
“พาณิชย์” ถกทูตจีน เร่งผ่อนปรนตรวจสาร “BY2” ตกค้างทุเรียนไทย
กระทรวงพาณิชย์หวังคลี่คลายปัญหาด่านเข้มงวดช่วงฤดูผลไม้ “พิชัย นริพทะพันธุ์” เดินหน้าเจรจาทูตจีน ผลักดันเพิ่มเครื่องมือ-เจ้าหน้าที่ เสริมประสิทธิภาพขนส่งทุเรียนไทยสู่ตลาดจีน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (12 เม.ย.68) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับนายอู๋ จื้ออู่ อัครราชทูต และนางสาวจาง เซียวเซียว อุปทูตด้านเศรษฐกิจและการค้าประจำสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย เมื่อวันที่ 10 เม.ย.68 ว่า ฝ่ายไทยได้ขอให้ทางการจีนพิจารณาผ่อนปรนมาตรการตรวจสอบสารตกค้างในทุเรียน โดยเฉพาะสาร BY2 ที่ปัจจุบันมีการสุ่มตรวจ 100% ซึ่งเป็นหนึ่งในอุปสรรคหลักในการส่งออกผลไม้ไทยในช่วงฤดูกาลนี้
โดยไทยเสนอให้จีนเพิ่มความรวดเร็วในการตรวจสินค้า ณ ด่านนำเข้า รวมถึงเพิ่มอุปกรณ์ตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ประจำด่าน และแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบเรียลไทม์ เพื่อให้การกระจายสินค้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและลดความแออัด
ด้านอัครราชทูตจีน ระบุว่า จะนำข้อเสนอของไทยไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมย้ำให้ไทยเร่งยกระดับมาตรการควบคุมสารตกค้างก่อนส่งออก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคจีน โดยกระทรวงพาณิชย์จะประสานกับกรมวิชาการเกษตรเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน
นายพิชัย เปิดเผยอีกว่า เมื่อในปี 2567 ไทยส่งออกทุเรียนไปจีนรวมมูลค่าประมาณ 3,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 833,000 ตัน คิดเป็นสัดส่วนถึง 97.4% ของการส่งออกทุเรียนทั้งหมดของไทย ซึ่งจีนยังคงเป็นตลาดหลักที่มีศักยภาพสูง
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) รายงานว่า ด่านศุลกากรหนานหนิงได้ขยายเวลาเปิดทำการ เพิ่มเจ้าหน้าที่ และเปิดช่องนำเข้าสินค้าเกษตรอาเซียนเป็นกรณีพิเศษ พร้อมใช้ระบบนัดหมายล่วงหน้าเพื่อเพิ่มความคล่องตัว ขณะเดียวกัน ยังมีความพยายามผลักดันให้รถขนส่งจากเวียดนามใช้ช่องทางทวิภาคี จีน-เวียดนาม เพื่อลดความหนาแน่นของด่าน
นอกจากนี้ ด่านศุลกากรหนานหนิงยังมีแผนเพิ่มช่องทางจราจรเป็น 3 ช่องทางเข้าและ 3 ช่องทางออก จากเดิมที่มีเพียง 2 ช่อง และอยู่ระหว่างก่อสร้างห้องแล็บตรวจสาร BY2 คาดแล้วเสร็จภายในพฤษภาคมนี้
สำหรับด่านศุลกากรคุนหมิง ได้ขยายเวลาทำงาน เพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ และขยายห้องแล็บตรวจสาร BY2 จาก 3 ห้องเป็น 5 ห้อง ซึ่งสามารถตรวจสอบสินค้าได้ถึงวันละ 400 ตัวอย่าง พร้อมเตรียมขยายช่องทางขาเข้า-ขาออกจาก 2 ช่องเป็น 12 ช่อง คาดว่าจะพร้อมใช้งานต้นปี 2569
ส่วนในด้านการตลาด กระทรวงพาณิชย์เตรียมแผนสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพและความปลอดภัยของทุเรียนไทยในตลาดจีน ด้วยการเน้นจุดเด่นเรื่องรสชาติ ความเป็นเอกลักษณ์ และการขยายตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อเข้าถึงผู้บริโภครุ่นใหม่
พร้อมกันนี้ ยังมีแผนส่งเสริมการขายผ่านงานแสดงสินค้าในเมืองใหญ่ของจีน และจัดกิจกรรมพิเศษ เช่น เมนูทุเรียนในร้านอาหาร Thai SELECT, ทุเรียนทัวร์, และบุฟเฟ่ต์ทุเรียนในห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า
ทั้งนี้ ทุเรียนถือเป็นผลไม้ไทยที่ได้รับความนิยมสูงในจีน โดยเฉพาะพันธุ์หมอนทอง ซึ่ง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เคยเปิดเผยในรายการ “โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” เมื่อวันที่ 25 ก.พ.68 ว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำสูงสุดของจีน ชื่นชอบทุเรียนหมอนทองเป็นพิเศษ เป็นผลไม้ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งสะท้อนถึงโอกาสอันแข็งแกร่งในการขยายตลาดผลไม้ไทยในจีน