตัวเลขออกมา แต่มีการประเมินผลกระทบภาคใหญ่แล้ว แต่โดยภาพรวมระยะกลาง และระยะยาวไม่มีผลกระทบ ส่วนจะกระทบเป้า GDP 3% หรือไม่นั้น ก็อาจจะมีปฏิเสธไม่ได้ แต่สุดท้ายเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจก็ต้องลงไปเชื่อว่าอย่างน้อยต้องไม่ต่ำกว่า 3%

Back to top button