
SCB EIC ส่งซิก! ธุรกิจไทยต้องเร่งใช้สูตร “4P” ก่อนพายุเศรษฐกิจโลกถล่ม
SCB EIC เตือนภาคธุรกิจไทย อย่ารอให้พายุการค้าก่อตัวเต็มกำลัง มองการเลื่อนเก็บภาษีเต็มรูปแบบ 90 วันของสหรัฐฯ ไม่ใช่สัญญาณแห่งความรอด แต่คือ “โอกาสสุดท้าย” ก่อนจะเจอคลื่นลูกใหญ่ซัดเข้าใส่เศรษฐกิจไทยอย่างเต็มแรง
ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจไทยพาณิชย์ หรือ SCB EIC ประเมินว่า กรณีสหรัฐอเมริกา ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเลื่อนมาตรการภาษีตอบโต้ (Reciprocal tariffs) เต็มรูปแบบออกไป 90 วัน มองว่าการเลื่อนครั้งนี้ “อาจช่วยซื้อเวลาได้ แต่ไม่ใช่คำตอบ”
โดยในช่วงเวลาผ่อนผันนี้ ประเทศต่าง ๆ รวมถึงไทย จะถูกเก็บภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ ที่อัตราพื้นฐาน 10% ยกเว้นจีนที่ถูกเก็บสูงถึง 145% ทันที เปิดโอกาสให้ภาคธุรกิจไทยเร่งส่งออก ก่อนจะเจอกับภาษีตอบโต้ในอัตราสูงถึง 36% ซึ่งอาจเริ่มบังคับใช้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
SCB EIC ระบุอีกว่า แม้การชะลอมาตรการภาษีจะช่วยลดแรงกระแทกในระยะสั้น แต่เศรษฐกิจไทยยังคงต้องเผชิญกับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม ผ่านช่องทางสำคัญ เช่น
- การส่งออกสินค้าขั้นกลางไปยังประเทศคู่ค้า ที่อาจชะลอตัว โดยเฉพาะจีนที่โดนภาษีหนักจากสหรัฐฯ
- สินค้าจีนทะลักเข้าสู่ไทยและตลาดโลก ทำให้การแข่งขันด้านราคารุนแรงขึ้น
- เศรษฐกิจโลกชะลอตัว กระทบต่ออุปสงค์สินค้าส่งออก
- แรงกดดันให้ไทยเปิดตลาดให้สหรัฐฯ
- โอกาสแทรกตัวส่งออกแทนจีนในบางสินค้า
- ห่วงโซ่อุปทานโลกเปลี่ยนทิศ กระทบต่อการลงทุนในไทย
SCB EIC ประเมินว่า หากไทยถูกเก็บภาษี 36% อย่างเต็มรูปแบบในช่วงครึ่งปีหลัง จะมีธุรกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยเฉพาะกลุ่มที่พึ่งพาการส่งออกไปสหรัฐฯ และจีนสูง ได้แก่
- อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าหลักอย่างเซมิคอนดักเตอร์และอุปกรณ์สื่อสาร ส่งออกไปสหรัฐฯ สูงถึง 67%
- ชิ้นส่วนยานยนต์ สหรัฐฯ ถือเป็นตลาดสำคัญ ครองสัดส่วนสูงถึง 25%
- ถุงมือยางและผลิตภัณฑ์พลาสติก โดนทั้งทางตรงและทางอ้อมจากจีนและคู่แข่งที่ภาษีต่ำกว่า
- แผงโซลาร์เซลล์ ถูกภาษีซ้ำซ้อนทั้งจากมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด และภาษีตอบโต้ใหม่
- สินค้าประมง (โดยเฉพาะกุ้ง) ไทยเริ่มเสียส่วนแบ่งให้กับเอกวาดอร์และอินเดียที่ต้นทุนต่ำกว่า
นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายกลุ่มที่ได้รับผลกระทบระดับปานกลางถึงต่ำ เช่น เม็ดพลาสติก น้ำมันปาล์ม อาหารสัตว์เลี้ยง ข้าว และผลิตภัณฑ์นม
SCB EIC คำนวณว่า หากภาษีตอบโต้ 36% ถูกใช้ต่อเนื่องเป็นเวลา 5 ปี จะทำให้มูลค่าการส่งออกไทยไปสหรัฐฯ ลดลงสะสมสูงถึง 8.1 แสนล้านบาท และหากลากยาวถึง 10 ปี ตัวเลขจะพุ่งทะลุ 1.4 ล้านล้านบาท และเมื่อเวลาผ่านไป ความเสียหายจะไม่เพียงรุนแรง — แต่กลายเป็นเรื่องถาวรที่พลิกโฉมการค้าไทยไปตลอดกาล
SCB EIC เสนอว่า ผู้ประกอบการไทยควรเร่งปรับตัวด้วยกลยุทธ์ “4P” ได้แก่
- Product พัฒนาสินค้าคุณภาพสูง มีมูลค่าเพิ่ม สร้างความแตกต่าง
- Place กระจายตลาด ลดการพึ่งพาสหรัฐฯ มุ่งสู่จีน อินเดีย EU และตลาดเกิดใหม่
- Preparedness บริหารความเสี่ยงรอบด้าน ทั้ง Supply chain และการเงิน
- Productivity เพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และเร่งใช้เทคโนโลยี
ทั้งนี้ แม้การเลื่อนภาษี 90 วันจะดูเหมือนข่าวดี แต่ SCB EIC เตือนชัดว่า นี่อาจเป็น “ช่วงเวลาทองสุดท้าย” ที่ภาคธุรกิจไทยต้องเร่งปรับตัวให้ทันก่อนที่เกมการค้าโลกจะเข้าสู่ด่านโหด แบบถาวร หากยังใช้สูตรเดิมในการทำธุรกิจ อาจไม่รอดในโลกใหม่ ซึ่งความไม่แน่นอนกลายเป็นเรื่องปกติ และคำว่า “รอด” อาจต้องแลกด้วยการเปลี่ยนแปลงที่กล้าหาญและเด็ดขาด