
“รมว.พาณิชย์” ลั่น 10 ประเทศอาเซียน จับมือตั้งคณะทำงานพิเศษ รับมือกำแพงภาษีทรัมป์
“พิชัย นริพทะพันธุ์” เผย ผลประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน 10 ประเทศ จับมือตั้งคณะทำงานพิเศษ รับมือนโยบายภาษีนำเข้าใหม่สหรัฐฯ ชูเจรจาสร้างสรรค์-ลดขัดแย้ง-หาทางออกอย่างสมดุล
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 เม.ย.68) ตนได้เข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนนัดพิเศษ ผ่านระบบทางไกล กับรัฐมนตรีเศรษฐกิจจากประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ และติมอร์-เลสเต เพื่อหารือแนวทางเชิงยุทธศาสตร์ของอาเซียนในการรับมือกับนโยบายใหม่ของสหรัฐอเมริกา ที่จะใช้มาตรการจัดเก็บภาษีแบบตอบโต้กับหลายประเทศทั่วโลก และเพื่อลดผลกระทบต่อเศรษฐกิจการค้าการลงทุนในภูมิภาค ตลอดจนห่วงโซ่อุปทานโลก และการดำเนินธุรกิจของเอกชน โดยเฉพาะ SMEs และเกษตรกรของอาเซียน
โดยการประชุมครั้งนี้ อาเซียนมีมติจะออกถ้อยแถลงร่วมของรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน เพื่อแสดงจุดยืนของอาเซียน ในฐานะ “หุ้นส่วนยุทธศาสตร์แบบรอบด้าน” กับสหรัฐฯ พร้อมเสนอการเจรจาเชิงสร้างสรรค์ ลดความขัดแย้งทางการค้า และหาทางออกที่สมดุลร่วมกัน ภายใต้กรอบ ASEAN-US Strategic Trade and Investment Partnership (STIP) เพื่อรักษาความสัมพันธ์ระยะยาวทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และความมั่นคงทางห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาค
โดยอาเซียนจะเดินหน้าสร้างความร่วมมือ ในสาขาศักยภาพสูงกับสหรัฐฯ เช่น ดิจิทัล AI อาหาร พลังงานหมุนเวียน อุตสาหกรรมขั้นสูง รถยนต์ไฟฟ้า เซมิคอนดักเตอร์ สุขภาพ โลจิสติกส์ รวมถึงเกษตรกรรม เพื่อสร้างโอกาสใหม่ให้ภูมิภาค และย้ำถึงความสำคัญของระบบการค้าพหุภาคี โดยอาเซียนจะไม่ตอบโต้ทางการค้าต่อสหรัฐฯ
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติตั้ง คณะทำงานพิเศษ “ASEAN Geoeconomics Task Force” ทำหน้าที่ติดตาม ประเมิน และเสนอแนะนโยบายในการรับมือและใช้ประโยชน์จากทิศทางนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับอาเซียน พร้อมส่งเสริมความร่วมมือทั้งระดับรัฐและเอกชน
นายพิชัย กล่าวอีกว่า ตนได้ติดต่อกับนายจามิสัน กรีเออร์ (Jamieson Greer) ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ในเรื่องนี้มาตั้งแต่เดือนธันวาคมของปีที่ผ่านมา
ซึ่งปัจจุบัน USTR ได้ตอบรับที่จะหารือกับไทยแล้ว โดยทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างนัดหมายวันประชุม เพื่อต่อยอดแนวทางความร่วมมือระหว่างไทย-สหรัฐฯ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายที่ได้รับมอบหมายจาก นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ให้ตนเป็นผู้เจรจาหลักกับ USTR สหรัฐฯ เพื่อกำหนดแนวทางความร่วมมือและการเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่จะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของทั้งสองฝ่าย
ล่าสุด สหรัฐฯ ได้ประกาศระงับการขึ้นภาษีนำเข้าเป็นการชั่วคราว 90 วัน สำหรับประเทศที่แสดงความประสงค์เจรจาปรับสมดุลทางการค้ากับสหรัฐฯ โดยไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้เตรียมหารือเชิงลึกกับสหรัฐฯ ตั้งแต่ปลายปี 2567
ทั้งนี้ สหรัฐฯ เป็นคู่ค้าสำคัญอันดับ 2 ของอาเซียน รองจากจีน โดยมีมูลค่าการค้ารวมในปี 2567 ราว 476,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยอาเซียนส่งออกสินค้าสำคัญไปสหรัฐฯ 5 อันดับแรก คือ ยางและผลิตภัณฑ์จากยาง รองเท้า เครื่องนุ่งห่มและเครื่องประดับเสื้อผ้า ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องจักร และนำเข้าจากสหรัฐฯ 5 อันดับแรก คือ เครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า เครื่องนุ่งห่ม เครื่องจักร วัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร และยานยนต์ ชิ้นส่วน และเครื่องยนต์
สำหรับไทยนั้น สหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 โดยในปี 2567 ไทยมีมูลค่าการค้ารวมกับสหรัฐฯ อยู่ที่ 74,484 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไทยส่งออกไปสหรัฐฯ มูลค่า 54,956 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และนำเข้า 19,528 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เกินดุลการค้ากว่า 35,427 ล้านดอลลาร์สหรัฐ