“สุริยะ” คอนเฟิร์ม! 30 ก.ย. “รถไฟฟ้า 20 บาท” ครอบคลุม 8 สาย ลงทะเบียนผ่านแอปฯ “ทางรัฐ”

“สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” ยืนยันไทม์ไลน์ เดินหน้า “รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย” รวม 8 เส้นทาง 30 ก.ย.นี้ เตรียมเปิดลงทะเบียนให้ใช้สิทธิ์ผ่านแอปฯ “ทางรัฐ” คาดใช้งบชดเชย “เอกชน” ปีละ 8 พันล้าน


วันนี้ (10 เม.ย.68) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยความคืบหน้านโยบายค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายทุกเส้นทางว่า ที่ดำเนินการแล้ว มี 2 เส้นทาง คือ รถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-คลองบางไผ่ และรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน พบว่าได้ผลตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี สะท้อนจากสถิติผู้ใช้บริการสูงที่สุด (นิวไฮ) ตั้งแต่เปิดให้บริการ

สำหรับระยะต่อไป สำหรับเส้นทางอื่น ๆ ที่จะเข้าร่วมมาตรการในเฟสถัดไป ได้แก่ สายสีเขียว, สีทอง, สีเหลือง, สีชมพู, สีน้ำเงิน และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ยืนยันจะประกาศใช้ในวันที่ 30 ก.ย.68 ตามแผนที่กำหนดไว้ ส่งผลให้จะมีรถไฟฟ้าทั้งหมด 8 สาย ที่อยู่ภายใต้นโยบายค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย

ในระยะแรกผู้ที่จะได้รับสิทธิ์ค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย จำกัดเฉพาะผู้ที่มีเลขบัตรประชาชนไทย 13 หลักเท่านั้น และต้องลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” เพื่อยืนยันตังตน และเพื่อให้ระบบสามารถเคลียร์ค่าใช้จ่ายการเดินทางข้ามสายระหว่างผู้ให้บริการแต่ละรายได้ โดยคาดว่าจะเปิดให้ลงทะเบียนในช่วงเดือนสิงหาคม ย้ำการลงทะเบียนจะไม่ยุ่งยาก และไม่ซับซ้อน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน

“หากจะใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ สามารถชำระค่าโดยสารผ่านบัตร MRT Plus และบัตร EMV ส่วนถ้าจะใช้รถไฟฟ้าสายสีเขียว สายสีทอง สายสีเหลือง สายสีชมพู จะต้องชำระค่าโดยสารผ่านบัตร Rabbit โดยไม่ว่าจะใช้บริการกี่สายทาง หรือข้ามสายทางทุกระบบ จะมีค่าโดยสารเพียง 20 บาทเท่านั้น” รองนายกฯและรมว.คมนาคม ระบุ

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า บัตรโดยสารที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน ในช่วงแรกนี้ผู้โดยสารยังคงสามารถใช้บัตรโดยสารที่ใช้อยู่เดิมได้ เพียงแต่ต้องลงทะเบียนบัตรเหล่านั้น ผ่านแอปฯ “ทางรัฐ” ก่อนจึงจะได้รับสิทธิ์ 20 บาทตลอดสาย ขณะเดียวกันใน เฟส 2 คาดว่า ภายในปี 2569 จะเปลี่ยนไปใช้ระบบสแกนชำระค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายผ่านช่องทาง QR Code บนโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะทำให้ในอนาคตไม่จำเป็นต้องใช้บัตรโดยสารอีกต่อไป

ส่วนการชดเชยรายได้ให้เอกชน ประเมินว่า จะต้องใช้ประมาณปีละ 8,000 ล้านบาท โดยจะนำเงินรายได้จากโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน หรือกองทุนการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ที่ปัจจุบันมีประมาณ 16,000 ล้านบาทมาชดเชยรายได้ฯ ภายใต้การขับเคลื่อน ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. …. ผ่านการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมระบบตั๋วร่วม ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการตามกระบวนการ ซึ่งจะเสนอประกาศกฎหมายลำดับรอง ภายในเดือนกันยายน 2568 อย่างแน่นอน

“จากแนวโน้มปริมาณผู้โดยสารที่ตอบรับนโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายนั้น ถือว่า เป็นสัญญาณที่ดีที่รัฐบาล และกระทรวงคมนาคมได้ช่วยลดภาระค่าครองชีพในการเดินทางให้กับพี่น้องประชาชน อีกทั้งยังจูงใจให้หันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้น ลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการช่วยลดปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 และสร้างโอกาสในการเดินทางอย่างเท่าเทียมของคนทุกกลุ่มด้วย” รองนายกฯและรมว.คมนาคม กล่าวทิ้งท้าย

Back to top button